[รีวิวเกม] “Tekken 7” ตำนานนักสู้หมัดเหล็กกลับมาแล้ว
Our score
8.3

Tekken 7

จุดเด่น

  1. กราฟิกดูดี
  2. เกมเพลย์สนุกเหมือนเดิม
  3. โหมดเนื้อเรื่องที่เข้มข้น

จุดสังเกต

  1. สิ่งที่เพิ่มมาน้อยไปหน่อย
  • กราฟิก และงานออกแบบ

    9.0

  • เกมเพลย์

    8.5

  • ความแปลกใหม่

    7.5

  • ความคุ้มค่า

    8.0

  • ภาพรวม

    8.5

Tekken หนึ่งในตำนานเกมต่อสู้ ที่กำเนิดในยุค 90 และมีประวัติมายาวนาน และหลังจากภาค 7 ได้ออกเวอร์ชั่นเกมตู้อาเขตไปเมื่อปี 2015 ในที่สุดก็เดินทางมาออกบนคอนโซลให้แฟนเกมไฟท์ติ้งได้สมหวังกันเสียที

เกม Tekken สมัยที่ออกวางขายในปี 1995 ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร เพราะนอกจากจะเป็นเกมต่อสู้ 3D เกมในยุคแรกๆแล้วยังมีความโดดเด่นด้วยการออกแบบตัวละคร และเนื้อเรื่องราวที่เข้มข้น ที่ทำให้มันแตกต่างกับเกมต่อสู้ 3D ในยุคนั้น และมีการสานต่อเรื่องราวมาจนถึงภาคล่าสุด ที่ทีมงานบอกไว้ว่าจะเปิดการปิดตำนานของสงครามสายเลือดของ ตระกูล Mishima ทำให้ยิ่งน่าสนใจ

ก่อนจะเริ่มเล่นกราฟิกเป็นสิ่งที่ต้องพูดถึง เพราะมันถูกสร้างด้วย Unreal Engine 4 ทำให้มันออกมาดูดี เฟรมเรตไม่ตก (เล่นบน PS4) และคัทซีนในเกมสามารถผสานกับเกมเพลย์ได้อย่างต่อเนื่องในโหมด เนื้อเรื่องหลัก ทำให้เป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่กราฟิกดูดีที่สุดเกมหนึ่งในยุคนี้ ส่วนเพลงประกอบเกมก็ยังคงมาแนวทางเดิมไม่มีเปลี่ยน ที่ไม่ค่อยมีเพลงธีมติดหูเท่าไรแต่ก็ฟังได้เพลินๆ

ไฮไลท์ของภาคนี้คือโหมดเนื้อเรื่องหลักที่เกี่ยวกับ ศึกสายเลือดของตระกูล Mishima แต่ในโหมดนี้เราจะเลือกตัวละครไม่ได้ ต้องเล่นตามเนื้อเรื่องที่เกมกำหนด ที่จะแบ่งออกเป็นตอนๆเล่าเรื่องผ่านนักข่าวที่ออกทำข่าวเกี่ยวกับตระกูลมิชิม่า ระหว่าง Heihachi Mishima กับ Kazuya Mishima ที่มีทั้ง CG คัทซีนงามๆ กับภาพนิ่งโดยรวมแล้วแม้จะไม่มีอะไรแปลกใหม่และเนื้อเรื่องดูเดาง่ายแต่สำหรับแฟน Tekken แล้วถือเป็นจุดจบที่ดี แถมยังมีการผูกเรื่องให้มีตัวละครจาก Street Fighter อย่าง อาคูม่า ไปผสมโรงได้อย่างลงตัวเสียด้วย

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ เนื้อเรื่องของตัวละครอื่นเป็นเพียงฉากสั้นๆ เท่านั้นทำให้แอบเซ็งไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีมาให้ และด้วยปริมาณของตัวละครที่มากกว่า 30 ตัวทำให้เราสนุกกับมันได้ยาวนาน โดยมีทั้งตัวละครรุ่นแรกจากซีรีส์ Tekken และตัวใหม่ๆมากันเกือบครบ และอย่างที่บอกว่าหนึ่งในนั้นคือ อาคูม่า ที่มีการปรับรูปแบบมาให้เข้ากับซีรีส์ Tekken ได้ลงตัวมาก

รูปแบบการเล่นยังคงเหมือนเดิม ที่เป็นเกมต่อสู้ 3 มิติที่เน้นการปล่อยท่าแบบคอมโบต่อเนื่อง เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่มีการปรับสมดุลใหม่ เพราะตัวละครที่เคยปล่อยท่าง่ายๆ ก็เปลี่ยนไปให้กดได้ยากขึ้น ที่ทำให้เกมดูต่างจากภาคก่อนๆแม้จะไม่มากก็ตาม

ส่วนระบบที่โดดเด่นในภาคนี้ Rage Art ที่เหมือนเป็นท่าไม้ตายสุดยอด, Rage Drive ท่าพิเศษที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น , Power Crush ที่เหมือนเป็นท่าสวนกับที่หากฝึกฝนดีๆมันจะช่วยเราได้อย่างมากในการเล่น, และยังมีการใส่ภาพแบบ Slow Motion ในการต่อสู้เพื่อเพิ่มอรรถรส โดยรวมในส่วนของเกมเพลย์ไม่มีอะไรใหม่มากเท่าที่ควร แต่ก็ยังรักษามาตรฐานของเกมต่อสู้ระดับแถวหน้าของวงการไว้แบบไม่เสียของ

ส่วนโหมดเล่นคนเดียวที่เหลือก็คล้ายกับเกมต่อสู้ทั่วไปเช่นโหมดอาเขต โหมด VS เล่นกับเพื่อน และยังเสริมด้วยโหมด Treasure Battle ที่เมื่อเล่นผ่านแล้วจะได้ไอเทมจากกล่องสมบัติ นอกจากนี้ยังมีโหมดที่เปิดโอกาสให้เราปรับแต่งตัวละครได้โดยเปลี่ยนได้ทั้งชุดและเครื่องประดับที่ต้องใช้ Fight Money ที่ได้จากการต่อสูมาปลดล็อก

และสำหรับแฟนเกมรุ่นเก่าที่เล่นมาตั้งแต่ Tekken ภาคแรกทางผู้สร้างได้ใส่ โหมด Gallery ที่เหมือนแฟนเซอร์วิส ที่มีคลิปจากภาคเก่าๆทุกภาคมาให้ชม แต่ต้องทำใจหน่อยเพราะภาพเกมสมัย PS1 มาอยู่บนจอ Full HD แล้วภาพจะแตกละเอียด โดยคลิปคัทซีนพวกนี้นอกจากอยู่ในโหมดนี้แล้วยังมีการใส่ในโหมดเนื้อเรื่องตอนที่ตัวละครรำลึกถึงความหลังด้วย แต่การปลดล็อกคลิปเหล่านี้ก็ต้องใช้ Fight Money เช่นกัน ต่อด้วยโหมด jukebox ที่มีเพลงประกอบเกมซีรีส์ Tekken มาให้เราเลือกฟังครบทุกภาค

แน่นอนว่าต้องมีโหมดออนไลน์ที่ใน Tekken 7 มีไฮไลท์อยู่ที่การแข่งแบบ Tournament Mode ที่เล่นได้ 8 คน ที่เมื่อชนะการแข่งจะได้ Fight Money จำนวนมาก และยังมี Rank Match ที่จัดหาคู่แข่งแบบที่มีระดับใกล้เคียงกัน และสามารถเลือกรูปแบบของการแข่งได้ ทำให้มือใหม่หรือเซียนเกมสนุกไปกับการออนไลน์ได้หมดแบบไม่มีแบ่งแยก

เอาเข้าจริงๆการกลับมาของตำนานหมัดเหล็กในเกม Tekken 7 นี้ถือว่าเป็นต่อสู้ 3D ที่สนุกเหมือนเดิม และหากคุณเป็นแฟนเกม Tekken มาทุกภาคแล้วก็ไม่ควรพลาดการลงสังเวียนในครั้งนี้ ส่วนมือใหม่ที่ไม่เคยเล่นมาก่อนก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน เพราะมันคือเกมต่อสู้ที่มีความลงตัวทั้งรูปแบบการเล่นและกราฟิก

Play video