[รีวิวเกม] Splatoon 2 เกมยิงขั้นเทพจากนินเทนโด (Nintendo Switch)
Our score
9.0

Splatoon 2

จุดเด่น

  1. เฟรมเรตลื่นไหล
  2. กราฟิกดูดีขึ้น
  3. เกมเพลย์สนุกลงตัวมาก
  4. โหมดออนไลน์สร้างออกมาดี

จุดสังเกต

  1. อัพเกรดจากภาคแรกไม่มากเท่าที่ควร
  2. ระบบ Voice Chat ต้องใช้มือถือ
  • กราฟิก และงานออกแบบ

    9.0

  • เกมเพลย์

    9.5

  • ความแปลกใหม่

    8.5

  • ความคุ้มค่า

    9.0

  • ภาพรวม

    9.0

หลังจากประสบความสำเร็จแบบถล่มทลายกับเกมยิง Splatoon ภาคแรก ที่ขายได้หลายล้านชุดแม้ว่าจะออกบน WiiU ที่ขายไม่ค่อยดีนัก แต่ด้วยความสนุกและแปลกใหม่ทำให้มันสามารถคว้ารางวัลเกมยอดเยี่ยมมาแล้วจากหลายสำนัก

แน่นอนว่าจากความสำเร็จต้องมีการสร้างภาคต่อมาอย่างแน่นอนและการมาของ Splatoon 2 บน Nintendo Switch ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมฟอร์มยักษ์ที่แม้อาจจะไม่ได้อัพเกรดจากภาคแรกมากนักเมื่อมองแค่กราฟิก แต่พอได้สัมผัสแล้วก็ถือว่าพอจะมีอะไรแตกต่างจากภาคแรกอยู่ โดยเฉพาะรายละเอียดของฉากที่ถูกยกระดับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และมีเฟรมเรตที่ลื่นไหลสุดๆ แม้จะเล่นบนหน้าจอทีวีคุณภาพสูงกราฟิกในเกมก็ยังดูดีในระดับ 1080p ตัวละครที่ออกแบบมาได้หลุดโลกและเต็มไปด้วยสีสันที่บาดตาบาดใจเหมือนเดิม เช่นเดียวกับเพลงประกอบสุดแนวที่ยังคงรักษาความดีงามไว้ มีเพลงจังหวะมันส์ๆ อยู่เพียบ และมันเข้ากับรูปแบบการเล่นมาก

รูปแบบการเล่นพื้นฐานมันคือเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 ที่ไม่ได้ยิงปืน แต่ยิงหมึกสีใส่คู่แข่ง ที่จะมีสีประจำทีมที่แตกต่างกัน ซึ่งในภาคแรกถือว่าเป็นไฮไลท์เพราะนอกจากความแปลกใหม่แล้วยังเป็นบทพิสูจน์ว่าปู่นินก็ทำเกมยิงที่สนุกและแตกต่างจากคู่แข่งได้ และภาคนี้มันได้ถูกยกระดับความสนุกขึ้นมาให้เราได้สัมผัสความสนุกที่ไม่สามารถหาได้ในเกมอื่น

การควบคุมบังคับของเกมจะใช้ปุ่มกดเป็นหลัก แต่จะมีการใช้ระบบจับการเคลื่อนไหวของ Joy-con เพื่อปรับเปลี่ยนมุมกล้องซึ่งเราสามารถปิดได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่าส่วนตัวแล้วชอบแบบจับการเคลื่อนไหวมากกว่า เพราะมันทำให้เราเล็งยิงได้แม่นยำกว่า และเมื่อมาอยู่บน Nintendo Switch ที่สามารถเป็นทั้งเครื่องพกพาและโฮมคอนโซล ทำให้มันสามารถเล่นบนทีวี และเอาออกไปเล่นนอกบ้าน รวมทั้งการเล่นในโหมดแท็บเล็ต ก็ยังมีมาให้เล่นกันครบ

โดยโหมดแรกที่จะพูดถึงก่อนคือ Heroโหมดเนื้อเรื่องที่ยังคงสานต่อจากภาคแรก และในส่วนของเกมเพลย์ที่ยกระดับขึ้นทั้งฉากในเกมที่มีลูกเล่นใหม่ๆ มาให้เล่นเพียบ ศัตรูและบอสในเกม ถูกปรับปรุงขึ้นมาก แม้ว่าโดยรวมโหมดเล่นคนเดียวจะไม่ได้ยาวมากมาย แต่ก็เหมือนกับได้เล่นเกมแอ็คชั่นตะลุยด่านสนุกๆ จากนินเทนโด ที่กลับมาเล่นได้แบบไม่รู้เบื่อ แลเหมือนเป็นจะเป็นการฝึกฝีมือเพื่อไปลงสังเวียนในโหมดออนไลน์

ส่วนระบบอาวุธ ที่มีการอัพเกรดเพิ่มเติมใส่ของใหม่เข้าไป และที่เป็นไฮไลท์คือ “ปืนคู่” ที่นอกจากจะคล่องตัวแล้วยังทำให้ผู้ที่ใช้สามารถกลิ้งหลบศัตรูได้ และยังมีอาวุธเสริมเช่นระเบิด ที่แยกตามประเภทของอาวุธหลักที่มีความหลากหลาย และอาวุธแต่ละประเภทจะมีท่าไม้ตายพิเศษที่ต้องค่อยๆเก็บสะสมพลังเมื่อเต็มแล้วถึงจะใช้ได้ ที่แต่ละท่ามีความแตกต่างและทรงพลัง เช่นการใช้ jet pack ฉีดสีใส่พื้น หรือยิงจรวดขีปนาวุธ ใส่ศัตรูได้เป็นกลุ่ม หรือปืนสไนเปอร์ที่มีท่าพิเศษยิงสีหมึกทะลุกำแพงได้ และที่ต้องชมคือเกมมีการปรับสมดุลอาวุธได้ดี ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ และมีความจำเป็นในการเล่นเป็นทีมทั้งสิ้น

ส่วนไฮไลท์ของเกมอยู่ที่โหมดออนไลน์ ที่โหมดพื้นฐาน Turf War ที่เป็นการแบ่งเป็นทีมแข่งกับเพื่อน แบบ 4 VS 4 ที่แข่งกันพ่นสีหมึกไปตามพื้นเพื่อทำพื้นที่ และเมื่อหมดเวลาก็จะนับเป็น % แล้ววัดผลแพ้ชนะกัน ซึ่งยังคงสนุกเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือด่านที่ออกแบบมาได้ซับซ้อนมีการใส่ลูกเล่นใหม่ๆเข้าไปได้อย่างลงตัวมาก มีจุดที่ให้ซุ่มยิง และมีรายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม

และยังมีโหมด SPlat Zones ที่เป็นการแย่งชิงพื้นที่ ที่อาจดูคล้ายกับโหมดในเกมยิงอื่น แต่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงานของนินเทนโดย่อมไม่ธรรมดา เพราะการออกแบบฉากที่เปิดโอกาสให้เราวางกลยุทธ์ทำให้การเล่นแบบเดิมๆกลับสนุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมีโหมด Tower Control ที่เป็นการแข่งกันชิงเสาที่จะเคลื่อนที่ได้ และปิดท้ายกับ Rainmaker แข่งกันแย่งอาวุธเทพที่ทรงพลังแล้วนำไปที่เส้นชัย ที่ล้วนเป็นการเล่นแบบมัลติเพลย์เยอร์ที่สนุกกว่าที่คิดและปู่นินดูตั้งใจทำมาก

ส่วนอีกไฮไลท์ของโหมดมัลติเพลย์เยอร์คือ Salmon Run ที่เราต้องร่วมมือเป็นทีมในการต่อสู้กับปลา Salmon กลายพันธุ์ ที่มาเป็นกองทัพเหมือนกับซอมบี้ โดยเป้าหมายของโหมดนี้คือการนำไข่ปลาไปยังจุดที่กำหนดเป็นเหมือนการฝึกการเล่นเป็นทีม ที่ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะเมื่อเล่นไปเรื่อยเกมจะค่อยๆโหดขึ้นมีปลากลายพันธุ์แปลกๆออกมาไล่ล่าเราจนยากที่จะรับมือได้หากไม่ร่วมมือกันเป็นทีม

และเมื่อเล่นในโหมดมัลติเพลย์เยอร์ผ่านไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็จะมีการเก็บค่า EXP , อัพเกรดสกิลใหม่ๆ และยังได้ เงินเพื่อนำมาซื้อเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ ที่ยังมีการอัพเกรดสกิล Gear Abilities ที่ใส่สกิลในช่องของเสื้อผ้า โดยเฉพาะสกิลภาคนี้ถือว่ายังคงโดดเด่น แต่ก็ไม่ได้สามารถอัพได้จนเก่งแบบโอเวอร์จนเกินไปแต่ก็เสริมให้มีความแตกต่าง โดยสกิลเด่นๆก็มีทั้งการเดินในน้ำหมึกต่างสี หรือเพิ่มความเร็ว และยังมีสกิลอีกหลายประเภทที่ช่วยให้ผู้เล่นอยู่กับเกมได้ยาวนานมากขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ระบบออนไลน์จะดี แต่การ Voice Chat ยังคงต้องใช้สมาร์ทโฟน คุยผ่าน app ที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนของ Switch ที่อยากให้สามารถคุยผ่านเครื่องไปเลยมากกว่า

สรุปแล้วการมาของ Splatoon 2 มันสนุกมากพอที่จะเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องซื้อเครื่อง Nintendo Switch ได้เลย แถมยังเล่นได้ยาวนานกับโหมดออนไลน์ที่นินเทนโดจะจัดกิจกรรมและอัพเกรดสิ่งใหม่ๆให้อีกพักใหญ่แน่นอน ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้หากคุณมี Nintendo Switch ไว้ครอบครองไม่ควรพลาดที่จะเป็นเจ้าของเกม Splatoon 2 เป็นหนึ่งในเกมยิงที่สนุกที่สุดในรอบปี

Play video