Our score
7.5รีวิวเกม Miitopia (Nintendo Switch) เกม RPG ที่สร้างเพื่อนเป็นบอสใหญ่ในเกมได้
จุดเด่น
- เล่นง่าย เข้าใจง่ายระบบไม่ซับซ้อน
- สร้าง Mii ไปเป็นตัวละครได้หลากหลาย เป็นบอสใหญ่ก็ได้
- ระบบสายสัมพันธ์ที่หลากหลายและอัปเกรดได้ตลอด
จุดสังเกต
- ไม่มีอะไรใหม่มากนักเมื่อเทียบกับภาค 3DS
- กราฟิกดูธรรมดาไปหน่อย
- รูปแบบการเล่นขาดรายละเอียด
ในอดีตการสร้างตัวละคร Avatar แทนตัวผู้เล่นนั้นเริ่มได้รับความนิยมบนคอนโซล Wii ของนินเทนโด ที่เราจะสร้างตัวละครที่หน้าตาเหมือนผู้เล่นได้ตามใจชอบที่เรียกว่า Mii และหลังจากนั้นหลายค่ายก็เดินรอยตาม และปู่นินยังสานต่อความสำเร็จไปอยู่ในหลายเกมด้วยเช่น Super Smash Bros. ที่มีตัว Mii มาให้เล่นด้วย
แต่เกมที่ใช้ตัวละคร Mii แบบจัดเต็มจริง ๆ ในอดีตก็มีออกมาแล้วในชื่อ Miitopia บน 3DS ที่มาในรูปแบบ RPG ที่ใช้ตัวละครที่เราสร้างเองได้มาเล่าเรื่องผ่านโลกแฟนตาซี แม้อาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมายอะไร แต่หากคุณเคยเล่นบน 3DS มาก่อนคงจะรู้ว่ามันก็มีเสน่ห์หลายอย่างที่หาไม่ได้ในเกม RPG ทั่วไป และยังเข้าถึงง่ายเล่นง่ายไม่มีพิษมีภัย และผ่านมาหลายปีนินเทนโดได้สร้าง Miitopia ภาคใหม่บนคอนโซลลูกผสม Nintendo Switch
กราฟิกเหมือนเดิมเพิ่มเติมรายละเอียดแบบ HD
แน่นอนว่าในเมื่อเกมใช้ตัวละคร Mii มาเป็นแนวทางหลักทำให้กราฟิกใน Miitopia ออกมาดูน่ารักเหมือนการ์ตูนเด็ก นอกจากนี้ฉากในเกมเต็มไปด้วยองค์ประกอบที่จำลองมาจากโลกแฟนตาซียุคกลาง ที่มาแนว Final Fantasy หรือ Dragon Quest เหมือนกับภาคบน 3DS แต่ในเมื่อออกบน Switch ทำให้มีการเพิ่มรายละเอียดเข้าไปทั้งความละเอียดแบบ HD ที่ดูดี นอกจากนี้แสงเงาและรายละเอียดของฉากที่สวยงามในระดับน่าพอใจสำหรับมาตรฐานเกมในยุคนี้ แม้ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายแต่เมื่อเทียบกับแนวทางของเกมและความลื่นไหลของเฟรมเรตแล้วถือว่า Miitopia สอบผ่าน
แต่น่าเสียดายที่เพลงประกอบทำได้ราบเรียบมากไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ส่วนเสียงพากย์ที่ไม่มีอยู่แล้วตั้งแต่ต้นฉบับบน Nintendo Switch ก็ยังไม่มีเหมือนเดิมซึ่งความจริงในส่วนของเพลงประกอบน่าจะทำให้ดีกว่านี้หน่อย ส่วนเรื่องราวในเกมยังคงเหมือนกับบน 3DS ที่ว่าด้วยโลกแฟนตาซีที่ผู้คนในโลกใบนี้ได้ถูกปีศายร้ายขโมยใบหน้าไป ทำให้เราต้องออกไปทวงคืนใบหน้าของตัวละคร Mii ในเมืองให้กลับคืนมาอีกครั้ง
รูปแบบการเล่น RPG แบบเส้นตรงที่ไม่โดดเด่นแต่สนุก
Miitopia บน Switch ยังใช้รูปแบบเดียวกับ 3DS คือเป็นแนว RPG แบบเลือกใส่คำสั่งแล้วผลัดกันโจมตีหรือที่เรียกว่า เทิร์นเบส RPG แต่จะตัดรายละเอียดออกไปหลายส่วนเพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น เช่นฉากแผนที่ ที่ตัวละครเราจะเดินตามเส้นทางที่เกมกำหนดไว้ แม้จะมีทางแยกย่อยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอิสระเท่ากับเกม RPG อื่น ส่วนฉากในหมู่บ้านหรือปราสาทก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย และยังบอกหมดว่าต้องไปทำอะไรที่ไหนกันบ้างทำให้การเล่นไม่ติดขัดลื่นไหล แต่ก็ขาดรายละเอียดและไม่มีความท้าทายในส่วนของเนื้อเรื่อง
ส่วนฉากที่เป็นดันเจี้ยนในเกมก็ทำมาเป็นเส้นตรง ผู้เล่นไม่สามารถบังคับตัวละครให้เดินได้โดยตรงทำได้เพียงเลือกได้ว่าจะไปทางซ้ายหรือขวาเมื่อเราเดินถึงทางแยกเท่านั้น และเมื่อเราเดินไปถึงจุดพักจะมีโรงแรมให้เรานอนเพื่อเติมพลัง ซึ่งมันเป็นจุดเด่นเพราะเราจะสามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่างนอกจากการนอนเติมพลัง เพราะเราสามารถใช้เงินซื้ออาวุธและชุดเกราะได้ที่นี่แต่จะเป็นแบบสุ่มเลือกไม่ได้ และเรายังเอาของกินที่เก็บมาได้ระหว่างเดินทางมากินเพื่อเพิ่มค่าพลังในส่วนต่าง ๆ ได้ และแน่นอนว่ามันเป็นสถานที่ใช้ทำกิจกรรมพิเศษ เช่นการสานสายสัมพันธ์กับเพื่อน เช่นไปเที่ยวดูหนังฟังเพลง และยังมีมินิเกมให้เล่นเพื่อปลดล็อกไอเทมใหม่ ๆ ด้วย
ส่วนระบบต่อสู้ในเกม Miitopia จะใช้การตัดเข้าฉากต่อสู้แบบสุ่ม ซึ่งเป็นรูปแบบเกม RPG ในอดีตและเมื่อตัดเข้าฉากผู้เล่นจะต้องเลือกคำสั่งที่มีทั้งโจมตี ใช้ไม้ตายหรือท่าพิเศษไว้ต่อสู้และเติมพลัง นอกจากนี้ยังมีความสามารถพิเศษใหม่ออกมาตลอด โดยเฉพาะท่าประสานกับเพื่อน ๆ ร่วมทีมที่จะโผล่ออกมาแบบไม่ให้ตั้งตัว และมันจำเป็นอย่างมากเพราะการประสานพลังของสองตัวละครจะมีพลังทำลายมากกว่า อีกทั้งศัตรูในเกมมีความโหดพอสมควรแตกต่างกับภาพในเกมที่ดูน่ารัก เพราะศัตรูธรรมดาก็อัดเราตายยกทีมได้ แต่หากเราเก็บเลเวลและติดตั้งอาวุธเทพ ๆ แล้วก็ไม่ได้ยากเย็นเกินไปเพราะผู้สร้างไม่อยากให้เราเครียดกดดันในการเล่นอยู่แล้ว
จุดเด่นสร้างเพื่อนหรือครอบครัวมาเป็นตัวละครในเกม
ตั้งแต่ภาคแรกจุดเด่นที่สุดของ Miitopia คือการสร้างตัวละคร Mii แล้วเอามาเป็นตัวเอกหรือตัวร้ายและตัวประกอบได้ ฟังดูธรรมดาแต่เนื่องด้วยตัว Mii ส่วนใหญ่จะเป็นคนในครอบครัวของเราหรือเพื่อนสนิทของเรา ทำให้กลายเป็นความสนุกที่เราสามารถสร้างบอสใหญ่ในเกมเป็นเพื่อน หรือจับหัวหน้าในบริษัทให้เป็นตัวร้ายในเกมได้ด้วย และเกมมีการเขียนเรื่องราวให้มีความสนุกสนานเฮฮายิ่งทำให้มันสนุกกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะฉากที่ดราม่าหรือตลกร้ายที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเดินเรื่องราวไปกับตัวละครไหน ทำให้เราสามารถเอาคนที่เราแอบชอบมาเป็นนางเอกของเกมและเดินเรื่องตามรูปแบบที่ผู้เล่นต้องการได้ด้วย
นอกจากนี้การสานสัมพันธ์ระหว่างตัวละครจำเป็นมาก เพราะอย่างที่บอกไปว่ามันจะเป็นการเพิ่มค่าพลัง และอัปเกรดท่าไม่ตายใหม่ของตัวละครได้ ดังนั้นระหว่างเล่นหากมีจุดที่สามารถเพิ่มความสัมพันธ์ได้ต้องรีบทำ เพราะใน Miitopia ส่วนใหญ่จะใช้ระบบสุ่มตลอด ทำให้หากพลาดอะไรไปแล้วก็จะพลาดไปเลย
และแม้รูปแบบการเล่นจะดูเชยมากเพราะแทบไม่แตกต่างจากภาคแรกมากนัก แต่มันก็เพิ่มโหมดปรับความเร็วในการเล่นได้ ทำให้เราสนุกไปกับเกมได้รวดเร็วมากจนไม่รู้สึกว่ามันเป็นแนว RPG แบบใส่คำสั่งที่ดูเชยอะไรมากมาย อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็นเกมเฉพาะกลุ่มคนที่อยากสัมผัสเกมที่เล่นได้เพลิน ๆ ไม่เครียดอะไรมากมาย ดังนั้นใครอยากหาความท้าทายระดับสุดโหด Miitopia อาจจะไม่เหมาะกับคุณ
โดยรวมแล้ว Miitopia อาจจะไม่ใช่เกมฟอร์มยักษ์ที่ไม่ควรพลาดอะไร เพราะมันยังคงมาในแนวทางเกมที่เน้นเล่นสนุกไปกับการเล่าเรื่องที่ผู้เล่นสามารถนำตัวละคร Mii ไปเป็นตัวหลัก แล้วสนุกไปกับเรื่องราวที่เน้นความสัมพันธ์ของตัวละคร Mii ที่น่ารักน่าชังมากกว่าจะจริงจังไปกับเกมเพลย์แนว RPG แบบใส่คำสั่งที่ไม่ได้มีรายละเอียดซับซ้อนอะไร แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่สนุก เพราะมันยังคงรูปแบบเกมของค่ายนินเทนโด ที่ทำให้เราสนุกสนานได้ทั้งครอบครัวแบบไม่มีพิษมีภัย ใครอยากหาเกมไว้ผ่อนคลายในช่วงที่เต็มไปด้วยความเครียดแบบนี้จะหามาเล่นก็ไม่เสียดายเงินแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส