Our score
8.0Seagate UltraTouch SSD
จุดเด่น
- ราคาไม่แพง
- ขนาดเล็กกระทัดรัด ดีไซน์ให้สัมผัสการใช้งานแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
- เชื่อมต่อได้ทั้งพอร์ตแบบ USB-A และ USB-C
จุดสังเกต
- ความเร็วยังอยู่ในระดับ USB 3.0
- ไม่มีกล่อง, เคส หรือถุงใส่ฮาร์ดดิสก์แถม
ยุคนี้เราเริ่มเปลี่ยนจากการพก External Harddisk เป็นพก External SSD แทนแล้วนะครับ เพราะมีขนาดเล็กกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า ทนทานกว่า และที่สำคัญราคาก็เริ่มลดลงมาเรื่อยๆ จนจับต้องได้ง่ายแล้ว และวันนี้แบไต๋จะรีวิว Seagate UltraTouch SSD ไดรฟ์พกพาภายนอกดีไซน์เก๋ โดยมีราคาและความสามารถอยู่ในระดับกลางครับ
ดีไซน์ของ Seagate UltraTouch SSD
งานออกแบบของ SSD รุ่นนี้ใช้วัสดุที่ให้สัมผัสแบบธรรมชาติอยู่ 2 จุดครับ คือผิวของตัวบอดี้นั้นทำมาจากผ้า ซึ่งให้สัมผัสหยาบๆ แบบผ้าเนื้อหยาบ เวลาเอานิ้วลูบก็แอบรู้สึกฟินเหมือนกัน นอกจากนี้ตัวโลโก้ของ Seagate ยังอยู่บนหูผ้าสีเขียวเอกลักษณ์ของแบรนด์ซีเกท ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้ก็เป็นดีไซน์แบบออแกนิคที่แตกต่าง และขนาดของ SSD นี้ตัวเล็กนิดเดียวครับ มีขนาด 75 x 55.5 x 10 mm เท่านั้นเอง และมีน้ำหนักแค่ 65 กรัม (ไม่รวมสาย) พกพาง่ายสุดๆ แต่ในกล่องไม่มีถุงหรือเคสมาให้นะครับ ก็ต้องหามาใส่กันเอง
เนื่องจากว่า Seagate UltraTouch SSD เป็นไดรฟ์ระดับกลาง พอร์ตเชื่อมต่อจากตัว SSD จึงเป็นแบบ MicroUSB 3.0 นะครับ ยังไม่ได้เป็น USB-C และสายที่แถมมาปลายสายอีกด้านก็จะเป็นหัว USB-A แต่ก็จะมีหัวแปลง USB-A เป็น USB-C มาให้สำหรับการเสียบใช้กับเครื่องที่มีแต่พอร์ต USB-C ครับ
โดย SSD รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สีคือสีขาวและสีดำ และมีให้เลือก 2 ความจุคือ 500 GB และ 1 TB ครับ ก็เลือกใช้กันได้ตามความชอบเลย
ประสิทธิภาพของ Seagate UltraTouch SSD
ข้อมูลหน้ากล่องของ SSD รุ่นนี้ระบุว่าสามารถอ่าน-เขียนได้เร็วระดับ 400 MB/s นะครับ ซึ่งเราทดสอบความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลผ่าน CrystalDiskMark 8 ด้วยสายแถมที่มากับกล่อง และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วยพอร์ต USB-C ก็ได้ความเร็วดังนี้ครับ
ก็จะเห็นว่าความเร็วของการอ่านต่อเนื่องที่ 469.85 MB/s และเขียนต่อเนื่องที่ 395.80 MB/s นั้นถือว่าตรงสเปกเลย ส่วนการอ่านแบบสุ่มข้อมูล 4KiB แบบ 1 Queues 1 Threads (บรรทัดที่ 4) ได้ความเร็วในการอ่านที่ 21.49 MB/s และเขียนที่ 19.62 MB/s ครับ
ซึ่งตัวเลขการทดสอบนี้อยู่แถวๆ ใกล้เคียงกับขอบสุดที่สาย USB 3.0 และการเชื่อมต่อแบบ SATA 3.0 จะทำได้ (ในทางทฤษฎีคือ 4.8 Gbit/s หรือ 600 MB/s) เราจึงทดสอบอีกครั้งโดยใช้สายพิเศษที่เป็นหัวแบบ MicroUSB 3.0 แล้วปลายอีกข้างเป็น USB-C ตรงๆ ไม่ผ่านหัวแปลงซึ่งได้ความเร็วไม่แตกต่างจากสายแถมในกล่องเลย
ก็ถือว่าเป็นความเร็วที่เร็วพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งก็เร็วกว่า External HDD หลายเท่าแล้ว แต่ถ้าต้องการประสิทธิภาพสูงกว่านี้ ซีเกทก็ยังมีไดรฟ์ SSD ภายนอกในกลุ่ม Seagate One Touch ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ USB-C และอินเทอร์เฟซการเชื่อมต่อข้อมูลเป็น NVMe ทำให้เร่งความเร็วในการอ่านข้อมูลขึ้นไปถึงระดับ 1 TB/s ได้ ซึ่งก็จะมีราคาแพงกว่า Seagate UltraTouch SSD ตัวนี้ครับ
เทียบความเร็วกับ External SSD รุ่นอื่นๆ
รุ่น | อ่านต่อเนื่อง | เขียนต่อเนื่อง | อ่านแบบสุ่ม (4KQ1T1) | เขียนแบบสุ่ม (4KQ1T1) |
---|---|---|---|---|
Seagate BarraCuda Fast SSD | 564.94 MB/s | 539.05 MB/s | 40.41 MB/s | 78.49 MB/s |
WD My Passport SSD | 1070.46 MB/s | 1024.28 MB/s | 34.64 MB/s | 76.56 MB/s |
Sandisk Extreme Portable SSD v2 | 1045.44 MB/s | 1037.74 MB/s | 35.81 MB/s | 79.59 MB/s |
Seagate UltraTouch SSD | 469.85 MB/s | 395.80 MB/s | 21.49 MB/s | 19.62 MB/s |
ราคาของ Seagate UltraTouch SSD
ช่วงที่เราเขียนบทความรีวิวนี้ เราสามารถหา Seagate Ultra Touch SSD ความจุ 500 GB ได้ในราคาประมาณ 2,500 บาท และความจุ 1 TB ได้ในราคาราวๆ 4,600 บาทนะครับ ก็จะถูกกว่า External SSD ที่ทำความเร็วระดับ 1 TB/s อย่าง Seagate One Touch SSD ราว 300-400 บาท ซึ่งถ้าใช้งานที่ไม่ได้ต้องการความเร็วขนาดนั้น เช่นเก็บไฟล์ เก็บวิดีโอ การเลือก Seagate UltraTouch SSD ก็เป็นทางเลือกที่ประหยัดได้ครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส