เลนส์ Telephoto หรือเลนส์เทเล ถือเป็นเลนส์อีกหนึ่งช่วงที่ช่างภาพ ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพก็อยากจะซื้อหากันไว้ใช้ เพราะนอกจากมันจะสามารถขยายภาพวัตถุที่อยู่ไกลให้เหมือนอยู่ใกล้ได้แล้ว เลนส์เทเลยังให้ทัศนมิติหรือ Perspective ของภาพที่แคบ จึงตัดสิ่งรบกวนในฉากหลังได้ แล้วยังทำให้ฉากหลังละลายง่ายมากด้วย เราจึงเห็นหลายคนนำเลนส์เทเลมาถ่ายภาพบุคคลกันครับ

เลนส์ Telephoto คือเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 70 mm ขึ้นไป

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาทีมงานแบไต๋ได้ทดลองเลนส์เทเลใหม่ของ Nikon 2 ตัวสำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ซึ่งวันนี้เราจึงขอเล่าประสบการณ์ในการใช้ให้ฟังกันครับ

Nikon AF-S NIKKOR 70-200mm f/2.8E FL ED VR

ตัวแรกนี้จัดว่าเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ประสิทธิภาพระดับท็อปของนิคอนเลย โดยเลนส์ 70 – 200 mm รุ่นล่าสุดของนิคอนตัวนี้ ปรับปรุงจากเลนส์รุ่นก่อน (70-200mm f/2.8 VR II) ไปหลายจุด ตั้งแต่น้ำหนักที่เบาลงไป 1 ขีด เหลือราวๆ 1.4 kg แล้วยังโฟกัสได้ใกล้สุดในระยะแค่ 1.1 เมตรเท่านั้นจากรุ่นเดิมที่ได้ใกล้สุดที่ 1.4 เมตร ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมากครับ เอาแหละ มาดูความสามารถที่เรารู้จากชื่อเลนส์ก่อนเลย

AF-S SWM NIKKOR 70-200mm f/2.8E FL ED VR IF

  • AF-S และ SWM – มอเตอร์โฟกัสภาพแบบเงียบ (Silent Wave Motor) โฟกัสได้เร็วและไม่มีเสียง
  • E – Electronic diaphragm รูรับแสงควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ต้องใช้กับกล้องที่ออกหลังปี 2007 ถึงจะปรับรูรับแสงได้
  • FL – ชิ้นเลนส์ Fluorite ช่วยเสริมความคมชัด
  • ED – ชื้นเลนส์ Extra-low Dispersion ลดความคลาดของสี ทำให้ภาพคมชัด
  • VR – ป้องกันภาพสั่นไหว
  • IF – Internal focusing โฟกัสภายในตัวเลนส์ ไม่มีชิ้นส่วนไหนเคลื่อนไหวภายนอกเลนส์
  • N – Nano Crystal Coat (อันนีเขียนไว้ใต้เลนส์) เคลือบผิวเลนส์แบบพิเศษ ลดแสงสะท้อนกลับไปกลับมาในเลนส์

หมุนดูเลนส์รอบตัวได้เลย!

จากสารพัดตัวอักษร เราสัมผัสได้ถึงความคมที่นิคอนพยายามจะบอกเราครับ 555 ซึ่งก็คมจริงจังอย่างที่ว่านั้นแหละครับ ภาพที่ได้จากเลนส์ตัวนี้คมมาก แม้จะเปิดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 และภาพใสมาก ทีมงานเอาไปใช้ทั้งถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอก็ได้ผลลัพธ์ที่ดี ให้สีสันที่ดีชนิดเอาไปใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องตกแต่งต่ออีก นอกจากนี้ความเร็วโฟกัสยังดีเยี่ยม เมื่อใช้กับกล้องที่มีระบบโฟกัสติดตามดีๆ ก็ถ่ายแบบหวังผลได้เลย

รอบๆ ตัวเลนส์ 70-200 mm

จุดสังเกตของเลนส์ 70-200 mm คือเป็นเลนส์ที่มีสวิทซ์เยอะรุ่นหนึ่งเลยนะครับ มีสวิทซ์ให้เลื่อนข้างเลนส์ดังนี้

  • สวิทซ์ปรับโหมดการโฟกัส A/m คือให้ความสำคัญกับโฟกัสอัตโนมัติ โดนวงแหวนโฟกัสบ้างเลนส์จะยังไม่ปรับเป็นโฟกัสมือ ในขณะที่ M/a คือแม้หมุนแหวนโฟกัสนิดเดียว จะเปลี่ยนเป็นโฟกัสมือทันที ส่วน M ก็คือโฟกัสมือนั้นเองครับ
  • สวิทซ์ปรับช่วงโฟกัส โดย Full คือหาโฟกัสครบทุกช่วง กับ ∞ – 5 m คือหาโฟกัสตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป เพื่อลดปัญหาโฟกัสวืด
  • สวิทซ์ปรับโหมด VR ตั้งแต่ปิดระบบช่วยป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับการถ่ายภาพบนขาตั้ง โหมด Normal สำหรับการถ่ายที่ผู้ถ่ายอยู่นิ่งๆ และโหมด Sport สำหรับผู้ถ่ายที่เคลื่อนไหว เช่นอยู่บนรถ
  • สวิทซ์ปรับหน้าที่ของ 4 ปุ่มบนเลนส์ ซึ่งเป็นจุดพิเศษของเลนส์ 70-200 mm ตัวนี้เลยนะครับ โดยถ้าเลือกเป็น AF-L เมื่อกดปุ่มที่เลนส์ ก็จะล็อกโฟกัส ส่วนถ้าเลือกเป็น AF-ON เมื่อกดปุ่มที่เลนส์ ก็จะวิ่งหาโฟกัสทันที (สำหรับช่างภาพอาชีพจะใช้โหมดแบบนี้ เพื่อโฟกัสรอจะได้ไม่พลาดโอกาสสำคัญ) ซึ่งการที่เลนส์มีปุ่มก็ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้นมากครับ

Play video

สุดท้ายข้อเสียอย่างเดียวของเลนส์นี้อาจจะอยู่ที่ราคาครับ เลนส์เทพตัวนี้มีราคาแสนกว่าบาท แสนนิดๆ เกินแสนไปหน่อยๆ ก็ถ้าใช้งานจริงจังในระดับช่างภาพอาชีพก็คุ้มอยู่นะครับ ช่วยลดขั้นตอนในการทำงานลงมาก ถ้าทำงานที่ใช่ เงินถึง ก็ซื้อเลยครับ เชียร์! 555

Nikon AF-P DX NIKKOR 70-300mm f/4.5-6.3G ED VR

สำหรับใครที่มองหาเลนส์เทเลราคาประหยัด คุณภาพหวังผลได้ เราก็ได้เลนส์ AF-P DX NIKKOR 70-300mm f/4.5-6.3G ED VR มาลองใช้ด้วยนะครับ ด้วยค่าตัวราว 14,000 บาท ต่างจาก 70-200 เกือบ 10 เท่า เราหวังอะไรจากเลนส์ตัวนี้ได้บ้าง เอาแหละมาดูความสามารถจากชื่อเลนส์กันก่อนครับ

AF-P DX NIKKOR 70-300mm f/4.5-6.3G ED VR

  • AF-P – มอเตอร์โฟกัสแบบใหม่ที่เรียกว่า Stepper Autofocus โฟกัสเงียบและเร็ว แต่ยังไม่เนี๊ยบเท่า AF-S ที่ใช้ Silent Wave Motor (อ่านรายละเอียดที่นี้)
  • DX – เลนส์สำหรับกล้องที่ใช้เซนเซอร์ขนาด APS-C (หรือที่นิคอนเรียกว่า DX Format) เท่านั้น ใช้กับ Full Frame แล้วภาพจะถูกครอป
  • ED – ชื้นเลนส์ Extra-low Dispersion ลดความคลาดของสี ทำให้ภาพคมชัด
  • VR – ป้องกันภาพสั่นไหว
  • f/4.5 – 6.3 รูรับแสงช่วงปลายแคบไปหน่อย น่าจะสัก 5.6

ซึ่งจากการทดลองใช้งาน เราก็สรุปจุดเด่น จุดสังเกตของเลนส์ตัวนี้ได้ดังนี้ครับ

  1. ความเด่นอันดับต้นๆ ของเลนส์ 70-300 นี้คือ น้ำหนักเบาแค่ 415 กรัม ถือเป็นเลนส์ช่วงนี้ที่เบามาก พกพาง่าย ทำให้เวลาที่ต้องไปถ่ายภาพแนวสปอร์ตแอคชั่น ไม่ต้องอาศัยขาตั้งกล้องอย่างเลนส์ใหญ่อื่นๆ สามารถถือได้นาน
  2. ความคมของภาพที่ได้ ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี (คือเราโดนเลนส์ 70-200 ตัวข้างบนสปอยตาไปแล้ว)
  3. มอเตอร์โฟกัสนิ่มมาก ถ่ายภาพได้เร็ว และเสียงเงียบ
  4. เวลาแพนตามวัตถุด้วยมือ ได้ภาพไม่สั่นไหว ได้ภาพที่คมชัด
  5. โฟกัสใกล้สุดที่ 1.1 เมตร ใช้ถ่ายมาโครได้ระดับหนึ่ง
  6. แต่มีปัญหาเรื่องโฟกัสนิดหน่อย อย่างตอนถ่ายชอตต่อเนื่อง (อย่างรวดเร็ว) จะมีจังหวะเบลอบางภาพ แม้ว่าจะกดชัตเตอร์เลือกโฟกัสแต่แรกแล้ว และโฟกัสยังไม่เร็วเท่ามอเตอร์ SWM
  7. เมาท์เลนส์เป็นพลาสติก ก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นเลนส์ราคาถูก
  8. ไม่มีสวิทซ์ใดๆ บนตัวเลนส์เลย ทั้งเปลี่ยนโหมดโฟกัส เปิด/ปิด VR ทุกอย่างสั่งงานจากตัวกล้องหมด บนตัวเลนส์มีแค่วงแหวน 2 วง เอาไว้ปรับโฟกัสและปรับช่วงซูม

เมาท์เลนส์เป็นพลาสติก

ตัวอย่างภาพจาก 70-300mm f/4.5-6.3G ED VR บน Nikon D500