รีวิวเกม Blast Brigade vs. the Evil Legion of Dr.Cread เกมแนว Contra ในรูปแบบ Metroidvania
Our score
7.0

Blast Brigade vs. the Evil Legion of Dr.Cread

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์แนว Metroidvania ที่สนุกลงตัว
  2. งานออกแบบและกราฟิกดูดี

จุดสังเกต

  1. ยากไปนิดสำหรับมือใหม่

หนึ่งในแนวทางยอดนิยมในการสร้างเกมคือแนว Metroidvania แบบ 2 มิติที่มีผู้สร้างหลายคนพยายามสร้างออกมาหลายเกม โดยเฉพาะค่ายเล็ก ๆ หรือค่ายอินดี้เพราะสามารถสร้างได้ไม่ยาก แต่หากทำให้ซับซ้อนและสนุกจะประสบความสำเร็จขายดีได้ง่าย ๆ

และเกมที่จะมาแนะนำวันนี้คือ Blast Brigade vs. the Evil Legion of Dr.Cread เกมชื่อยาวจากค่ายอินดี้ ที่นำเสนอรูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างที่เข้าในง่าย และบอกตั้งแต่ต้นเลยว่ามันคือแนวทาง Metroidvania แต่จากภาพและตัวอย่างตัวละครหลักจะใช้ปืนเป็นอาวุธหลัก และมีความเป็นแนวเดินยิงศัตรูหรือ Run And Gun ที่ได้รับความนิยมในอดีตอย่าง Contra ที่จะออกวางขายบน PS4, PS5, Xbox Series, Xboxone, Nintendo Switch และ PC

โดยผู้สร้างคุยว่ามันได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์แอ็กชันยุค 80s ทำให้การเล่าเรื่องออกจะดูเชยแบบตั้งใจ และจะเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักทั้ง 4 ที่ผู้เล่นจะสลับเปลี่ยนกันเล่นตลอดเกม ซึ่งเกมจะเริ่มที่ตัวละครหลักอย่าง เจฟฟ์ ฮีโรชาวอเมริกัน ที่ต้องออกบุกตะลุยไปบนเกาะของ Dr. Cread ที่อาจดูสวยงามแต่ก็เต็มไปด้วยอันตราย เพราะมีทั้งจักรกลสังหารและพวกกลายพันธุ์จากการทดลอง ที่มีบางส่วนอ้างอิงมากจากหนังดังในอดีตอย่าง The Island of Dr. Moreau ด้วย

กราฟิกแบบการ์ตูน 2 มิติที่ดูดีเกินคาด

แรกสัมผัสกราฟิกใน Blast Brigade vs. the Evil Legion of Dr.Cread คือภาพแนวการ์ตูนที่มีเหมือนเกมแจกฟรีบนสมาร์ตโฟน แต่พอได้เล่นจริง ๆ แล้วมันดูดีมากกว่าที่คาดไว้มาก เพราะนอกจากจะมาพร้อมความละเอียดระดับ HD แล้วยังมีการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลมาก และมีแอ็กชันที่หลากหลายทำให้การเล่าเรื่องทำได้ดีงามราวกับได้ชมการ์ตูน

นอกจากนี้คัตซีนของเกมมาแบบจัดเต็มเป็นการ์ตูน 2 มิติที่ลงทุนทำให้ผู้เล่นเหมือนได้ชมการ์ตูนไปพร้อมเล่นเกม แถมยังไม่ได้มีความยืดยาวจนน่าเบื่อด้วย และข้อดีสุด ๆ คือมีการพากย์เสียงตัวละครตลอดการเล่นทั้งในคัตซีน และเกมเพลย์ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินหน้าเกินตามากฟอร์มเกมมาก เรียกว่าผู้สร้างทำได้ดีในส่วนของการนำเสนอแม้ว่ามันจะไม่ได้โดดเด่นสุด ๆ แต่เมื่อเทียบกับชื่อทีมสร้างแล้วถือว่าดีมากแล้ว

รูปแบบการเล่น Metroidvania ฉบับเกมยิง

เนื่องจากรูปแบบที่นำมาสร้างเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมในการผลิตเกมในยุคนี้ ทำให้ผู้สร้างต้องคิดให้แตกต่างจากเกมอื่นไม่งั้นมันก็จะถูกมองเมินไปได้ และใน Blast Brigade vs. the Evil Legion of Dr.Cread ทำออกมาได้ดี เพราะจุดเด่นที่ผู้เล่นจะได้สัมผัสได้คืออาวุธหลักของเกมที่จะเป็นปืนกล เดินไล่ยิงศัตรูในฉากคล้ายกับเกมดังในอดีตของค่าย Konami อย่าง Contra

แต่พอเล่นไปสักพักจะพบว่ามันไม่ได้มีความเหมือนทั้งหมด เพราะเราจะไม่สามารถยิงปืนกลที่เป็นอาวุธหลักอย่างต่อเนื่องได้ต้องรอรีโหลดกระสุนที่จะยิงได้ครั้งละ 30 นัด แต่ก็เข้าใจว่าหากให้ยิงแบบไม่หยุดเหมือน Contra จริง ๆ เกมจะง่ายเกินไป และยังมีปืนหลายประเภทที่จะค่อย ๆ อัปเกรดมาเมื่อเราเล่นไป และมีปืนระเบิดที่ใช้ได้จำกัดต้องเก็บพลังงานมาถึงจะใช้ได้อีก ตรงจุดนี้อาจจะคล้ายกับซีรีส์ Metroid อยู่ซึ่งหากเคยเล่นมาก่อนก็แทบไม่ต้องปรับตัวอะไร

มีตัวละครหลากหลายละมีความยากสูง

จุดเด่นของเกมคือการเลือกเล่นได้ 4 ตัวละครแต่จะไม่สามารถเล่นกับเพื่อนได้ เล่นได้แค่คนเดียวแต่จะมีฉากที่เล่นเป็นอีกตัวละคร และในบางฉากจะมาร่วมกันช่วยต่อสู้ได้ ถือว่าน่าเสียดายที่ไม่สามารถเล่นได้พร้อมกัน แต่ก็ต้องเข้าใจแนวทาง Metroidvania ที่เน้นสำรวจทำให้ไม่สามารถเล่นได้พร้อมกัน อย่างไรก็ตามความโดดเด่นของแต่ละตัวละครทำได้ดี เพราะมีความสามารถที่แตกต่างกันและมีเรื่องราวภูมิหลังที่แตกต่างกันของตัวละครด้วย

และเราจะต้องใช้สกิลของแต่ละตัวละครเพื่อเปิดทางไปต่อยังจุดที่ไม่สามารถไปได้ เช่นการใช้เชือกสลิงเพื่อห้อยโหนไปยังที่สูงกว่า หรือใช้ช่วยในการโจมตีศัตรูได้ ส่วนปริศนาในเกมถือว่าทำออกมาได้ซับซ้อนพอประมาณ แม้ว่าไอเดียจะไม่ได้ฉีกหรือแหวกแนวมากนัก แต่ก็มีฉากที่มีความกว้างและมีสิ่งที่แอบซ่อนให้เราค้นหาอยู่เพียบ และยังมีระบบอัปเกรดตัวละครที่เรียบง่ายด้วย

แต่ความโดดเด่นของเกมคือความยากที่สูงพอสมควร เพราะศัตรูมีความโหดและฉลาดพอที่จะไล่ตามเราตลอด และยังมาพร้อมกับบอสสุดโหดพอกัน ใครชอบความท้าทายต้องไม่พลาด การเล่นต้องอาศัยฝีมือและการจับจังหวะกันตลอดการเล่น อีกทั้งหากเราพลาดตายก็ต้องกลับไปเริ่มใหม่ที่จุด Save ด้วยเรียกว่าตายทีก็ต้องเริ่มใหม่กันยาว ๆ จนอาจจะหัวร้อนได้ง่าย ๆ เหมือนเกมในยุคอดีต

สำหรับ Blast Brigade vs. the Evil Legion of Dr.Cread ถือว่าเป็นเกมที่ใช้แนวทาง Metroidvania ที่ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก เพราะมีงานออกแบบตัวละครและกราฟิกที่ดูดีแม้จะเป็นแบบ 2 มิติ ส่วนเกมเพลย์ก็ผสมผสานแอ็กชันตะลุยด่านกับการแก้ปริศนาได้ลงตัว และยังมาพร้อมกับราคาขายที่ไม่ได้แพงอะไรใครชอบแนวทางสำรวจพร้อมกับตะลุยด่านก็เป็นตัวเลือกที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าที่ไม่อยากให้มองข้ามไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส