Our score
9.1NieR: Automata
จุดเด่น
- เกมเพลย์หลากหลาย ทั้งมุมกล้อง ทั้งฉากสำรวจ ทั้งศัตรู ทั้งฉากต่อสู้ สนุกมาก
- มีการผสมท่าอาวุธและสกิลได้เยอะมาก ทำให้การออกแบบวิธีต่อสู้ได้หลากหลาย สนุกกับการเก็บค่าต่างๆมาอัพ
- เนื้อเรื่อง น่าสนใจเข้าใจได้ไม่ยากและมีความซับซ้อนน่าติดตาม
- ดนตรีอลังการรรร
- ดีไซน์ตัวละคร!!! จริงๆข้อนี้ข้อเดียวก็เอาอยู่ละ (แหะๆๆ)
จุดสังเกต
- กราฟฟิกฉากยังไม่สวยงามเท่าไหร่ในบางฉาก โดยเฉพาะพวกซากปรักหักพัง คือพังมาก!
- ความหลากหลายมุมกล้อง อาจทำให้บางคนมึนและไม่ชอบ
- เกมมีภาพไม่เหมาะสม ไม่เหมาะกับเด็กเล็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถแนะนำ
-
กราฟิก
7.5
-
เกมเพลย์
10.0
-
ความแปลกใหม่
9.0
-
ความคุ้มค่า
9.5
-
ภาพรวม
9.5
“กางเกงในขาวเต็มโซเชี่ยลไปหมด” น่าจะเป็นปฏิกิริยาแรกๆของผู้ได้รู้จักเกมแอคชั่นอาร์พีจีจากค่าย Platinum Games อย่าง NieR: Automata ซึ่งกลายเป็นจุดขายสำคัญและดราม่าเล็กๆในดีไซน์แสนวาบหวิวของตัวละครนำสาวน้อยแอนดรอยด์นาม 2B ที่ดูเหมือนจะน่าสนใจกว่าตัวเกมเสียอีก และแน่นอนกลายเป็นว่าผู้เล่นทุกคนมุ่งมั่นกับการทำโทรฟี่ What Are You Doing? ที่ต้องส่องกางเกงในตัวละครให้ครบ 10 ครั้งให้สำเร็จเป็นอย่างแรกไปเสียแล้ว (ฮา)
เกริ่นนำ
NieR: Automata เป็นเกมที่สืบเรื่องราวมาถึง 3 ขั้น คือเป็นจักรวาลที่ต่อเนื่องมาจากเกม NieR ที่ลงให้เครื่อง PS3 เมื่อปี 2010 ในขณะที่เจ้าเกม Nier เฉยๆ นี่ก็ต่อเนื้อหามาจากฉากจบรูปแบบหนึ่งจากหลายแบบของเกม Drakengard ที่มีถึง 3 ภาค และลงให้เครื่องเกมตั้งแต่สมัย PS2 ในปี 2003 เรื่อยมากันเลยทีเดียว แต่ถามว่าจำเป็นต้องไปรู้เนื้อหาอะไรจากเกมก่อนหน้ามั้ย ก็ตอบว่าช่างแม่มมันเถอะครับ เพราะนอกจากเนื้อเรื่องในซีรีส์เกมจะดำเนินยืดยาวกันเป็นศตวรรษ ๆ ฉากจบเป็นสิบๆ แบบ จนยากจะไปติดตามให้หมดแล้ว เกม NieR: Automata นี้ยังมีเนื้อหาเป็นของตนเองที่เริ่มเล่นเป็นเกมแรกเลยก็เข้าใจได้ไม่ต้องไปอิงกับอะไรก่อนหน้า
ก็คงเป็นความตั้งใจของผู้สร้างเกมที่ยกทีมเดิมมาเลยทั้ง โปรดิวเซอร์จาก NieR อย่างโยสุเกะ ไซโตะ และผู้กำกับเดิมตั้งแต่ Drakengard จนมาถึง NieR: Automata อย่างโยโก ทาโร่ ที่เข้าใจว่าสแควร์อีนิกซ์คงเห็นศักยภาพของเกม NieR เดิม ที่น่าเสียดายว่าถูกประเมินค่าต่ำไปจากผู้เล่นวงกว้าง มารอบนี้ค่ายเลยส่ง อาคิฮิโกะ โยชิดะ คาแรกเตอร์ดีไซน์เนอร์มือดีจากเกม Final Fantasy XII มาเร้าใจผู้เล่นด้วยเหล่าตัวละครสุดเอาใจเกมเมอร์ชายอย่างแอนดรอยด์สาวโลลิแสนสวยเงียบนิ่งออกแนวซึนอย่าง 2B และเอาใจเกมเมอร์สาวด้วยแอนดรอยด์ชายหน้าใสสไตล์น้อยชายสุดน่ารักอย่าง 9S ซึ่งกลายเป็นหัวข้อให้เกมเมอร์สนใจได้จริงๆด้วยสิ โดยเฉพาะเครื่องแต่งกายของฝ่ายหญิงล่ะนะ
เนื้อเรื่อง
ซึ่งเนื้อเรื่องก็มาตามสไตล์เกมอาร์พีจีโลกล่มสลาย ซึ่งรับประกันความดราม่าตามถนัดของเกมค่าย Square Enix เจ้าพ่อเกมอาร์พีจีนั่นเลยครับ
เนื้อเรื่องเกมก็เริ่มจั่วหัวมาแบบไวมากๆ เมื่อเราที่รับบทแอนดรอยด์โลลิต้าโกธิกนาม 2B ซึ่งได้รับคำสั่งให้มายังโลกพร้อมสมาชิกหุ่นแอนดรอยด์ในแก๊ง YoRHa อันเป็นขบวนการที่มนุษย์จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้กับเหล่าเครื่องจักรเอเลี่ยน ในระหว่างสู้ไปพลางคุยกันไปพลาง และก็ตายกันไปพลาง (เกมสร้างตัวละครมาใช้ตายสร้างดราม่าเยอะมากกก สังเกตได้จากใช้รหัสเลขแทนชื่อ) เราก็จะได้ทราบว่า โลกตอนนี้ถูกปกครองโดยเหล่าเอเลี่ยนรูปแบบเครื่องจักรทั้งหลาย ที่ขับไล่มนุษย์จนต้องลี้ไปอยู่บนดวงจันทร์กับชั้นบรรยากาศนอกโลก
มนุษย์ก็ใช่จะยอมแพ้ นอกจากตั้งกลุ่มแอนดรอยด์มาสู้แล้ว ก็ยังมีกลุ่มต่อต้านที่แอบซ่อนกำลังพลคอยตอดคอยจู่โจมอยู่บนโลกด้วย หน้าที่หลักๆของเราก็คือช่วยไอ้กลุ่มนี้ทำภารกิจทวงคืนโลกตามคำสั่งหัวหน้าหรือ คอมมานเดอร์ ของ YoRHa ที่อาศัยอยู่บนสถานีอวกาศนามว่า บังค์เกอร์ นั่นเอง
ตอนนี้อาจสงสัยว่า แล้ว แอนดรอยด์ (Android) ของฝั่งมนุษย์มันต่างกับ เครื่องจักร (Machine) ของพวกเอเลี่ยนยังไงหว่า หลักๆก็คือแอนดรอยด์เป็นหุ่นรูปร่างแบบมนุษย์มีความคิดและพฤติกรรมเหมือนมนุษย์เลย ส่วนของพวกเอเลี่ยนจะคล้ายๆพวกหุ่นยนต์รูปร่างใดๆมากกว่าที่อาจไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ที่ต้องเกริ่นไว้ก่อนเลยเพราะพอเข้าเนื้อเรื่องส่วนที่สองแล้วมันจะเริ่มมีเครื่องจักรรูปร่างมนุษย์ของฝั่งเอเลี่ยนเข้ามาให้งุนงงกันด้วย ถ้าไม่ให้สับสนก็คิดซะว่า แอนดรอยด์คือคำเรียกกองทัพหุ่นฝั่งมนุษย์ ส่วนแมชชีนเป็นคำเรียกกองทัพหุ่นฝั่งเอเลี่ยนแล้วกันครับ
เนื้อหามากไปกว่านี้คงไม่พูดแล้วล่ะครับเดี๋ยวจะสปอยล์ แต่ต้องยอมรับว่าเกมมีเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย คือปราบเครื่องจักรเอเลี่ยน ไม่ต้องเก่งภาษามากดูจากคัทซีนก็ถือว่าเข้าใจสนุกอยู่ แต่ก็นั่นล่ะครับถ้าเข้าใจที่พวกตัวละครเขาคุยกันมันก็ต้องสนุกกว่าเป็นธรรมดาล่ะนะ ยิ่งช่วงเนื้อหาที่ซับซ้อนขึ้น มีตัวละครปริศนาเข้ามามากขึ้น มีฉากให้อึ้งมากขึ้น (อย่างฉากพวกหุ่นเอเลี่ยนทำท่าเลียนแบบมนุษย์ผสมพันธุ์เพราะอยากสร้างลูก – นี่ก็ช่างคิดได้นะ เหอะๆๆ) มันก็ยิ่งอยากรู้เนื้อเรื่อง ยิ่งอยากค้นหาคำตอบมากขึ้นด้วย ซึ่งด้วยเพราะเป็นเกมแบบ open world ที่เรามีอิสระในการค้นหาคำตอบและทำภารกิจหลัก-เสริม ทำให้การเสพเนื้อเรื่องมันก็น่าสนุกขึ้นด้วย
เกมเพลย์
นี่นับว่าเป็นสิ่งที่ดีงามสยามสแควร์อีนิกซ์มากครับ ด้วยเกมภาคเดิมมันทำไว้ดีอยู่แล้วกับแอคชั่นเดินฟันหลายหลากมุมมองการเล่น ที่มีกลิ่นอาร์พีจีแฝงเป็นเสน่ห์ ยิ่งพอได้ทีม Platinum Games ซึ่งเอกอุอยู่แล้วกับแนวฟันดะสกิลเทพทั้งใน Metal Gear Rising: Revengeance และ Bayonetta เป็นอาทิ มาพัฒนาแทนค่ายเดิมอย่าง Cavia ก็เหมือนเกมได้พาวเวอร์อัพด้านเกมเพลย์ขึ้นไปอีกครับ ไม่ว่าจะเป็นแนวการโจมตีแบบพื้นฐานเช่นการฟัน ที่มีทั้ง เบา และ หนัก ซึ่งผสมคอมโบกันหลากหลายได้ นอกจากการกดท่าผสมหนักเบาแล้ว ยังสร้างความแตกต่างจากการเลือกใส่อาวุธในสล็อต 1 และ 2 ที่ต่างกันอย่างการใช้ดาบสั้น ดาบยาว หอก หรือมือเปล่าก็ได้ด้วย
แค่นั้นไม่พอครับ เกมยังมีแอนดรอยด์ผู้ช่วยอย่าง Pod ที่จะลอยติดตามเราไปทุกที่ ทั้งช่วยให้ข้อมูล และยังใช้เป็นอาวุธยิงระยะไกล รวมถึงการใส่โปรแกรมท่าพิเศษที่พลังโจมตีสูงได้ด้วย นอกจากนั้นเรายังสามารถหลบอย่างรวดเร็ว หรือ evade dodge ได้ด้วยที่ ซึ่งถ้ากดถูกจังหวะยังสามารถโจมตีต่อเนื่องได้อีก ส่วนด้านพาร์ทเนอร์อย่าง 9S ที่จะช่วยเราสู้ก็ยังปรับรูปแบบการต่อสู้สนับสุนให้เหมาะกับเราได้หลายแบบอีกทั้งเน้นสมดุลย์ เน้นโจมตีหรือป้องกัน และในบางช่วงของเกมเรายังได้ขับหุ่นบินในการต่อสู้อีกด้วย
นี่ยังไม่พูดถึงสกิลของตัวเราเอง อาวุธต่าง ๆ และเจ้าพอดที่สามารถไปซื้อเพิ่ม อัพของเดิม และนั่งเลือกความสามารถพิเศษที่จะใส่ในชิพของเราได้อย่างหลากหลาย ทั้งความสามารถในการเห็นจุดเซฟบนแผนที่ ความสามารถในการหลบอัตโนมัติ เคาน์เตอร์การโจมตี หรือการใส่คลื่นกระแทกในการโจมตี เป็นต้น คือมันมีความหลากหลายในการครีเอทวิธีการเล่นการต่อสู้ของเราได้มากทีเดียว แค่ลองผสมที่ว่ามาแตกต่างกันก็สนุกแล้ว เป็นแรงกระตุ้นให้ออกไปทำภารกิจเสริมหรือล่าไอเท็มจากศัตรูหรือสัตว์ต่าง ๆ มาขายได้อย่างดีเลย
เกมมีการเล่นที่ไวมากทำให้ไม่น่าเบื่อ ยิ่งฝั่งศัตรูเองก็มีหลากหลายแบบ ตั้งแต่พวกกี้ๆที่เจอได้ทั่วไปจนถึงบอสระดับดาวดึงค์ ก็มีให้เจอทั้งแบบบนดินทั้งลอยฟ้าได้ ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ทั้งการโจมตีกายภาพ หรือยิงลูกพลังใส่ ตลอดจนการระเบิดพลีชีพก็ยังมี แถมมีการจับกลุ่มเข้ามาทุกทิศทางได้อีก
นี่ยังต้องพูดถึงมุมกล้องที่มีการเปลี่ยนไปมาตามฉากได้ ทั้งมุมมองแบบบุคคลที่สาม มุมมองแบบเดินด้านข้าง มุมมองแบบมุมสูงเหนือหัว คือถึงจะเน้นท่าไวคอมโบหนักแต่บางช่วงก็มีหัวร้อนได้เหมือนกัน เวลาเจอศัตรูรุมหลากวิธีแบบกวนประสาท ๆ ผสมกับมุมกล้องที่ต้องปรับเปลี่ยนการควบคุมไปตามฉาก การเล่นเกมนี้เลยเป็นอะไรที่หยุดมือไม่ได้ ต้องใช้สติและความเมามันขั้นสุดไปเลยครับ คือมันมาก ใครชอบแอคชั่นรัวๆน่าจะชอบมากกกก
กราฟฟิกและดนตรี
พูดถึงดนตรีประกอบก่อนดีกว่า เกมได้ เคอิจิ โอกาเบะ ที่เคยมาเป็นคอมโพสเซอร์ให้ในเกมภาคเก่า ๆ กลับมารับงานอีกครั้ง ซึ่งไม่น่าผิดหวังเลยครับ เพลงเ้ราอารมณ์ได้ดีมาก ๆ ทั้งฉากต่อสู้ที่ปลุกพลังใจสุดๆ หรือแม้แต่ฉากสำรวจดินแดนต่าง ๆ ก็ได้อารมณ์ความยิ่งใหญ่สุดลูกหูลูกตาสุด ๆ เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญของเกมเลย
ส่วนด้านกราฟิกนี่น่าจะเป็นอะไรที่ธรรมดาที่สุดในเกมนี้แล้วครับ แม้จะมีดีไซน์ตัวละครและฉากต่าง ๆ ขั้นเลิศ เกมเพลย์ที่ดี แต่กราฟิกต่าง ๆ โดยเฉพาะบางฉากนั้นค่อนไปทางหยาบเสียหน่อย อาจเพราะด้วยเป็นเกมที่มีโลกเปิดกว้างและการเล่นที่เร็ววิ่งไปมาไว ทำให้ไม่สามารถใส่ฉากที่ความละเอียดสูงเข้ามาได้มาก แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นแย่เลยนะครับ เพราะโดยรวมคือยังสวยยังช่วยเร้าอารมณ์ให้สำรวจนู่นนี่นั่นได้สนุกอยู่ ทั้งดีไซน์ของฉากดินแดนต่าง ๆ ที่ให้ไปสำรวจได้ก็มีความหลากหลายน่าตื่นตาตื่นใจมาก ทั้งทะเลทราย โรงงาน สวนสนุก เมืองจมน้ำ ฐานใต้ดิน ไม่มีเบื่อกับโลกกว้าง ๆ แต่มีแต่อะไรเดิม ๆ แน่นอนครับ แต่ที่ต้องว่าด้วยความเสียดายคือถ้าฉากมันดึงประสิทธิภาพกราฟฟิกมาได้สูงอย่างตัวเกมด้วย มันคงจะสมบูรณ์แบบมาก ๆ ไปแล้ว แต่ใครเน้นดูแค่ตัวละครบอกตรง ๆ ว่าอิ่มเลยฮะ สวยขนาด!
สรุป
เป็นเกมแอคชั่นเดินลุย ที่ใส่องค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งเกมเพลย์มุมกล้อง รูปแบบการต่อสู้ผสมนู้นนี่ได้หลากหลายมากกก และออกแบบศัตรูมาได้อย่างลงตัวตัวบอสก็หลากหลายยิ่งใหญ่ ท้าทายสุด ๆ ในขณะที่ด้านเนื้อหาเกมอาร์พีจีก็ไม่ได้เบาจนไร้สาระ แต่ก็ไม่ได้หนักเข้าใจยากจนต้องเจนภาษาอะไร แถมมีฉากดราม่าซึ้งเศร้าๆให้ชมอีกเพียบ อย่างที่บอกตัวละครออกแบบมามีเสน่ห์มากน่าเอาใจช่วยหลายตัวเลย และนี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลที่เกมนี้ มีค่าให้น่ากลับมาเล่นซ้ำสองซ้ำสามเพื่อปลดล็อกตัวละครอื่น ๆ มาให้เล่นได้ด้วย เท่าที่ว่ามาทั้งหมดสรุปสั้น ๆ ว่า เดย์วันก็ยังโคตรคุ้ม ครับเกมนี้