[Review] Death Stranding เล่นจบสมัครขนส่งได้! (เกมนี้เน้นเรื่องระบบขนส่งจริงๆ นะ)
Our score
9.0

Death Stranding

จุดเด่น

  1. กราฟิกสวยงาม การออกแบบตัวละครที่ทำมาได้ยอดเยี่ยม
  2. Gameplay ที่มีความแปลกใหม่แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
  3. เนื้อเรื่องที่สนุก น่าติดตาม น่าค้นหา
  4. เนื้อหาที่มีให้เล่นอย่างจุใจ
  5. การแสดงของนักแสดงทุกคน ที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ราวกับดูภาพยนตร์อยู่เรื่องหนึ่ง

จุดสังเกต

  1. อาจจะไม่ใช่เกมสำหรับทุกคน
  2. เรื่องราวที่อาจจะเข้าใจยากสักนิด ถ้าหากไม่ติดตามให้ดี ๆ
  • GAMEPLAY

    9.0

  • GRAPHICS

    9.0

  • STORY

    9.0

  • PERFORMANCE

    9.0

  • VALUE

    9.0

คุณรู้หรือไม่ครับว่า โลกของเรานั้นได้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่มาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายก็เกิดขึ้นมาเมื่อ 66 ล้านปีก่อน ในยุค Cretaceous–Paleogene (ครีเทเชียส–พาลิโอจีน) ซึ่งกวาดล้างสิ่งมีชีวิตไปกว่า 70% หรือประมาณ 3 ใน 4 ของสายพันธุ์ทั้งหมดบนโลก สาเหตุการสูญพันธุ์ในครั้งนี้นั้นได้มีการสันนิษฐานขึ้นมาหลายทฤษฎี ไม่ว่าจะเป็นอุกบาตชนโลก ภูเขาไฟระเบิด หรือ อากาศหนาวขึ้นและการเปลียนแปลงกะทันหันของสภาพแวดล้อม

แต่เราเคยคิดไหมครับว่า แล้วการสูญพันธุ์ครั้งที่ 6 มันจะเกิดขึ้นเมื่อไร?? บ้างก็ว่ามันเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว แต่มนุษย์สามารถปรับตัวได้และเอาชีวิตรอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงการสันนิษฐานและทฤษฎีต่าง ๆ ว่าโลกจะพบกับจุดจบเช่นไร แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครมากำหนดชะตากรรมของโลกได้ นอกจากตัวเราเองครับ


Death Stranding สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่วิดีโอเกม และไม่ใช่ภาพยนตร์ แต่มันคือปรัชญาชีวิต ที่จะบอกเล่าผ่านตัวของ Sam Porter Bridges (Norman Reedus) ว่าเหตุใดเราถึงต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไปในโลกที่น่าสิ้นหวังแบบนี้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผมใช้เวลากับมันมา กว่า 50 ชั่วโมง มันได้บอกให้ผมรับรู้อะไรใหม่ ๆ หลายอย่าง กับสิ่งที่เกินเหนือความคาดหมายและคงไม่มีใครจะเดาออกว่าสุดท้ายแล้วเส้นทางของ Sam นั้นมันจะจบลงแบบไหน

แต่ถ้าหากเรามองในแง่ของคำว่า “วิดีโอเกม” Death Stranding ได้สร้างเกมแนวใหม่ขึ้นมาตามความตั้งใจของ Hideo Kojima นักออกแบบวิดีโอเกม, นักเขียนบท, ผู้กำกับ ที่หลาย ๆคนยกย่องเขาเป็นท่านเทพแห่งวงการเกม โดยครั้งหนึ่งเขาเคยออกมาบอกว่าอยากจะลองทำเกมแนวใหม่ ๆ บ้าง ที่ไม่ได้วนเวียนอยู่กับ Metal Gear Solid โดยเราก็เกือบจะได้เห็นแล้วถ้าหาก P.T มันไม่ถูกยกเลิกไปเสียก่อน จนมาถึง Death Stranding ที่บอกได้เลยว่ามันฉีกแนววงการเกมไปเลย และผมขอย้ำครับว่า “มันคือแนวเกมใหม่” หรือ New Genre เพราะฉะนั้นผมขอให้ท่านผู้อ่านเปิดใจให้กว้าง ๆ และมาดื่มด่ำไปกับ Death Stranding กันเลยครับ

“ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment และ Kojima Productions ที่เป็นผู้สนับสนุนตัวเกมที่ใช้รีวิวในครั้งนี้ครับ”

“หมายเหตุ ด้วยข้อจำกัดของข้อตกลงในการ Review ทำให้ผมเปิดเผยข้อมูลของตัวเกมได้อย่างจำกัด และรับประกันว่าไม่มีการสปอยล์เนื้อหาหลักๆของตัวเกมแน่นอนครับ”


Story


The Beach

Death Stranding จะพูดถึงโลกหลังการล่มสลายของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนก็ตาม เมื่อตาย ดวงวิญญาณของพวกเขาจะตกไปสู่ The Beach (ชายหาด) สถานที่ซึ่งเปรียบเสมือนโลกหลังความตาย และด้วยสาเหตุบางอย่างทำให้โลกมนุษย์ที่เราอยู่กัน เชื่อมต่อเข้ากับ The Beach ทำให้เหล่า BTs (Beached thing) สิ่งมีชีวิตที่เกยฝั่งแล้วมีบางอย่าง “ติด” ตัวเองบนโลก หรือถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆเลยก็คือวิญญาณในโลกแห่งความตายนั้นล่ะครับ ซึ่งเหล่าวิญญาณพวกนี้พวกเขาเป็นปรปักษ์ต่อชีวิต และพยายามที่จะกลืนกินเหล่ามนุษย์โลกที่ยังมีชีวิตรอดอยู่

สภาพหลังการ Voidout

และนั้นทำให้เกิดเหตุการณ์ Voidout ขึ้นตามหลาย ๆ สถานที่ทั่วโลก โดยมันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เหล่า BTs ได้ทำการกลืนกินเหล่ามนุษย์ ทำให้เกิดเป็นหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ตามที่ตั้งของการตายสำหรับบุคคลนั้นๆ แน่นอนว่าด้วยเหตุการณ์ Voidout ทั่วโลก ทำให้โลกถึงจุดจบ รวมไปถึงสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่อง ก็ถูกกลืนกินไปพร้อมๆกัน โดยเหตุการณ์โดยรวมทั้งหมดถูกเรียกว่า “Death Stranding” นั้นเองครับ

มาถึงตรงจุดนี้ ผมหวังว่าท่านผู้อ่านน่าจะเข้าใจภาพรวมของตัวเกมกันแล้วนะครับ หากใครยังไม่เข้าใจอีก ผมก็จะอธิบายง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้คําศัพท์ของตัวเกมเลย ก็คือโลกของเรา เชื่อมต่อเข้ากับโลกแห่งความตาย ซึ่งดวงวิญญาณของโลกแห่งความตายได้เข้ามากลืนกินโลกของเราทั้งหมด และถ้าเหล่าดวงวิญญาณได้กินคนเข้าไปเมื่อไรก็ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น โดยจะทำให้จุดที่เกิดการระเบิดนั้นมีรอยเหมือนกับอุกกาบาตพุ่งเข้าใส่โลก และมาพร้อมกับคนตายจำนวนมากนั้นเอง และมันก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้วนไปเรื่อยๆ ทำให้โลกของเราแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากความว่างเปล่าแบบที่เราเห็นในตัวอย่างนั้นล่ะครับ

แต่มนุษย์ก็ยังคงสู้ต่อไป ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติแบบไหนขึ่น พวกเขาก็ต้องเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้ “Bridges” บริษัท ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเชื่อมต่อสังคมที่แตกหักของสหรัฐอเมริกา ผู้คนที่ยังมีชีวิตรอดต่างก็อาศัยอยู่ภายในเมืองใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นจากบริษัท Bridges โดยในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็น Sam Porter Bridges (Norman Reedus) ลูกเลี้ยงของประธานาธิบดี Bridget (Lindsay Wagner) โดยหน้าที่ของเรา ก็คือการทำให้อเมริกาสมบูรณ์อีกครั้ง ตามวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดี Bridget โดยผ่านระบบ Chiral Network ของบริษัทที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเครือข่ายการสื่อสารให้ความคุ้มครองกับมนุษย์ที่อาศัยอยู่ตามเมืองใต้ดินต่างๆ ด้วยการนำเอา Q-pid อุปกรณ์เชื่อมต่อไปตาม Terminal ของเมืองต่างๆนั้นเอง

Guillermo del Toro รับบทเป็น Deadman

และมันก็เป็นหน้าที่ของ Sam ที่เขาทำหน้าที่ส่งของให้กับเมืองต่างๆอยู่แล้ว ผ่านการช่วยเหลือของ Deadman (Guillermo del Toro) หัวหน้าด้านการแพทย์ของบริษัท พร้อมกับ Die-Hardman (Tommie Earl Jenkins) ผู้บังคับบัญชาของ Bridges ผู้ที่ใส่หน้ากากปกปิดอะไรบางอย่างไว้ตลอด พร้อมกับ Mama (Margaret Qualley) ผู้ที่มีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกับ BTs และ Heartman (Nicolas Winding Refn) ชายที่หัวใจจะหยุดเต้นทุกๆ 21 นาที และตาย 3 นาที ก่อนที่จะฟื้นขึ้น เขาเป็นนักค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ Death Stranding ขึ้นมา

Mads Mikkelsen

และด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ Sam ต้องไปพัวพันกับ Fragile (Emily O’Brien) จากบริษัท Fragile Express ที่ได้มาพบกับ Sam โดยบังเอิญ โดยเธอได้เสนอให้มาร่วมงานด้วยกัน อีกทั้งเธอยังมีความสามารถในการเคลื่อนที่ผ่าน The Beach ได้อีกด้วย พร้อมกับ BB (Bridge baby) และ Cliff (Mads Mikkelsen) ที่ผมไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้ เพราะมันจะสปอยล์เนื้อหาสำคัญในเกมไปทั้งหมดครับ


Gameplay


อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วว่า Death Stranding มันคือเกมแนวใหม่ หรือ New Genre แต่พื้นฐานแล้วมันก็ยังคงเป็นเกม Open World Sandbox โดยหน้าที่หลักๆของเราก็คือการ “ส่งของ” ใช่ครับคุณอ่านไม่ผิด การส่งของ คือ Gameplay หัวใจหลักของเกมนี้เลย แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเกมก็ยังเพิ่มรูปแบบการเล่นอื่นๆเข้ามา เช่นระบบ Stealth ตามสไตล์ของ Kojima ฉาก Action ที่ดึงเอาระบบการส่งของมาใช้ได้แบบเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ และระบบ Online ที่คล้าย ๆ กับเกมอย่าง Dark Souls ผสมรวมกันจนออกมาเป็น “Strand Game” ตามที่ Hideo Kojima ได้ให้คำนิยามเอาไว้ครับ

มาพูดถึงระบบการเล่นหลักๆกันก่อนเลยดีกว่า โดยเกมจะมีรูปแบบลำดับการเล่นคล้ายๆกับเกมก่อนหน้านี้อย่าง Metal Gear Solid V เช่นก่อนที่เราจะออกลุย เราจะต้องเลือก Mission ผ่านเครื่อง Terminal ต่างๆ โดยรายละเอียดของ Mission หลักๆก็คือการส่งของจากสถานที่หนึ่ง ไปอีกสถานที่หนึ่ง โดยบางครั้งอาจจะมี Mission พิเศษ เช่นการส่ง Pizza ที่ต้องไปส่งให้ไวตามเวลาทีกำหนด โดยรางวัลที่ได้จากการทำ Mission สำเร็จ ก็คือยอดไลค์ที่จะได้จาก NPC ใช่ครับ “ยอดไลค์” และวัตถุดิบสำหรับการคราฟไอเทม หรืออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้ในการส่งของครั้งต่อไป

เมื่อเราเลือก Mission ที่ต้องการได้แล้ว ต่อมาเราก็ต้องเลือกอุปกรณ์ที่เราจะเอาติดตัวไปด้วย เพื่อใช้ตามสถานการณ์ต่าง ๆ เช่นบันไดอเนกประสงค์ ที่จะช่วยให้เราสามารถข้ามหน้าผา หรือ ใช้ปีนไปที่สูงๆได้ หรือจะเป็นเชือกสมอสำหรับปีนเขา ที่เราสามารถใช้เพื่อโรยตัวลงจากภูเขาสูงๆได้ โดยทั้งหมดนี้เราจะต้องแบกมันไว้กับตัว เช่นเดียวกับ Cargo หรือของต่างๆที่ Mission กำหนดให้เราต้องเอาไปส่ง แน่นอนว่าถ้าหากเราแบกของเยอะเกินไป น้ำหนักตัวก็จะเกิน และจะทำให้การเคลื่อนที่ลำบากขึ้น แถมยังเคลื่อนที่ได้ช้าลงกว่าเดิมอีก

หัวใจหลักๆเลยก็คือเราต้องรักษาบาลานซ์ของน้ำหนักตาม Cargo ที่เราแบกมา เช่นเราจะต้องกระจายสิ่งของไปไว้รอบๆตัวไม่ใช่ยัด ๆ ใส่ไว้ที่หลังเราอย่างเดียว เช่นเราอาจจะเอาไปไว้ที่ส่วนแขนหรือขาบ้าง โชคดีที่ตัวเกมมีระบบจัดเรียงอัตโนมัติมาให้ เราจึงสบายในส่วนนี้ไป แต่ถ้าหากเราจัดการเรื่องน้ำหนักไม่ดี เวลาที่เราเดินไม่ระวัง ตัวละครมันก็จะอาจจะสะดุดอะไรสักอย่างล้มก็เป็นได้ หรือถ้าหากเราจำเป็นต้องแบกของไว้เยอะจริง ๆ เราก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยการกดปุ่ม L2 หรือ R2 เพื่อรักษาความสมดุลของร่างกายเอาไว้ตลอดครับ

นอกจากนี้เอง การเลือกทางเดินก็สำคัญเช่นกัน ตลอดทั้งเกมเราจะสามารถใช้เจ้า Odradek หรือไอ่เครื่องที่อยู่ตรงไหล่ด้านหลังเรา ในการสแกนมองหาจุดทางเดินต่างๆได้ โดยจะแบ่งเป็นระดับสี เช่นถ้าหากเป็นทางที่อันตรายต่อการลื่นล้ม มันก็จะแสดงออกมาเป็นสีแดง เราสามารถดูตรงจุดนี้ได้เพื่อเลือกที่จะเดินไปในทางที่ปลอดภัยมากกว่าหรือก็คือสีฟ้า นอกจากนี้มันยังมีอีกหนึ่งความสามารถ นั้นก็คือการตรวจจับพวก BTs อีกด้วย

เครื่อง Odradek

ถ้าหากการวิ่งส่งของข้ามภูเขาเป็นเรื่องที่ลำบากแล้ว ในระหว่างทางเราอาจจะเจอกับพวก BTs ได้ โดยมันจะมาพร้อมกับ Timefall (ฝนตก) ซึ่งจะทำให้ Cargo ของเราเสียหาย และถ้าหากเราเข้าใกล้ BTs เมื่อไร เจ้าเครื่อง Odradek ก็จะทำงาน และส่งสัญญาณให้เรารู้ได้ทันที โดยมันจะหันหน้าเข้าหา BTs โดยจะแบ่งเป็นระดับสีและความไวในการหมุน ถ้าหากมันหมุนเร็วขึ้นเมื่อไรและเปลี่ยนเป็นสีส้ม แสดงว่า BTs มันอยู่ใกล้เรามาก แต่ถ้าหากมันเป็นสีขาว และหมุนไม่เร็วมาก แสดงว่ามันยังอยู่ไกลครับ

อีกหนึ่งลายเซ็นของ Kojima ในการทำเกมเลยก็คือระบบ Stealth ที่มีมาตั้งแต่ Metal Gear โดยการ Stealth ในเกม Death Stranding นั้นเรียกได้ว่าฉีกกฎของวิดีโอเกมไปเลยทีเดียว เพราะคราวนี้ศัตรูของเรา “มันไม่ใช่คน” แต่มันคือ BTs หรือก็คือวิญญาณชนิดหนึ่ง โดยเราจะมองไม่เห็นมัน แต่มันจะมองเห็นเรา แน่นอนว่าเจ้าเครื่อง Odradek จะบอกตำแหน่งให้เรา แต่วิธีการที่จะมองเห็นมันนั้น ก็คือการใช้ BB (Bridge baby) เป็นตัวสื่อ โดยเราจะต้องเชื่อมต่อกับ BB และอยู่นิ่ง ๆ เพื่อที่จะเห็นมันได้ครับ และวิธีที่จะไม่ให้มันเห็นเราก็คือการกลั้นหายใจนั้นเอง

การต่อสู้กับ BTs

แน่นอนว่าเราสามารถต่อสู้กับเจ้า BTs นี้ได้ โดยภายในเกมนี้ Sam จะมีพลังบางอย่างที่ติดตัวมาเรียกว่า DOOMS โดยคนที่มีพลังนี้เมื่อตายและถูกส่งไปอย่าง The Beach เขาจะต้องมองหา Strand ของตัวเอง และกลับเข้าสู่ร่างในโลกความเป็นจริงได้ ซึ่งเราสามารถฆ่าพวก BTs ได้ โดยการใช้เลือดของ Sam เอง โดยภายในเกมนี้จะมีอาวุธให้เราเลือกใช้เช่น ปืนชนิดต่าง ๆ ที่บรรจุกระสุนพร้อมกับเลือดของ Sam และระเบิดที่อัดไปด้วยเลือดของ Sam แต่ข้อควรระวังคือถ้าหากเราใช้เลือดมากเกินไป เราอาจจะตายได้ เพราะเลือดมันก็คือพลังชีวิตของผู้เล่นนั้นเองครับ

แน่นอนว่าเจ้า BTs มันจ้องที่จะเล่นงานเราอยู่แล้ว เมื่อถูกพบเจอตัวมันจะเข้ามาดึงตัวเรา และจะพยายามที่จะกลืนกินเราทันที วิธีรับมือเมื่อถูกเจอตัวแล้ว ก็คือเราจะต้องรีบออกจากพื้นที่สีดำ หรือใช้อาวุธจัดการเจ้าพวก BTs ในบริเวณนั้นทันที แน่นอนว่าเรายังสามารถ Stealth Kill เจ้าพวก BTs ได้ แต่คุณต้องระมัดระวังให้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

การต่อสู้กับพวก BTs นั้นเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในวงการเกมมากๆ เพราะนอกจากว่ามันจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตมนุษย์ต่างดาว หรืออะไรก็ตามแต่ ถึงแม้ว่ามันอาจจะคล้ายๆกับผีวิญญาณตามเกมสยองขวัญต่าง ๆ แต่เจ้า BTs นั้นมันกลับแตกต่างออกไป สิ่งที่ผมชอบมากๆเลยก็คือเราไม่สามารถมองเห็นมันได้ ถ้าไม่มี BB คอยช่วยเหลือเรา และเราจะต้องใช้เครื่อง Odradek เพื่อบ่งบอกตำแหน่งของมัน

ลองนึกภาพที่เรากำลังอยู่ระหว่างทางส่งของที่มีน้ำหนักเยอะมากๆ แต่เราดันเข้าไปอยู่ใน Zone ที่มี BTs งานนี้เรียกได้ว่า “งานหยาบ” เพราะเราจะต้องเดินฝ่าเส้นทางนั้นไป โดยต้องหลบหลีกเจ้า BTs ทำให้เกิด Gameplay แบบใหม่ นั้นก็คือการ Stealth แบบ Open Environment ที่มันไม่ได้มีมุมอะไรให้เราหลบซ่อน แต่เราจะต้องสังเกตปฏิกิริยาของเครื่อง Odradek และรู้ถึงตำแหน่งของมันผ่าน BB เมื่อได้โอกาส ก็จัดการมันด้วยอาวุธที่บรรจุเลือดของเราไว้ และวิ่งผ่านมันไปได้แบบสบายๆ

แล้วเจ้า BB (Bridge baby) คืออะไร?? แน่นอนว่าหลายๆคนคงได้เห็นในตัวอย่างไปแล้ว ที่ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัว Sam เองหรือ Deadman ที่ได้อุ้มเด็กเอาไว้ โดยเจ้าเด็กคนนี้ก็คือ BB (Bridge baby) ที่เป็นเหมือนเครื่องมือชนิดหนึ่ง ถูกสร้างขึ้นมาด้วยสาเหตุบางอย่างที่ผู้เล่นจะต้องเข้าไปหาคำตอบในเกมด้วยตัวเอง แต่ความสามารถของมันนั้น ทำให้ผู้ที่เชื่อมต่อกับ BB สามารถมองเห็น BTs ได้ พร้อมกับอาจจะได้รับความทรงจำบางอย่างในตัวของ BB มาสู่เราอีกด้วย

โดยเราจะต้องเลี้ยงดูเจ้า BB นี้เหมือนลูกเราเลยทีเดียว ตลอดทั้งเกมถ้ามีการต่อสู้เกิดขึ้น หรือถ้าหากเราลื่นล้มจนทำให้เกิดการกระแทกแรงๆ เจ้า BB ก็จะร้องไห้ และมันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องคอยกล่อมเด็กน้อยให้สงบอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากเราเลี้ยงดูไม่ดี มันอาจจะไม่ยอมช่วยเหลือเราตอนเจอกับพวก BTs ก็เป็นได้ครับ

มาพูดถึงเรื่องระบบการคราฟไอเทมกันบ้าง โดยทุกๆครั้งที่เราส่งของเสร็จ เราจะได้วัตถุดิบสำหรับการคราฟโดยจะแบ่งออกไปหลายประเภท โดยเราจะสามารถทำการคราฟได้ที่เครื่อง Terminal ของเมืองต่างๆ โดยผ่านระบบ Chiral Printer ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ช่วยในการเดินทาง ชุดเกราะเหล็กสำหรับช่วยในการเดินตามสภาพภูมิประเทศที่ไม่ดี รวมไปถึงอาวุธทุกชนิด และยานพาหนะอีกด้วย

แน่นอนว่าการเดินทางภายในเกมนี้สามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเท้าปกติหรือแม้แต่ใช้ยานพาหนะ ที่บอกตามตรงว่าสภาพภูมิประเทศมันอาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้รถในการเดินทางสักเท่าไรนัก ภายในเกมมียานพาหนะให้เราเลือกใช้ไม่เยอะมาก หลักๆก็จะมีมอเตอร์ไซด์กับรถบรรทุกขนาดกลาง ทื่มีความสามารถต่างกัน เช่นรถมอเตอร์ไซด์จะขับขี่ได้รวดเร็วกว่า และสามารถขับเลาะไปตามทางแคบ ๆ ส่วนรถบรรทุกนั้นสามารถขนของได้เยอะมาก ๆ แต่ก็ต้องแลกกันการที่มันช้าและไม่สามารถขับไปตามทางแคบ ๆ ได้นั้นเอง

แต่ปัญหานั้นจะหมดไป เพราะเราสามารถสร้างถนนสำหรับการขับขี่ได้ โดยตามจุดต่างๆในแผนที่มันจะมีเครื่อง Terminal สำหรับการสร้างถนนผ่านระบบ Chiral Network อยู่ โดยสิ่งที่เราต้องทำ ก็แค่ไปแบกเอาวัตถุดิบต่างๆมาให้พร้อมเท่านี้เราก็จะมีถนนสำหรับการขับขี่แล้ว

สำหรับสิ่งก่อสร้างอื่นๆภายในเกมก็จะมีพวกสะพานขนาดใหญ่ ที่เอาไว้ข้ามทางหน้าผา หรือแม่น้ำขนาดใหญ่ที่รถไม่สามารถผ่านได้ ที่เหลือก็จะเป็นพวกสิ่งก่อสร้างประเภท Watch Tower ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้ในการตรวจสอบรอบๆแผนที่ได้ รวมไปถึงพวก Generator ที่เอาไว้ชาจชาร์จแบตยานพาหนะ หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้แบตเตอรี่ที่เราสวมใส่อยู่ โดยสิ่งก่อสร้างทั้งหมดนี้มันจะถูกแชร์ให้ผู้เล่นคนอื่นๆได้ใช้งานผ่านระบบ Online ของเกมนี้อีกด้วยครับ

มาพูดถึงฉาก Action กันบ้าง แน่นอนครับว่าเกมนี้มีฉาก Action ให้เห็นอยู่บ้างตลอดทั้งเกม นอกจากเจ้าพวก BTs ที่เราจะต้องต่อสู้ด้วยแล้ว ก็ยังมีเหล่ามนุษย์ด้วยกันเองนี่แหละ ที่เป็นศัตรูกับเรา โดยไอ่เจ้าพวกนี้มันมักจะขโมยกล่องส่งสินค้าหรือ Cargo ของนักส่งของ เพื่อที่จะเอาไปใช้เป็นของตัวเอง โดยมันจะวางทุ่นระบุตำแหน่งแบบ Beacon เอาไว้ตามจุดต่างๆในแผนที่ ถ้าหากเราเดินผ่านเมื่อไรล่ะก็ พวกมันจะรู้ตัว และรีบวิ่งมาหาเราทันที

วิธีต่อสู้กับพวกมันก็มีหลายแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นการ Stealth โดยการย่องไปด้านหลังมันแล้วจัดการ หรือใครที่ชอบการต่อสู้แบบซึ่ง ๆ หน้า ก็สามารถทำได้โดยการใช้กล่องส่งสินค้า Cargo ของเราขว้างใส่ศัตรู หรือเอาไปฟาดหน้ามันตรง ๆ เลยก็ได้ แต่ถ้าหากเราสู้กับมันจนหมดแรง และถูกจับได้ มันก็จะขโมยกล่องสินค้าของเราไป พร้อมกับเอาตัวเราไปทิ้งไว้ไกล ๆ เป็นภาระที่เราจะต้องตามกลับไปเก็บของคืนอีกล่ะครับ


Online


ระบบ Online ของเกมนี้จะคล้ายๆกับเกมอย่าง Dark Souls ที่ตัวเกมจะพูดถึงนักส่งของคนอื่นๆที่อยู่ในโลก ต่างก็กำลังช่วยกันกอบกู้ประเทศให้กลับมารวมเป็นหนึ่งอีกครั้ง โดยการกระทำของเรา เช่นการสร้างเครื่อง Generator เอาไว้ตามสถานที่ต่างๆ ผู้เล่นคนอื่นที่บังเอิญผ่านมาอาจจะได้รับประโยชน์จากมันได้ แถมยังสามารถกดไลค์ให้ผู้เล่นเจ้าของสิ่งก่อสร้างได้อีกด้วย

แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะได้เล่น Co-op กับเพื่อนแบบเป็น ๆ  หรือไม่สามารถมองเห็นผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้ แน่นอนว่าเรายังสามารถทิ้งสัญลักษณ์ไว้ตามจุดต่าง ๆ ในเกมเพื่อที่จะบอกใบ้ หรือบอกทางให้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่เดินผ่านมา เช่นเราอาจจะทำสัญลักษณ์บอกผู้เล่นคนอื่นว่า ตรงจุดนี้เป็นพื้นที่ของพวก BTs นะ หรือเป็นสัญลักษณ์ให้กำลังใจผู้เล่นขณะที่กำลังเดินทางในจุดที่ยากลำบาก ซึ่งตรงจุดนี้มันจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกไม่เหงาสักเท่าไร ถึงแม้จะเล่นคนเดียวก็ตาม

ต้องขอขอบคุณคนที่มาสร้างไว้จริงๆ

ต้องบอกเลยว่าระบบ Online นั้นทำให้เกมนี้เล่นง่ายขึ้นมาก ๆ มีหลายครั้งที่ผมกำลังตกที่นั่งลำบากขณะติดอยู่ในสถานที่แย่ ๆ และอุปกรณ์ชุดเกราะที่ช่วยให้ตัวเราแบกของได้เยอะขึ้นก็ดันมาแบตหมดกลางทาง และจุดหมายก็อยู่ที่ไกลซะเหลือเกิน แต่สวรรค์โปรด ผมดันไปเจอเข้ากับเครื่อง Generator ของใครสักคนที่สร้างเอาไว้กลางภูเขาทำให้แบตเตอรี่กลับมาเต็ม และพร้อมลุยต่อได้ทันที รวมไปถึงสะพานขนาดใหญ่ ที่ทำให้การเดินทางผ่านยานพาหนะของผมเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก

นอกจากนี้เองเราก็ยังสามารถบริจาคของที่เราไม่ได้ใช้ หรือยานพาหนะ เอาไว้ให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่กำลังตกที่นั่งลำบากต้องการใช้ได้อีกด้วยครับ มีหลายครั้งที่ผมเพิ่งทำรถของตัวเองพังขณะเดินทาง และสามารถแบกร่างกายให้มาถึงจุดหมายได้ แต่ถ้าจะให้วิ่งกลับไปมันคงต้องใช้เวลานานมาก ๆ แต่ด้วยความโชคดี มีผู้เล่นบางคนบริจาคยานพาหนะเอาไว้ให้ผู้เล่นอื่นใช้ได้ฟรี ๆ งานนี้ก็ทำให้การเล่นสะดวกขึ้นมากเลยทีเดียว

กล่องส่งสินค้าหรือ Cargo ต่าง ๆ เอง นอกจากจะมีของ Mission หลัก ๆ แล้วก็ยังมีของที่สามารถเก็บได้ตามทาง หรือของที่ผู้เล่นคนอื่นทำตกไว้เช่นกัน โดยเราสามารถเอาของพวกนี้ไปส่งแทนได้ หรือตัวเราเองก็สามารถฝากของให้ผู้เล่นคนอื่นส่งต่อได้อีกเช่นกันครับ


Graphics


Death Stranding ขับเคลื่อนโดย Decima Engine จาก Guerrilla Games ที่ใช้กับเกม Killzone Shadow Fall และ Horizon Zero Dawn มาแล้ว เพราะฉะนั้นจึงการันตีได้เลยว่ากราฟิกในเกมนี้มันต้องออกมาสวยงามมาก ๆ อย่างแน่นอน ผมต้องบอกเลยว่ารู้สึกตกใจมาก ๆ เพราะไม่คิดว่า PS4 รุ่นธรรมดาที่ผมใช้รีวิว จะสามารถรองรับกราฟิกระดับสูงขนาดนี้ได้ โดยเฉพาะตัวโมเดลของตัวละครนั้นสามารถทำออกมาได้ดีมาก ๆ ราวกับว่าเหล่านักแสดงได้มาโลดแล่นในตัวเกมเองเลยล่ะครับ

ด้าน Performance ก็สามารถทำได้ดีมากเลยทีเดียว ตัวเกมจัดการกับปัญหา Frame Rate และสเปกที่จำกัดของ PS4 ได้เป็นอย่างดี ตลอดทั้งเกมนั้นผมแทบจะไม่รู้สึกถึงอาการเฟรมตกเลย ทั้งในฉากธรรมดา หรือฉากที่มีเอฟเฟคเยอะๆ ต้องขอชมทีมงานที่เอาใจใส่ในจุดนี้ และทำให้แฟนๆ เกมได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีใน PS4 เครื่องรุ่นธรรมดาได้ครับ

ในส่วนของการออกแบบฉาก หรือ Art ต่างๆภายในเกมนั้น ด้วยการที่ Theme ของเกมนี้คือโลกหลังการล่มสลายและโลกที่ถูกดูดกลืน เพราะฉะนั้นสภาพโดยรวมก็จะเต็มไปด้วยสถานที่โล่งกว้าง ภูเขาขนาดใหญ่ ภูเขาหิมะ อะไรพวกนี้ครับ แต่ทีมงานเองก็ยังทำการบ้านได้ดีเกี่ยวกับการออกแบบโลกในรูปแบบ Post Apocalypse ทำให้เราได้เห็นตึกรามบ้านช่องต่างๆที่ไม่ได้ถูกกลืนกินไปในสภาพปรักหักพัง สร้างบรรยากาศได้ดีเลยทีเดียว


สรุป


Death Stranding เป็นเกมที่ไม่เหมาะกับทุกคนแน่นอน ด้วยระบบการเล่นที่แปลกใหม่ ถึงแม้ว่าจะจริงจังสักแค่ไหน แต่ Gameplay หลัก ๆ ก็คือการส่งของ โดยเราอาจจะเรียกเกมนี้ว่า Delivery Logistics Simulator เลยก็ได้ครับ แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้มันแตกต่างออกไป และสร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมานั้นก็เป็นเพราะว่าตัว Hideo Kojima เอง ที่ผมคิดว่าแฟน ๆ ของโคจิม่าจะเข้าใจดีเลย เพราะสไตล์การออกแบบเกมของเขาที่เป็นเอกลักษณ์สูงมาก จนทิ้งลายเซ็นเอาไว้ทั้งเกม

แต่ถ้าหากเรามองในทางกลับกัน Death Stranding เป็นเกมที่กล้าลองนำเสนออะไรใหม่ ๆ เข้ามาในวงการเกม ถ้าเราลองมองย้อนกลับมาในยุคนี้เกม AAA แต่ละเกมส่วนมากก็จะวนเวียนอยู่กับเกมภาคต่อ หรือไม่ก็เกม IP ใหม่ ที่รูปแบบการเล่นคล้าย ๆ เกมเก่าๆที่มีอยู่นานแล้วกันทั้งนั้น แต่สำหรับ Death Stranding นั้นมันได้นำเอาระบบของเกมที่มีอยู่ก่อนแล้วในยุคนี้มาปรับปรุงใหม่ เพิ่มเติมกับการออกแบบ Gameplay ขึ้นมาใหม่ และนำเสนอมันออกมาในรูปแบบเกมที่เน้นการเล่าเรื่อง เปรียบเสมือนกับการดูหนังอยู่เรื่องนึงแบบโคจิม่าเขาถนัดนั้นเอง

สำหรับเนื้อเรื่องภายในเกมนั้น มันน่าติดตามมากครับ และเดาทางไม่ถูกเลยว่าจะไปจบที่ตรงไหน ยิ่งเป็นช่วงท้าย ๆ ของตัวเกมที่พีคมาก ๆ จนทำเอาคนเล่นถึงกับเงิบแล้วเงิบอีก แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากเราไม่ได้เล่นติดต่อกัน ก็อาจจะมีงง ๆ กับเนื้อเรื่องได้ อีกทั้งตัวเกมยังใช้ภาษาที่ซับซ้อนระดับหนึ่ง มีคําศัพท์ใหม่ ๆ ออกมาอยู่มาก ถ้าไม่ตั้งใจฟังหรือปะติดปะต่อเรื่องราวให้ดี ๆ อาจจะมีงงกันได้ครับ

ย้อนกลับไปพูดถึง P.T กันบ้าง หากยังจำกันได้ P.T คือโปรเจคเกม Silent Hill ที่ได้รับการดูแลออกแบบโดย 2 ผู้กำกับเกมและภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Hideo Kojima และ Guillermo del Toro โดยมี Norman Reedus เป็นพระเอกที่ผู้เล่นจะได้ควบคุม โดยนี่เป็นอีกหนึ่งการ Collaboration ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการเกมเลยทีเดียว แต่ท้ายสุดโปรเจคนี้ก็ต้องถูกยกเลิกไป ด้วยการลาออกของตัวโคจิม่าเอง ทำให้แฟน ๆ ต่างพากันเสียใจไปตาม ๆ กัน

แต่แล้วการมาของ Death Stranding ก็ทำให้เห็นว่าทั้ง 3 คนนี้ยังไม่ยอมแพ้ต่อการทำเกม เพราะพวกเขาได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับตัวอย่างที่ทำให้เกมเมอร์งงกันไปตาม ๆ กัน ว่าเกมนี้มันจะสื่อถึงอะไร แต่มาจนถึงตอนนี้ จากที่ผมใช้เวลากับตัวเกมมา 4 สัปดาห์เต็ม พร้อมกับทั้งอ่านไฟล์ข้อมูลต่างๆภายในเกม และซึมซับเรื่องราวของตัวเกมทั้งหมด มันทำให้ผมกลับไปนึกถึง P.T. ขึ้นมาได้ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Death Stranding คือเกมที่สานต่อเจตนารมณ์ของ P.T. อย่างเต็มที่เลยล่ะ

บอกก่อนเลยว่าเรื่องนี้ผมไม่ได้เป็นคนมโนไปเองอย่างแน่นอน เพราะส่วนตัวแล้วผมก็มีโอกาสได้เล่น P.T. ของ PS4 พร้อมกับเคยได้ลองพยายามไขปริศนาสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับเรื่องราวของตัวเกมทั้งหมด และหลังจากเล่น Death Stranding จบ ผมกล้าพูดเลยว่า ตัวเกมได้นำเอาคอนเซ็ปของ P.T. ที่เคยออกแบบไว้แล้วมาใช้ และนั้นทำให้เราได้เล่นสุดยอดเกมที่แฟน ๆ ของทั้ง 3 คนรอคอยครับ


สุดท้ายนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Hideo Kojima จะสร้างผลงานอะไรให้เราได้เสพกันอีก และจนถึงตอนนั้นตัวผมเองก็จะไม่พลาดอย่างแน่นอนครับ