[รีวิวเกม] Fantasian เกมมือถือ RPG คุณภาพเยี่ยม จากผู้ให้กำเนิด Final Fantasy

Our score

9.8

[รีวิวเกม] Fantasian เกมมือถือ RPG คุณภาพเยี่ยม จากผู้ให้กำเนิด Final Fantasy

จุดเด่น

กราฟิก อาร์ตเวิร์ก รวมไปถึงฉากโมเดลสามมิติ มีความละเอียดลออ คุณภาพดีมาก ดนตรีประกอบอลังการ
คงเอกลักษณ์เกม JRPG และบรรยากาศแบบ Final Fantasy ไว้ได้ดี เนื้อหา การดำเนินเรื่อง ละเมียด ค่อยเป็นค่อยไป
ผสมผสานลูกเล่นใหม่ ๆ ลงในระบบสู้แบบ Turn-Based ดั้งเดิมอย่างลงตัวและสอดคล้องกับการเล่นบนมือถือ
เป็นมิตรกับผู้เล่นที่ไม่ใช่สายฮาร์ดคอร์เกม JRPG พอสมควร

จุดสังเกต

เวลาคัตซีนยาว ๆ เฟรมเรทตกพอสมควร และมีปัญหาเครื่องร้อน
ไม่เหมาะกับการต่อจอยอนาล็อก ด้วยระบบสู้บางอย่างที่เอื้อต่อการควบคุมผ่านการทัชกรีนมากกว่า

โปรยมาซะแทบไม่ต้องเกริ่นอะไรอีกแล้วกับเกมมือถือ RPG ตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดให้เล่นผ่านระบบ iOS บน Apple Arcade อย่าง Fantasian ผลงานเกมสุดละเมียดโดย ฮิโรโนบุ ซากางูจิ ผู้สร้างเฟรนไชส์เกม JRPG ในตำนานอย่าง Final Fantasy มาดูกันว่าผลงานใหม่ภายใต้ทีมพัฒนา Mistwalker จะเป็นอย่างไรบ้าง

ผสานคอมพิวเตอร์กราฟิกกับงานฉากทำมือแบบ Diorama

จุดน่าสนใจที่มีโอกาสได้อ่านคำแนะนำเกมก่อนจะกดปุ่มดาวน์โหลดก็คือ งานภาพของเกมนี้มีการผสมผสานระหว่างตัวละครและเอฟเฟกต์ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกกับโมเดลจำลองสามมิติที่ทำด้วยมือ ย้ำทำด้วยมือ!!! กว่า 150 แบบ แม่เจ้า นี่มันงาน’หาทำ’ระดับพรีเมียม!

ในส่วนของภาพนั้น ทั้งดีไซน์ตัวละคร และดีไซน์องค์ประกอบต่าง ๆ บอกได้เลยว่านี่มันไฟนอลชัด ๆ (ก็เออสิ) นอกจากภาพที่เป็นตัวละคร 3 มิติแล้ว ตัวเรื่องจะสลับเล่าเรื่องราวแบบโนเวล ที่มีภาพอาร์ตเวิร์กลายเส้นสวย ๆ ให้ได้เสพกันประปราย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวน สวย ดี มีคุณภาพ

มาในส่วนของจุดขายของเกมกันบ้าง ที่ยกเอาโมเดลฉาก 3 มิติทำมือเข้ามาใช้ด้วย โดยเป็นเทคนิคที่เรียกว่า Diorama ตรงนี้ขอบอกว่าว้าวมาก เพราะตัวละครของเราจะโลดโผนอยู่บนเจ้าฉาก 3 มิตินั้นจริง ๆ ไม่ว่าจะเดินไปตามทางเดิน ไต่เนินทราย และแน่นอนว่ารายละเอียดต่าง ๆ สามารถสังเกตได้เลยขณะเล่น ว่านี่มันของจริง!

เนื้อหา การเดินทาง และท่วงทำนอง ที่ไม่หนีห่างเกมรุ่นพี่

สำหรับเนื้อหาและสไตล์การดำเนินเนื้อเรื่องจะให้อารมณ์ไฟนอล แฟนตาซี ส่วนเรื่องราวจุดเริ่มต้น เอาเกริ่น ๆ แบบไม่สปอยล์มากก็คือ ตัวพระเอกที่ชื่อว่าลีโอ ฟื้นขึ้นมาพบว่าจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้ จึงต้องเริ่มออกเดินทางไปพบปะ พูดคุยกับคนที่รู้จักตัวเองนี่แหละ เพื่อให้คนเหล่านั้นเล่าเรื่องราวของตัวเขาให้ฟัง ระหว่างทางก็จะมีอุปสรรค มีปริศนาต้องแก้ มีภารกิจต้องทำตามสไตล์ JRPG

ส่วนที่ชอบคือตัวละครแต่ละตัววางบุคลิกลักษณะนิสัยได้ค่อนข้างดีไม่ผิดหวัง เราจะได้เห็นอารมณ์ขันของตัวเอกผ่านบทสนทนาอยู่ประปราย

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่องของดนตรีประกอบ ทำไมเกมนี้ถึงมีบรรยากาศและท่วงทำนองที่พอดิบพอดีเหมือนเล่นไฟนอล แฟนตาซีเลยน่ะหรือ ก็นอกจากคนทำคนเดียวกัน คนประพันธ์เพลงประกอบก็คือคนเดียวกับที่ประพันธ์เพลงหลายต่อหลายเพลงประกอบเกมไฟนอล แฟนตาซียังไงล่ะ นั่นก็คือ โนบูโอะ อูเอมัตสึ ก็เรียกได้ว่าเป็นนักแต่งเพลงคู่บุญคู่บารมีกับเกมตระกูลนี้เลยนั่นแหละ

สรุปง่าย ๆ คือฟีลลิ่งเหมือนเล่นไฟนอล แฟนตาซีในมุมมองและวัตถุดิบที่แปลกใหม่ขึ้นมา แต่คุณภาพและความอิ่มเอมเก็บไว้ได้ค่อนข้างครบ นี่สำคัญ ตอนนี้เกมนี้ยังมีสถานะเป็นเกมเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับ Apple Arcade เล่นได้ทั้งบน iPhone iPad เครื่อง Mac และ Apple TV ด้วย ใครใช้แอนดรอยด์ต้องร้องไห้แล้ว!

ระบบต่อสู้แบบ Turn-Based ที่ผสมลูกเล่นใหม่ ๆ เข้ามา

สำหรับสาวกเกมแนว Turn-Based JRPG คงจะคุ้นเคยกันดีกับระบบต่อสู้ทำนองนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจที่เพิ่มเข้ามาคือระบบ Dimengeon ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นได้ระดับหนึ่งเลย

โดยปกติสำหรับเกมแนวนี้ เมื่อตัวละครออกเดินสำรวจแผนที่โลก จะมีมอนสเตอร์สุ่มมาตีเราเป็นระยะ ๆ เรียกได้ว่า กว่าจะเดินถึงจุดหมายนี่แวะบู๊กันจนลืมว่ากำลังจะไปไหนได้เลยแหละ แต่เจ้าระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามานี้จะเป็นระบบเหมือนเปิดมิติพิเศษเอาไว้ มอนสเตอร์ที่โจมตีเราระหว่างทางจะถูกย้ายไปเก็บสะสมไว้ในมิตินั้นโดยที่ไม่ขัดจังหวะการเดินเควสต์ของเรา ซึ่งมีลิมิตอยู่ที่ 30 ตัว (อย่างน้อยก็ขณะที่เล่นอยู่นี่) โดยระหว่างนี้ Dimengeon จะสะสมมอนสเตอร์ไว้ แล้วเราสามารถเลือกกดเพื่อตีทีเดียวเมื่อไรก็ได้ แต่ก็ต้องคอยระวังไว้หน่อย เพราะถ้าจำนวนมอนสเตอร์ใน Dimengeon ถึงลิมิตเมื่อไร ระบบจะบังคับให้เราเข้าสู่การต่อสู้ทันที

และอีกข้อดีของระบบนี้คือ การเอามอนสเตอร์เข้ามาสู้ใน Dimengeon เหมือนเอาศัตรูมาสู้ในบ้านเรานั่นล่ะ คือในฉากจะมีบัฟต่าง ๆ ให้เก็บมากมาย (ที่ในการต่อสู้ข้างนอกไม่มี) จริงอยู่ว่าระบบนี้ทำให้เราต้องสู้กับมอนสเตอร์ทีเดียวหลายตัวมาก แต่เกมก็สร้างข้อให้เปรียบตรงมีบัฟดรอปให้เก็บตลอดการสู้ บอกเลยว่าหมู ๆ

เจ้าระบบนี้จึงถือได้ว่าช่วยให้เกมนี้มีความเป็นกันเองกับผู้เล่นสายเกมมือถือพอสมควร ไม่ใช่ฮาร์ดคอร์ JRPG จนผู้เล่นมือใหม่รู้สึกแตะต้องยากแต่อย่างใด แถมเล่นไปเล่นมาก็พบว่า เกมนี้ออกแบบมาให้เหมาะกับการบังคับด้วยทัชสกรีนมากกว่าแอนะล็อก เดี๋ยวจะอธิบายว่าทำไม

เพิ่มความได้เปรียบและคุ้มค่าด้วยวิถีสกิลโค้ง

แม้เกมนี้จะเหมือนกับเกม RPG อื่น ๆ ที่สกิลของตัวละครจะมีทั้งสกิลเดี่ยวและสกิลหมู่ แต่ตัวเกมแอบมีตัวช่วยให้ผู้เล่นต่อสู้ได้สนุกและง่ายขึ้นด้วยระบบโก่งสกิล (คิดชื่อเอง ไม่รู้เรียกว่าอะไรเหมือนกัน) คือ สกิลในเกมนี้บางสกิล สามารถใช้นิ้วลากเพื่อทำวิถีโค้ง และให้วิถีของสกิลไปถูกมอนสเตอร์ได้มากกว่า 1 ตัว

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ถ้าลากยิงไปโต้ง ๆ มันจะตีแค่ตัวเดียว แต่ถ้าเราโก่งวิถีสกิลให้โค้งถูกที่ถูกตำแหน่ง เราจะโจมตีมอนสเตอร์ได้หลายตัวพร้อมกันในเทิร์นเดียว แถมดาเมจเท่ากับตีตัวเดียวด้วยนะ ไม่ได้หารเฉลี่ยใด ๆ ทั้งสิ้น แจ่มแมวมาก ๆ

เท่ากับว่า เกมนี้มีประเภทสกิลโจมตีหลัก 3 รูปแบบ ได้แก่ สกิลเดี่ยว (บิด โก่ง หรือปรับวิถีให้ไปโดนตัวอื่น ๆ ด้วยไม่ได้แล้ว) สกิลเดี่ยวที่หมู่ได้ (สามารถโก่งวิถีสกิลให้โดนหลาย ๆ ตัวได้) สกิลหมู่ (ที่หมู่แต่กำเนิด ยิงโง่ ๆ ไปยังไงก็โดนหลายตัว)

ส่วนตัวชอบระบบนี้นะ มันทำให้การเล่นเกมแนวเทิร์นเบสไม่ใช่แค่เลือกสกิลและเลือกเป้าหมายเฉย ๆ แต่สามารถควบคุม กำหนดทิศทาง ระยะการโจมตีได้ด้วยตัวเอง รู้สึกถึงประสบการณ์การเล่นที่แปลกใหม่ ต่างจากเกมแนว Turn-Based JRPG ที่ผ่าน ๆ มา

มาถึงข้อเสีย (หรือเปล่าไม่แน่ใจ) ที่มากับระบบวิถีสกิลโค้งแบบนี้ ก็คือ ใครคิดจะเล่นต่อกับจอยแอนะล็อก อาจจะต้องขัดอกขัดใจเล็กน้อย เพราะระบบการโก่งวิถีสกิลที่เกมนี้ใส่เข้ามา มันเหมาะมากและใช้งานได้ดีกับการบังคับแบบทัชสกรีนบนมือถือ (หรืออย่างน้อย ๆ ก็ใช้เมาส์เล่น) จะมีความละเอียด และแม่นยำกว่า ในขณะที่จอยแอนะล็อกมีโอกาสจะวืดไปวืดมา เล็งลำบากเล็กน้อย แต่เอาเถอะ ก็มันทำมาให้เล่นในมือถือนี่เนอะ (ฮ่าฮ่า)

สรุปแล้ว

เป็นเกม JRPG คุณภาพดีมาก การันตีโดยผู้สร้างและนักแต่งเพลงคู่บุญจาก Final Fantasy กราฟิกอลังการ ฉากโมเดล 3 มิติ Diorama ทำออกมาได้ละเอียดลออมากทีเดียว หนึ่งในงานหาทำที่ต้องยกนิ้วให้

ระบบต่อสู้ใส่ลูกเล่นใหม่ ๆ แปลกหูแปลกตาเข้ามาผสมกับ Turn-Based ดั้งเดิมที่คุ้นหน้าคุ้นตาได้พอเหมาะพอเจาะ ตัวการเล่นทำมาให้เหมาะสมกับการเล่นบนมือถือทีเดียว เป็นหนึ่งในเกมคุณภาพดีที่ไม่ง้อเครื่องคอนโซลเลย

ข้อสังเกต เวลาคัตซีนยาว ๆ เฟรมเรตร่วงอย่างเห็นได้ชัด (นี่เล่นด้วย iPhone 12 แล้วนะ) และอ่อ ที่น่าเสียดายคือเป็นเกมเงียบนะ ไม่มีเสียงพากย์ตัวละคร ส่วนตัวคิดว่า จากสเกลของเกมและรายละเอียดต่าง ๆ เหลือแค่ใส่เสียงพากย์แล้วจริง ๆ ถ้ามีคือครบเลย แต่ไม่มีก็ไม่ได้ทำให้เกมนี้บกพร่อง เกม RPG เมื่อก่อนที่เล่นกันก็ใช่จะมี (ฮ่าฮ่า)