[รีวิวเกม] Hokko Life เกมจำลองชีวิตแนว Animal Crossing สำหรับ PC

Our score

7.8

Hokko Life (PC)

จุดเด่น

1. เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเล่น Animal Crossing แต่ไม่มี Nintendo Switch
2. ราคาประหยัด แต่คอนเทนต์คุ้มราคา
3. สนุกและเพลิดเพลิน สามารถเล่นได้เป็นเวลานาน
4. ระบบคราฟต์เฟอร์นิเจอร์ที่ไร้ขอบเขต
5. สามารถตกแต่งเมืองและบ้านของคนอื่นได้ตามใจชอบ
6. ระบบ Creator Catalog ที่ผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานของตัวเองให้ผู้เล่นอื่นดาวน์โหลดได้

จุดสังเกต

1. ยังอยู่ในช่วง Early Access ที่มาพร้อมกับบั๊กต่าง ๆ
2. ตัวเลือกในช่วงปรับแต่งตัวละครมีน้อย
3. การออกแบบตัวละครต่าง ๆ ควรเพิ่ม'ไส้ใน'เข้าไปเพื่อให้ดูมีความน่าสนใจกว่านี้
4. ไม่สามารถเล่นออนไลน์กับเพื่อนได้
5. คำแนะนำในเควสต์เบื้องต้นควรปรับปรุงให้เข้าใจง่ายกว่านี้

Hokko Life เกมอินดี้แนว Life Simulation ที่ถูกพัฒนาโดยทีมงาน Wonderscope และจัดจำหน่ายโดย Team 17 โดยตัวเกมวางจำหน่ายให้กับ PC บน Steam ในวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยราคา 420 บาท

ในช่วงที่เกมนี้เปิดตัวเป็นครั้งแรก มีการถูกมองว่าตัวเกมมีความคล้ายกับ Animal Crossing มาก เพราะองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างเรื่องธีมที่มีเมืองบริหารโดยสัตว์ เนื่องจากตัวผมเองเป็นคนชอบเล่นเกมแนว Animal Crossing แต่ไม่มีเครื่อง Nintendo Switch เลยต้องยืมของเพื่อนมาเล่นอยู่บ่อย ๆ หลังจากเข้าช่วง COVID-19 ทำให้ผมไม่สามารถออกไปยืมเครื่อง Switch ของเพื่อนมาเล่นได้ จึงตัดสินใจลอง Hokko Life มาเล่นดูครับ

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้หลังจากเล่นไป 7 ชั่วโมงกว่า บอกได้ว่าเกมนี้มีองค์ประกอบเหมือนกับ Animal Crossing จริงแต่ก็มีระบบหลายอย่างที่ Animal Crossing ไม่มีเหมือนกัน

ก่อนที่จะมาเริ่มกัน ทางเราก็ต้องขอขอบคุณทางทีมงานสำหรับโค้ดรีวิวตัวเกมนี้เป็นอย่างสูงครับ

Introduction

Hokko Life แน่นอนว่ามีองค์ประกอบหลายอย่างที่คล้ายกับ Animal Crossing แม้แต่เนื้อเรื่องเริ่มต้นก็มีความคล้ายเช่นกันครับ โดยตอนเริ่มตัวละครหลักจะตื่นขึ้นบนรถไฟไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขึ้นมาตอนไหนและมาจบลงในเมืองที่ถูกบริหารโดยเหล่าสัตว์ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อหมดช่วงเริ่มต้นไปแล้ว ในเกมจะไม่มีเนื้อเรื่องหลังจากนั้นให้ติดตามครับ ซึ่งเป้าหมายหลักของผู้เล่นต่อจากนั้นจะต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อหาเงินใช้พัฒนาเมืองให้เจริญเติบโต, เพิ่มจำนวนประชากรให้ย้ายเข้ามาอยู่เยอะขึ้น และออกสำรวจพื้นที่ใหม่ ๆ นั่นเอง

Gameplay

ในส่วนของเกมเพลย์ ขอเริ่มที่โหมดสร้างตัวละครช่วงเริ่มต้นก่อนครับ ในโหมดนี้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งสีของตัวละครได้ ไม่ว่าจะเป็นสีผิว, สีตา, สีผม และสีไฮไลท์ผม ซึ่งผมเองมองว่าการใช้ Slider ปรับสีเป็นไอเดียที่น่าสนใจเพราะสามารถเลือกสีได้ตามใจชอบผู้เล่นครับ

อีกส่วนที่ผู้เล่นสามารถแต่งได้คือทรงผม ซึ่งดูเหมือนว่าจะต้องเติมรายละเอียดในรูปทรงผมตัวอย่างด้วย เพราะไม่รู้เลยว่าทรงไหนเป็นยังไงหากไม่กดลองเอง จากที่ผมมองในส่วนของโหมดปรับแต่งตัวละครนี้ บอกได้ว่าตัวเลือกที่ปรับแต่งได้มีจำนวนน้อย เพราะยังมีส่วนอย่างโครงหน้า, ทรงคิ้ว, รูปทรงหู, ตา, จมูก, ปาก ที่ปรับไม่ได้เหมือนกับเกมอื่น ๆ

ในส่วนพวกเสื้อผ้าของตัวละคร ผู้เล่นจะไม่สามารถเลือกได้ตามใจชอบในช่วงแรกครับ เพราะเสื้อผ้าจะถูกนับเป็น
ไอเทมที่ได้รับเป็นของรางวัลจากเควสต์ต่าง ๆ ซึ่งส่วนตัวมองว่าถึงจะถูกจัดให้เป็นแบบนั้นก็ตาม น่าจะมีให้เลือกซัก 3 – 4 ชุดก็ยังดี

เมื่อสร้างตัวละครเสร็จแล้วก็จะเริ่มเกมตาม Introduction ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ตัวละครของผู้เล่นจะตื่นขึ้นมาบนรถไฟที่พาเข้าสู่เมืองปริศนาที่บริหารโดยสัตว์ ผู้เล่นจะได้ทำความรู้จักกับ Oma ช้างเจ้าของร้านอาหารที่จะให้ห้องพักฟรีกับเรา และ Moss ยีราฟเจ้าของร้านขายของชำ ซึ่งทั้งคู่จะช่วยผู้เล่นแนะนำระบบเบื้องต้นต่าง ๆ ในเกมนี้

เควสต์เบื้องต้นจะชี้แนะเกี่ยวกับระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตัดต้นไม้, ตกปลา, ทำสวน, จับแมลง, คราฟต์ไอเทมและเฟอร์นิเจอร์ พร้อมกับกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้ผู้เล่นสำรวจด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม เควสต์เบื้องต้นค่อนข้างจะมีการชี้แจงที่งงและไม่ชัดเจนนัก ถึงจะสามารถถาม Oma ได้ว่าจะต้องทำอะไรต่อก็ตาม แต่ก็ไม่ได้บอกสิ่งที่อยากรู้เป็นบางที ยกตัวอย่างเช่นการตกปลา ซึ่งในเกมได้บอกวิธีการเล่น Minigame ตกปลาที่เข้าใจค่อนข้างยาก จากที่ผมลองเล่นตกปลาครั้งแรกแล้วไม่เข้าใจวิธีแกว่งเบ็ดไปทางซ้ายหรือขวา เลยตัดสินใจหาวิธีบน Youtube ดูเอาครับ

เมื่อทำเควสต์เบื้องต้นเสร็จแล้ว สิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ก็คือพัฒนาเมืองให้เจริญเติบโตขึ้น โดยการชวนเหล่าสัตว์ต่าง ๆ ให้ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง และจากนั้นพวกเขาจะมีเควสต์ต่าง ๆ ให้ผู้เล่นได้ช่วยเหลือ เมื่อทำสำเร็จพวกเขาจะมอบของรางวัลอย่าง เงิน, พิมพ์เขียวเฟอร์นิเจอร์, เสื้อผ้า หรือไอเทมเพื่อใช้สำรวจพื้นที่ใหม่ ๆ ตอบแทนนั่นเอง

เรื่องการสร้างที่อยู่อาศัย หลังจากที่เสร็จเควสต์เบื้องต้นและได้เชิญ Rosa มาเป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์มาเปิดออฟฟิศในเมืองแล้ว ผู้เล่นจะสามารถจ้าง Rosa ให้สร้างบ้านได้ในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนั้นแล้วออฟฟิศของเธอยังขายสีที่สามารถใช้ตกแต่งรอบนอกของตัวบ้านได้อีกด้วย

และในส่วนของที่พักอาศัยของเหล่าสัตว์ต่าง ๆ ผู้เล่นจะสามารถแต่งบ้านของพวกเขาได้ทุกส่วนและทันที หรือจะนำสิ่งของที่มีอยู่ในบ้านของพวกเขาไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองก็ยังได้ ซึ่งผมก็ค่อนข้างชอบในส่วนนี้เพราะสามารถแต่งทุกอย่างได้ตามใจชอบอย่างไม่จำกัด และมีความต่างจาก Animal Crossing เพราะการที่จะแต่งบ้านสัตว์ต่าง ๆ นั้น จะทำได้ด้วยการส่งของให้กับตัว และพวกเขาจะนำของไปวางในบ้านเอง

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของเกมนี้เลยก็คือโหมดสร้างเฟอนิเจอร์ ผู้เล่นจะสามารถสร้างเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างตามใจชอบ โดยในการสร้างนั้นจะมีบล็อกหลากหลายรูปแบบให้ได้ใช้ และทาสีให้กับตัวบล็อกแต่ละชิ้นได้เช่นกัน

ซึ่งจากที่เล่นมาถือได้ว่าเป็นโหมดเฟอร์นิเจอร์ที่ดีมาก เพราะผู้เล่นสามารถสร้างไอเทมในความคิดที่นอกกรอบได้ ไม่ว่าผู้เล่นจะสร้างชิ้นงานโบแดง หรือขีเกียจสร้างงานใหญ่เลยใส่ไปแค่กิ่งไม้ชิ้นเดียว ตราบใดที่บล็อกนั้นไม่เกินเส้นขนาดของพิมพ์เขียว ก็สามารถทำได้หมดครับ

เมื่อสร้างเสร็จ หากผู้เล่นมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว จะสามารถแชร์ผลงานขึ้นบน Creator Catalog ให้ผู้เล่นอื่นได้ดาวน์โหลดไปใช้กันได้ และตัวผู้เล่นเองก็สามารถดาวน์โหลดผลงานของผู้เล่นอื่น ๆ ได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้ว หากผลงานของเราเข้าตาทางทีมงาน จะถูกนำขึ้นไปโชว์บนแถบ Staff Pick บนหน้า Creator Catalog ในแต่ละอาทิตย์ด้วยครับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงส่วนต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบออนไลน์แล้ว ในเกมนี้จะด้อยกว่า Animal Crossing ตรงที่ไม่สามารถเล่นออนไลน์กับเพื่อนได้ครับ ใน Animal Crossing ผู้เล่นจะสามารถเดินทางไปเมืองของเพื่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ แต่ใน Hokko Life จะมีแค่ระบบแชร์ผลงานตนเอง ไม่มีระบบที่ผู้เล่นสามารถไปเมืองของเพื่อนแต่เนื่องจากตัวเกมยังอยู่ในช่วง Early Access อยู่ ไม่แน่ทางทีมงานอาจจะพัฒนาระบบออนไลน์เพิ่มเข้าเกมในภายหลังก็ได้ครับ

โดยรวมแล้ว ถึง Hokko life จะเป็นแนวเกมเดียวกับ Animal Crossing แต่ตัวเกมก็มีระบบและเกมเพลย์ที่โดดเด่นของตัวมันเอง ถึงจะขาดสิ่งที่ Animal Crossing มีในบางส่วน แต่ในเกมนี้ก็มีระบบที่ Animal Crossing ไม่มีเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญสุดคือเกมเพลย์ของเกมนี้สามารถดึงดูดให้ผู้เล่นใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับการแต่งบ้านหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายที่ผมแนะให้คุณได้ออกสำรวจด้วยตนเองครับ

Graphic / Presentation

ขอเริ่มด้วยการนำเสนอของเกมนี้ก่อน โดยรวมแล้ว Hokko Life มีธีมที่เหมือนกับ Animal Crossing พอสมควร เพราะมีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่คล้ายกับ Animal Crossing ไม่ว่าจะเป็นส่วนของธีมเนื้อเรื่องที่ตัวละครมนุษย์ถูกส่งเข้าไปอยู่ในเมืองที่บริหารด้วยสัตว์ หรือเกมเพลย์ที่มีการหาเงินจากการตกปลา, ปลูกผัก, จับแมลงไปขายเพื่อแลกกับเงิน

อย่างไรก็ตาม Hokko Life มีส่วนที่แตกต่างออกไป อย่างเช่นโมเดลของตัวละคร ใน Hokko Life ตัวละครจะมีโมเดลขนาด Full Size ต่างจาก Animal Crossing ที่เป็นขนาดจิ๋ว และระบบเกมเพลย์ต่าง ๆ ที่ทั้งสองมีไม่เหมือนกันครับ อย่างเช่น ระบบคราฟต์เฟอร์นิเจอร์แบบไร้ขอบเขต และระบบเที่ยวเมืองเพื่อนแบบออนไลน์

การออกแบบตัวละคร เกมนี้ก็มีสัตว์ที่น่ารักอยู่หลายแบบครับ แต่ก็มีบางตัวที่รูปร่างแปลกและค่อนข้างน่ากลัว ยกตัวอย่างเช่น เจ้าหมูนักบาสที่ชื่อว่า Pip ครับ ถูกต้องที่ว่าโมเดลตัวละครของเกมมีขนาด Full Size แต่ Pip ก็ไม่ใช่ตัวละครหมูตัวเดียวในเกม ยังมีหมูอีกตัวที่ชื่อว่า Rosa เป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ของเมือง ซึ่งโมเดลของ Rosa ออกมาได้ดูกลมเป็นลูกบอลน่ารักต่างจาก Pip ที่ตัวผอมรีดและมีแขนยาวทำให้รูปร่างออกมาดูแปลก

อีกประเด็นในเรื่องของการออกแบบตัวละคร ต้องบอกว่าค่อนข้างจะขาดความลึกหรือประวัติเรื่องราวที่ทำให้ผู้เล่นสนใจในตัวพวกเขาครับ ใช่ที่ว่าสัตว์แต่ละตัวในเกมมีรูปร่างลักษณะบ่งบอกถึงนิสัยและอาชีพได้ชัดเจน แต่ก็ยังขาดไส้ในที่จะทำให้ผู้เล่นสนใจและรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครเหล่านั้นอยู่ดีครับ

เรื่องสถานที่ต่าง ๆ ในเกม นอกจากตัวเมือง ป่าไม้ และทะเลที่ผู้เล่นสำรวจได้ในตอนแรกแล้ว ก็ยังมีสถานที่อื่น ๆ เพิ่มเติมอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกบนภูเขา ทะเลสาบ หรือถ้ำที่มึดมิดนั่นเอง โดยการที่ผู้เล่นจะสามารถไปในพื้นที่เหล่านั้นได้ ผู้เล่นจะต้องใช้ไอเทมที่ได้จากเควสต์ของเหล่าสัตว์ต่าง ๆ ที่ย้ายเข้ามาในเมืองครับ ซึ่งตัวผมเองก็สนใจในส่วนนี้มาก เพราะมองว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงความสนใจให้ผู้เล่นใช้เวลาเคลียร์เควสต์ต่าง ๆ ในเกมแลกกับการปลดล็อกพื้นที่ใหม่ให้ออกสำรวจ

มาที่เรื่องของงานภาพกราฟิกของเกมนี้ ถือว่าทำออกมาได้เหมาะกับแนวเกมที่สดใสทำให้มีลักษณะที่ดูแล้วเหมาะสำหรับผู้เล่นทุกวัย นอกจากนั้นแล้วก็ไม่กินสเปค PC มากด้วย แต่ก็มีบั๊กต่าง ๆ ในส่วนของกราฟิกที่ยังต้องแก้อยู่ เช่น หน้าตาของตัวละครค้าง, หลุมที่ขุดลอยอยู่บนอากาศ และแอนิเมชันที่ไม่ตรงจุดครับ

ในส่วนของเพลงต่าง ๆ ในเกมจะออกไปทางแนวผ่อนคลาย และเสียงเอฟเฟกต์ของเกมนี้ไม่มีจุดเด่นอะไรมากนัก ไหนจะเสียงตอนตัวละครพูดที่มีความคล้ายกับเสียงใน Animal Crossing อีก เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าในส่วนนี้จะมีจุดเด่นครับ

จากที่กล่าวมาทั้งหมด การนำเสนอของเกมนี้ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ ถึงตัวเกมจะดูเหมือนใช้องค์ประกอบหลายอย่างจาก Animal Crossing แต่ด้วยสไตล์โมเดลที่แตกต่าง, มีระบบที่ Animal Crossing ไม่มี พร้อมกับวางจำหน่ายบน PC ซึ่งเข้าถึงผู้เล่นได้มากกว่า ทำให้ตัวเกมมีความโดดเด่นเป็นของตัวมันเองครับ

อย่างไรก็ตาม ตัวเกมก็มีบางส่วนที่ยังต้องแก้ไขอย่างเช่นบั๊กต่าง ๆ และการนำเสนอของตัวละครที่ขาดเนื้อเรื่องไส้ใน ทำให้ผู้เล่นไม่ค่อยรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครนั้นเท่าไหร่ครับ

Verdict

Hokko Life ถ้าจะเรียกว่าเป็น Animal Crossing สำหรับ PC ก็ว่าได้ แต่อย่างที่ได้กล่าวไว้ ตัวเกมนี้มีระบบบางส่วนที่ Animal Crossing ไม่มี ซึ่งจากที่ผมเคยเล่นเกมทั้ง 2 นี้แล้ว ยืนยันได้ว่าผู้เล่นจะได้รับความสนุกเพลิดเพลินในเกมนี้เหมือนกัน ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมแนว Life Simulator แล้วล่ะก็

ด้วยราคา 420 บาทที่ไม่แพงมากนัก พร้อมกับวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม PC ที่เข้าถึงผู้เล่นได้มากกว่า Nintendo Switch ถือได้ว่าเป็นข้อดีของเกมนี้ระดับนึง อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ในเกมก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ซึ่ง Hokko Life ก็มีปริมาณคอนเทนต์ที่มากพอสมควร โดยเฉพาะโหมดคราฟต์เฟอร์นิเจอร์และแต่งบ้านก็ทำเอาผู้เล่นใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการคราฟต์ตกแต่งต่าง ๆ แล้วครับ

เนื่องจากตัวเกมยังอยู่ในช่วง Early Access แน่นอนว่าจะต้องมีบั๊กต่าง ๆ อย่างแน่นอน แต่ยังดีที่ว่าตั้งแต่ผมเล่นมายังไม่เจอกับบั๊กที่ทำให้เกมดับเลยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นบั๊กของงานภาพกราฟิกที่ไม่ส่งผลกับเกมเพลย์ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีบางส่วนที่คิดว่าทางทีมงานควรเพิ่มและควรเอาออกในขณะที่ยังอยู่ในช่วง Early Access อย่างเช่น การปรับปรุงโมเดลของตัวละคร, เพิ่มเรื่องราวไส้ในให้กับเหล่าตัวละคร, เอาหลอด Stamina ที่ไม่ได้มีความจำเป็นต่อการเคลื่อนไหวออก, ปรับคำแนะนำในเควสต์เบื้องต้นที่ชัดเจนกว่านี้ สุดท้ายก็คือโหมดออนไลน์ที่สามารถเล่นกับเพื่อนได้ครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น Hokko Life ถือได้ว่าเป็นเกมอินดี้ที่ผมแนะนำแก่ผู้เล่นที่ชอบแนว Life Simulation และผู้เล่นที่อยากเล่น Animal Crossing แต่ไม่มี Switch ครับ ด้วยปริมาณคอนเทนต์ที่ผู้เล่นจะได้ใช้เวลาไปกับการตกแต่งบ้านแต่งเมือง หรือออกสำรวจ, ตกปลา, จับแมลง และสะสมของต่าง ๆ ถึงจะมีบั๊กก็ตามแต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้ผู้เล่นรู้สึกรำคาญ โดยรวมแล้วถึงจะอยู่ช่วง Early Access แต่ด้วยจำนวนคอนเทนต์ต่าง ๆ และไม่มีบั๊กที่ทำให้เกมพัง ด้วยราคา 420 บาท ไม่ต้องรอลดราคาซื้อก็ยังถือว่าคุ้มครับ หากเป็นคนที่ชอบเล่นเกมแนวผ่อนคลายล่ะก็ บอกได้เลยว่าเหมาะกับคุณอย่างแน่นอน และเหมาะแก่การเล่นฆ่าเวลาในช่วง COVID-19 อีกด้วย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส