นี่คือ iQOO 11 5G สมาร์ตโฟน (เกมมิง) สเปกเรือธง ตัวแรงที่มาพร้อมชิปเซ็ตตัวท็อปรุ่นล่าสุด Snapdragon 8 Gen 2 ก่อนใครในประเทศไทย แต่ที่น่าสนใจคือ มันถ่ายรูปดีไม่แพ้ใครเลย แถมนี่ยังเป็นครั้งแรก ที่แบรนด์ iQOO แบรนด์ในเครือของ vivo เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอีกด้วย แบบนี้ต้องมาแบไต๋กันซะหน่อยหลังใช้งานในชีวิตจริง 1 เดือน
ดีไซน์
ฝาหลังของ iQOO 11 5G เครื่องนี้ ใช้วัสดุเป็นหนังซิลิโคน (Silicone Leather) สีขาว ‘Legend White’ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนสัมผัสหนังจริง ๆ และมีลายคาดตรงกลางเป็นสีแดง ดำ และน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก BMW M Motorsport ที่เป็นพาร์ตเนอร์หลักของ iQOO ในการทำสมาร์ตโฟนเรือธงแบบนี้มาตั้งแต่ iQOO 5 Pro เมื่อปี 2020 นี้เอง ความพิเศษของลายคาดทั้งสามสีนี้คือวิธีการทำลายแบบคลู เดอ พารี (Clou de Paris) ซึ่งทำให้เกิดเป็นลายปุ่มบนฝาหลัง เทคนิคเดียวกับบนนาฬิกาข้อมือเลยนะ ฟีลลิ่งการสัมผัสฝาหลังถือว่าพรีเมียม ดูแพงเลยล่ะ
ด้านข้างของตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียมที่ผสมทั้งความขอบตัด และความโค้งของฝาหลังเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้จับถือได้มั่นคงดีเลย รอบ ๆ ตัวเครื่องเขาก็จะมีเส้นเพื่อให้สัญญาณผ่านด้วย
สำรวจพอร์ตรอบเครื่องกันหน่อย ด้านบนจะมี IR Blaster ไว้ใช้แทนรีโมตทีวี หรือแอร์ได้ กับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านขวา มีปุ่มเปิดปิด และเพิ่มลดเสียง
ส่วนด้านล่าง จะมีช่องใส่ซิมที่สามารถใส่ได้ 2 ซิม และไม่มีช่องเสียบ SD Card, ถัดมาจะเป็นไมโครโฟนหลัก, พอร์ต USB-C 2.0, และลำโพง รุ่นนี้ให้เป็นลำโพงคู่หน้า แต่อีกตัวจะอยู่ด้านบน ตรงที่เราใช้คุยโทรศัพท์นั่นเอง ส่วนด้านซ้ายก็ไม่มีอะไรโล่ง ๆ เลย ซึ่งก็ถือว่าให้มาครบกับการใช้งานนะ
สเปก
อย่างที่จั่วหัวไว้ตอนต้นเลยว่า iQOO 11 5G เครื่องนี้ ได้ใช้ CPU เป็น Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 เป็นรุ่นแรกในประเทศไทย ที่อัปเกรดความแรง และปรับปรุงเรื่องความร้อนให้ดีขึ้น หลังจากที่ Gen 1 ก่อนหน้าโดนบ่นว่าร้อนเกิน จากที่กองบรรณาธิการแบไต๋ลองถือใช้ 1 เดือน ก็พบว่าจริงไม่ค่อยร้อน และแบตหมดช้าลง เพราะมีการใส่ชิปเซต vivo V2 ไว้ช่วย ประมวลผลการถ่ายภาพและการเล่นเกม ส่วนสเปกอื่น ๆ ก็จะมีแรมแบบ LPDDR5X ที่เร็วแรง ขนาด 16GB พร้อม Extended Ram ที่เอาหน่วยความจำมาเป็นแรมอีก 8GB และหน่วยความจำแบบ UFS 4.0 ขนาด 256GB
ผลการทดสอบจาก Geekbench 5 ได้คะแนน Single Core ที่ 1,451 คะแนน และ Multi Core สูงถึง 4,792 คะแนน ซึ่งเมื่อเทียบกับใน vivo X80 Pro ที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งมีคะแนน Multi Core อยู่ที่ 3,344 ก็ถือได้ว่ามีคะแนนสูงขึ้นกว่า Gen ก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลย
ในขณะที่การทดสอบกราฟิกบน 3D Mark ชุด Wild Life Stress Test ที่เป็นการทดสอบต่อเนื่องเป็นเวลา 20 นาที ก็ทำคะแนนสูงสุดเกินหมื่นคะแนน อยู่ที่ 11,654 คะแนน และต่ำสุดที่ 11,412 คะแนน แถมความนิ่งยังสูงถึง 97.9% ถ้าเทียบกับบน Snapdragon 8 Gen 1 คะแนนสูงสุดจะอยู่ที่ 9,596 คะแนน แถมนิ่งแค่ 74% กว่าเองด้วย ขยับขึ้นมาสูงจริง ๆ
แต่แค่ผลคะแนนคงจะไม่พอหรอก เราขอทดสอบบนเกมยอดนิยมอย่าง Genshin Impact ดูบ้าง ที่แม้เราจะตั้งค่าสูงสุด ที่ 60 FPS แถมยังขยับไปเล่นเมืองใหม่ที่รายละเอียดเยอะ ก็ไม่แสดงอาการกระตุกให้เห็น แถมแม้จะเล่นนาน ๆ เครื่องก็ไม่ร้อน เฟรมเรตก็ไม่ตกด้วย เล่นได้สบาย ๆ เลย
ส่วนอีกเกมที่ใช้ทรัพยากรไม่แพ้กันอย่าง Tower of Fantasy นั้น เราได้ตั้งค่าสูงสุดที่ Extreme และปรับเฟรมเรตเป็น 90 FPS แล้วก็พบว่าสามารถเล่นได้เลย แม้จะมีเฟรมดรอปจนไปไม่ถึง 90 บ้าง แต่ส่วนมากจะคงที่ 90 เฟรมได้
ซึ่งในระหว่างการเล่นเกม ก็มี Ultra Game Mode ที่ช่วยให้การเล่นเกมเฟรมเรทนิ่งกว่าเดิม รวมถึงมี Monster Mode เร่งประสิทธิภาพตัวเครื่อง และ Game Frame Interpolation จากชิป vivo V2 ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตให้สูงขึ้น
หน้าจอ
ด้วยสเปกตัวเครื่องที่เร็วแรงแบบนี้ ส่วนหน้าจอก็ต้องมาแรงไม่แพ้กันแน่นอน เพราะ iQOO 11 5G ให้หน้าจอระดับไฮเอนด์ E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 3,200 x 1,440 หรือ 2K พร้อมรีเฟรชเรตถึง 144Hz จอนุ่ม ๆ ลื่น ๆ รวมถึงมีเทคโนโลยี LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ที่ลด Refresh Rate เพื่อประหยัดพลังงาน แต่ที่ถือว่าเป็นสิ่งดีงามเลยก็คือหน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ ‘จอแบน’ แปลว่าหาฟิล์มติดได้กันง่าย ๆ แถมให้ความรู้สึกว่าภาพไม่มีขอบเยอะเกินไป แม้จอจะไม่โค้ง
การดูวิดีโอบน YouTube สามารถเล่นได้ความละเอียดสูงสุดที่ 4K HDR เลย ส่วน Netflix สามารถเล่นได้ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD แบบมี HDR ได้ด้วย ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือดูหนัง ก็สบายหายห่วงจริง ๆ
กล้อง
ถ้าคุณผู้ชมดูมาจนถึงตอนนี้ จะเริ่มสังเกตได้ว่า นี่มันมือถือเล่นเกมชัด ๆ ปกติแล้วหลายคนก็จะคิดว่า “โห มือถือเล่นเกมก็ต้องถ่ายรูปได้ไม่ดีน่ะสิ” แต่หลังจากที่เราได้ถือใช้ iQOO 11 5G มานานกว่า 1 เดือนก็พบว่า “เอ้อ มือถือเน้นสเปกก็ถ่ายรูปดีได้นี่นา” และในรุ่นนี้ก็ได้ให้ชุดเลนส์กล้องที่ใครหลาย ๆ คนต้องชอบแน่ ด้วยเลนส์ถ่ายภาพหลัก Samsung ISOCELL GN5 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.88 พร้อมกันสั่นแบบ OIS ด้านบนนี้,เลนส์ซูม Telephoto 2 เท่า ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.45 ด้านล่างนี้ และเลนส์มุมกว้างมากความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ด้านล่างขวานี้
- โดยการถ่ายภาพทั่วไปถือว่าทำได้ดีเกินผิดคาดเลย ภาพถ่ายมีกลิ่นอายของ vivo มีการปรับแต่งสีเพื่อให้ภาพมีความสดใสขึ้น แต่ไม่ได้สดมากจนรู้สึกว่าเว่อเกินไป นอกจากนี้ยังมีโหมด ‘Natural Color’ มาให้ ทำให้ภาพที่เราถ่ายออกมา ได้สีตรงกับที่ตาเราเห็นมาก ๆ เลย ลองดูภาพเทียบกันระหว่างเปิด และไม่เปิดโหมด Natural Color ได้เลย ถ้าเอาไว้ถ่ายรูปทั่วไป ถือว่าดีเลยทีเดียว ชอบไม่ชอบ ยังไงลองบอกเราในคอมเมนต์ได้เลย
- การถ่ายภาพมุมกว้าง สามารถถ่ายได้กว้างสุดที่ 0.6 เท่า ภาพถ่ายมุมกว้างแม้สีจะไม่สดเท่าแบบ 1 เท่าปกติ แต่สีก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเลย ส่วนการถ่ายภาพซูม สามารถซูมได้สูงสุดถึง 20 เท่า แต่ระยะที่หวังผลได้จะได้อยู่ที่ประมาณ 5 เท่า
- การถ่ายภาพกลางคืนสามารถถ่ายทั้งผ่าน AI ตรวจจับภาพกลางคืนในกล้องหลัก และถ่ายผ่านโหมดกลางคืน โดยการถ่ายผ่าน AI เขาจะคำนวณให้เลยว่า ต้องถ่ายนานแค่ไหน ซึ่งจะไม่เกิน 2 วิ กลับกันภาพที่ได้จากโหมดกลางคืนโดยตรงจะใช้เวลาถ่ายนานกว่าในสภาพแสงเดียวกัน แลกกับคุณภาพของภาพที่ดีกว่าด้วย
- ส่วนการถ่ายภาพบุคคล ขอยกหน้าที่ให้นาวลิ้ม ญาตาวี เลย โดยสามารถถ่ายแบบละลายฉากหลังได้ตั้งแต่ f/16 จนละลายมากถึง f/0.95 เลย โดยสามารถถ่ายได้ทั้งแบบซูม 1 เท่า และ 2 เท่า แถมการตัดขอบเส้นผมก็ทำได้ดีด้วย ในขณะเดียวกัน เรายังสามารถเปิดฟิลเตอร์ Portrait Style ไปพร้อมกัน ให้การถ่ายภาพบุคคลสนุกกว่าเดิมได้ด้วยนะ
- การถ่ายวิดีโอ สามารถถ่ายได้สูงสุดถึง 8K 30FPS แต่จะไม่มีกันสั่นอะไรเลยนะ
พูดถึงชิป vivo V2 ที่อยู่ใน iQOO 11 5G นี้ไปแล้วว่าช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น แต่มันไม่ได้ทำได้แค่นั้น เพราะชิป vivo V2 ช่วยให้การถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยออกมาสว่างแบบตอนกลางวันเลย แค่อยู่ในที่มืด iQOO 11 5G ก็จะเรียกใช้ชิป V2 มาเพิ่มความสว่างแบบอัตโนมัติ ภาพที่ได้ก็ออกมาสว่างเลย แต่จะได้ที่ความละเอียด 4K30 FPS เท่านั้นนะ
การถ่ายวิดีโอแบบกันสั่นพิเศษ อันนี้ก็ทำได้นะ แต่จะได้ที่ความละเอียด 1080P 60FPS เท่านั้น ในขณะที่การถ่ายวิดีโอหน้าชัด หลังเบลอก็ทำได้เหมือนกัน แต่จะได้ที่ความละเอียด 1080P 30 FPS เท่านั้น
กล้องหน้าของ iQOO 11 5G ใช้เซนเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.45 เป็นกล้องหน้าแบบเจาะรูตรงกลางบนของหน้าจอนี้ ถือว่ามีขนาดเล็กใช้ได้ ถือเล่นเกมแล้วไม่เกะกะแน่นอน
ภาพที่ถ่ายได้ก็ดีไม่แพ้กล้องหลังเลยนะ ถ่ายแบบหน้าชัด หลังเบลอโดยตั้งค่าการเบลอฉากหลังได้ตั้งแต่ f/16 – f./0.95 เหมือนกันเลย และยังตัดฉากหลังได้เนียนด้วย แถมยังมีฟิลเตอร์ ‘สไตล์’ ของภาพให้ถ่ายได้สนุกไม่แพ้กล้องหน้าด้วย
ส่วนการถ่ายวิดีโอกล้องหน้า สามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 1080P 30FPS เท่านั้น (น่าจะซัก 60 นะ จะสวยเลย) รวมถึงสามารถเปิดโหมดแต่งหน้าในวิดีโอ, ถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือเพิ่มฟิลเตอร์วิดีโอก็ได้เช่นกัน โดยที่ความละเอียดไม่ลด แต่จะเลือกถ่ายพร้อมการปรับแต่งได้แค่ทีละ 1 อย่างนะ เปิดพร้อมกันไม่ได้
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ iQOO 11 5G ถือว่าให้มาขนาดใหญ่พอสมควรเลย ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5,000 มิลลิแอมป์ แม้ขนาดจะไม่ได้มากอะไรถ้าเรามองเป็นสมาร์ตโฟนเน้นสเปกหรือเล่นเกม แต่ในรุ่นนี้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วยสายและหัวชาร์จ FlashCharge ที่เร็วถึง 120W ถามว่า 120W นี้เร็วขนาดไหน กองบก. ของแบไต๋ได้ลองจับเวลาชาร์จจาก 1 – 80% ดู ใช้เวลาไปแค่ 15 นาที 31 วินาทีเท่านั้นเอง
และจากการนำไปใช้จริงมากว่า 1 เดือน ก็พบว่าแบตเตอรี่ลดค่อนข้างช้าเลย ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ถ่ายภาพ เล่นเกม ถือว่าทำได้ประทับใจ ถ้าใช้งานแบบทั่วไปใช้ยังไงแบตก็ไม่เคยหมดในวันเดียวเลย แม้จะถือไปเที่ยวก็ตาม อย่างมีอยู่วันนึงที่กอง บก. ใช้ตั้งแต่ 11 โมง ยัน 5 ทุ่มแบบไม่เล่นเกม เล่นแต่โซเชียล ถ่ายภาพ และเล่นเกมนิดหน่อย แบตเตอรี่ก็ยังเหลือ ๆ
iQOO 11 5G มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ FuntouchOS เวอร์ชัน 13 ที่มีพื้นฐานบน Android 13 เวอร์ชันล่าสุด มาแบบแกะกล่อง ที่การใช้งานลื่นไหล ไม่มีสะดุดเวลาเข้า หรือออกแอปต่าง ๆ เลย และด้วยซอฟต์แวร์ที่ใช้เป็นตัวเดียวกับบน vivo และตอนที่เราทดลองใช้จริงอยู่ก็มีแจ้งเตือนให้อัปดตมาเรื่อย ๆ เลย แปลว่าใน iQOO ก็จะไม่แถมแพแน่นอน
ข้อสังเกต
เรื่องแรกที่เราพบจากการถือใช้งานจริงมาก็คือเรื่องของฝาหลังตัวเครื่อง ที่แม้จะทำเป็นลายหนังสวยงามมาก แต่ฝาหลังแบบนี้ดูดฝุ่นเก่งมาก ไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่นนะ แต่หมายถึงว่ามันมีฝุ่นมาติดได้ง่าย แม้เราจะใส่เคสใช้ก็ตาม ซึ่งอาจจะทำให้การทำความสะอาดทำได้ยากเล็กน้อย อีกเรื่องคือเรื่องของการแจ้งเตือนในตัวเครื่อง ที่อาจจะยังมาช้ากว่าบนรุ่นอื่นอยู่บ้าง แต่คาดว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์ในอนาคตจะช่วยแก้ไขจุดนี้ออกไปได้
รีวิวที่ดีต้องมีราคา
iQOO 11 5G สมาร์ตโฟนเรือธงน้องใหม่จากค่ายเหลือง iQOO วางจำหน่ายในประเทศไทยในราคาอยู่ที่ 27,990 บาท สามารถหาซื้อได้ทั้งหน้าร้าน และช่องทางออนไลน์ของ vivo รวมถึงร้านค้า Official Store ออนไลน์ของ iQOO เองด้วย ซึ่งจากที่กองบก เราสำรวจราคามา เขาชอบจัดลดราคาอยู่ซะด้วยสิ
และสำหรับใครที่อาจจะกังวลว่า สมาร์ตโฟนแบรนด์ใหม่แบบนี้จะเคลมประกันยากไหม บอกเลยว่าง่ายแน่นอน เพราะสมาร์ตโฟน iQOO 11 5G ทุกเครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศไทย สามารถใช้บริการศูนย์บริการของ vivo ได้เลย จะส่งซ่อม หรือเคลมประกัน ก็สามารถถแวะไปที่ศูนย์ vivo ได้เลย สมาร์ตโฟนสเปกเรือธงที่ราคาสุดคุ้มแบบนี้ อย่ารอช้าอยู่ใย ตามไปจัดกันได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส