Our score
8.3Huawei GR5 2017
จุดเด่น
- กล้องถ่ายกลางวันได้ดี การที่มีกล้องสองช่วยให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ดีขึ้นจริง
- หน้าจอสดใส มีขนาดใหญ่ ให้สีสันสมจริงในทุกมุมมอง
- แบตเตอรี่ทนทาน อยู่ได้นานเกินวันสบายมาก
- เซนเซอร์อ่านลายนิ้วมือทำงานได้ดีอย่างเคย ปลดล็อกจอรวดเร็วแม้จะปิดจออยู่
- ราคาเทียบกับคุณภาพงานประกอบ กล้อง ประสิทธิภาพเครื่อง ถือว่าคุ้มค่า
จุดสังเกต
- ยังคงใช้ MicroUSB
- กล้องหน้าคุณภาพกลางๆ ไม่เด่น
- ซิม 2 ไม่รองรับ 3G และต้องเลือกว่าจะใส่ซิม 2 หรือใส่ MicroSD Card
- ไม่รองรับ Wifi 5GHz
- การสลับแอปเร็วๆ ยังมีหน่วงบ้าง
-
คุณภาพตัวเครื่อง งานประกอบ
8.5
-
คุณภาพกล้อง
7.5
-
คุณภาพหน้าจอ
8.0
-
คุณภาพเสียง
8.0
-
ความคุ้มค่า
9.5
ช่วงปีที่ผ่านมาต้องถือว่าหัวเว่ยออกสมาร์ทโฟนได้ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้นะครับ ซึ่งรีวิวสมาร์ทโฟนครั้งนี้จากเว็บแบไต๋ เราก็ขอจับ Huawei GR5 2017 สมาร์ทโฟนระดับกลางที่วางราคาไว้ 8,990 บาทมารีวิวให้ดูกัน ซึ่งถือว่าใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้เอาอยู่เลย แถมยังเด่นที่กล้องคู่ด้านหลังที่สามารถถ่ายภาพหน้าชัด หลังเบลอได้อย่างสวยงามครับ
Huawei GR5 2017 นั้นมีหลายชื่อเรียกนะครับ แล้วแต่การทำตลาดในแต่ละประเทศ ซึ่งถ้าได้ยินชื่อ Huawei Mate 9 Lite หรือ Huawei Honor 6X ทั้งหมดนี้คือรุ่นเดียวกันหมดครับ ไม่ต้องสงสัยไป ซึ่งสเปกของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เป็นดังนี้ครับ
สเปก Huawei GR5 2017
- CPU: Kirin 655, Octa-Core (4×2.1GHz+4×1.7GHz)
- RAM: 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB (รองรับ microSD สูงสุด 256 GB)
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 pixel
- กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2 และกล้องรองความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับสร้างภาพหน้าชัดหลังเบลอ
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล f/2
- ถ่ายวิดีโอได้ 1080p
- รองรับ 2 ซิม ซิมแรกรองรับได้ถึง 4G ส่วนซิมสองรองรับ 2G
- Android 6.0 ครอบทับด้วย EMUI 4.1
- แบตเตอรี่ 3340 mAh
กล้องดีเกินคาด โหมดหน้าชัดหลังเบลอทำได้ดี
ด้วยความที่ Huawei GR5 2017 นั้นมีกล้องหลัง 2 ตัว เราจึงอยากพูดถึงเรื่องกล้องเป็นเรื่องแรกครับ ซึ่งถือว่ากล้องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถถ่ายทอดภาพได้สวยคม สีสันเป็นธรรมชาติ จัดว่าดีเทียบชั้นกลุ่มเรือธงได้เลย มีโหมดถ่ายภาพมาให้ครบ ทั้งโหมดถ่ายรูปและวิดีโอแบบโปร ที่สามารถปรับ ISO, ความเร็วซัตเตอร์, White balance หรือรูปแบบการโฟกัสอัตโนมัติได้ นอกจากนี้ยังมีโหมดอื่นๆ ที่จำเป็น เช่นการถ่ายพาโนรามา, โหมดวาดภาพด้วยแสง หรือโหมด Slow Motion ในส่วนของการถ่ายวิดีโอก็ถ่ายได้ 1080p ตามสมัยนิยมครับ
ถ้าจะมีจุดที่ด้อยกว่ากลุ่มเรือธงอย่าง P9 หรือ Mate 9 ที่มีแบรนด์ Leica แปะอยู่ ก็คือไม่สามารถถ่ายเป็นไฟล์ RAW ได้ ไม่มีโหมดสีสันสดใส และสีขาว-ดำอย่างเทพของ Leica และกล้องหน้าไม่เก่งเท่า เอาแหละ อย่ามัวแต่เล่า มาดูรูปตัวอย่างกันโลด
รูปตัวอย่างตอนกลางวัน
รูปถ่ายตอนกลางวันนั้นออกมาดีมากครับ ให้สีสันสดใส แต่ไม่สดเกินจริง การปรับสมดุลแสงขาวอัตโนมัติทำได้ดี สีสันภาพออกมาใกล้เคียงกับที่ตาเห็น รายละเอียดในแต่ละภาพถือว่าชัดเจนดีเลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายหน้าชัด หลังเบลอ
ที่นี้มาดูโหมดหน้าชัดหลังเบลอกันบ้างครับ จุดเด่นของกล้อง 2 เลนส์ตัวนี้เลย สวยงามทั้งถ่ายคน และถ่ายของ แนะนำว่าปรับความเบลอไว้กลางๆ ไม่ต้องเร่งจนสุดมาก จะให้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าครับ
ถ่ายภาพในที่แสงน้อย
ในพื้นที่แสงน้อย Huawei GR5 2017 อาจจะทำได้ไม่เนี๊ยบเท่าสมาร์ทโฟนเรือธงนะครับ คือสีจะค่อนข้างซีด แล้วก็มี Noise ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่
ภาพถ่ายกล้องหน้า
กล้องหน้าของ GR5 2017 นั้นก็มีโหมดทำหน้าสวยตามสมัยนิยมนะครับ แล้วก็มีโหมดแต่งหน้าเพิ่มเติมให้ด้วย ซึ่งกล้องหน้าของ GR5 2017 นั้นก็มีคุณภาพดีพอควร แต่ไม่ได้สวย เนียน เฉียบอย่างที่สมาร์ทโฟนเน้นกล้องหน้าทำได้ มีสีเพี้ยนบ้างเวลาเจอแสงยากๆ อย่างการถ่ายในร่มครับ
ถ่ายภาพในโหมดพิเศษ
GR5 2017 นั้นใช้ซอฟต์แวร์การถ่ายภาพของหัวเว่ยที่มีความสามารถ Light Painting อย่างเทพมาตั้งแต่ P8 นะครับ ทำให้มีโหมดการถ่ายดาวเป็นเส้น ถ่ายน้ำตกอย่างนุ่มนวล ผลที่ได้ก็อย่างภาพนี้ครับ
การออกแบบตัวเครื่อง
Huawei GR5 2017 นั้นออกแบบใกล้เคียงกับ Mate 9 ครับ คือด้านหลังมีกล้อง 2 ตัววางในแนวตั้ง พร้อมไฟแฟลชเดี่ยวด้านหลัง ด้านล่างกล้องเป็นตัวสแกนลายนิ้วมือที่ทำงานได้รวดเร็ว แตะแล้วปลดล็อกเครื่องทันที แม้ไม่ได้เปิดจอ ฝาหลังมีลักษณะโค้งนิดๆ รับกับฝ่ามือ ทำให้ถึงจอจะใหญ่ 5.5 นิ้ว ก็ยังจับเครื่องได้มั่นคงดีอยู่ นิ้วไปเกี่ยวกับส่วนโค้งหลังเครื่องได้พอดี ซึ่งเมื่อรวมกับโครงสร้างเครื่องที่เป็นโลหะ ก็ให้ความรู้สึกในการจับถือดีกว่าสมาร์ทโฟนในระดับราคานี้ทั่วไป
ส่วนด้านหน้านั้นโล่งสนิทครับ ไม่มีปุ่มโฮม ปุ่มย้อนกลับหรือปุ่มใดๆ ทั้งสิ้น เน้นกดปุ่มจากหน้าจอกันอย่างเดียว
ประสิทธิภาพ ความเร็วในการตอบสนอง
เริ่มต้นจากคะแนนกันก่อนครับ Huawei GR5 2017 ที่ใช้ชิป Kirin 655 จะแรงแค่ไหนกัน
Geekbench 4
- Single-core ได้ 789 คะแนน
- Multi-core ได้ 3323 คะแนน
- โหมด Compute ที่วัดประสิทธิภาพ GPU ได้ 1817 คะแนน
ซึ่งก็ถือว่าเป็นคะแนนในระดับกลางๆ ครับ ถ้าเทียบกับเรือธงอย่าง Huawei Mate 9 ที่ได้ Multi-core 5290 คะแนนและคะแนน Compute 3257 คะแนน ก็ถือว่าต่างกันเยอะอยู่ แต่ก็ยังใช้งานในชีวิตประจำวันได้ลื่นๆ ครับ
การทดสอบอื่นๆ
เมื่อวัดประสิทธิภาพด้วย Antutu 6.2 ได้ไป 56,788 คะแนนครับ ส่วน 3D mark ในการทดสอบ Sling Shot Extreme ได้ไป 376 คะแนน (เทียบให้เห็นภาพ คะแนน iPhone 7 ได้ไป 2270) ถ้าเทียบกับมือถือราคาประมาณ 9,000 ที่ขายอยู่ในตลาดตอนนี้ก็ถือว่าได้คะแนนสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ที่เป็นที่นิยมกันนะครับ
ซึ่งความเร็วในการตอบสนองจริงๆ ก็ถือว่าทำได้ดี ใช้งานทั่วไป facebook, LINE, Youtube ท่องเว็บลื่นทุกอย่าง เล่นเกมกราฟิกเยอะๆ อย่าง Sky Force Reloaded ก็ลื่นดี ถ้าจะมีหน่วงๆ บ้างก็ตอนสลับแอปเร็วๆ เท่านั้นเอง
GPS ของ Huawei GR5 2016 ก็ทำงานได้ดี ทดสอบจริงด้วยการใช้นำทางขับรถเที่ยวก็ตอบสนองได้ดี แม้ขับรถอยู่ใต้ทางด่วนก็ยังนำทางต่อเนื่องได้
แบตเตอรี่ดีงาม
จุดเด่นอย่างหนึ่งของสมาร์ทโฟนจากค่ายหัวเว่ยตั้งแต่ Mate 8 เป็นต้นมาคือแบตเตอรี่ทนมากครับ เพราะมีการปรับแต่งซอฟต์แวร์ในเครื่องให้จัดการกับแอปที่ทำงานค้างอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการหยุดแอปที่ไม่จำเป็นไว้ก่อน ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานครับ (ซึ่งถ้ามีแอปไหนไม่แจ้งเตือนเวลาดับจอไป ก็ต้องไปปรับ Power Firewall ให้ปล่อยให้แอปที่ต้องการยังทำงานต่อไป)
สำหรับ Huawei GR5 2017 ที่มีแบตเตอรี่ 3,340 mAh นั้นก็สามารถใช้งานได้ยาวนานมากครับ ชนิดที่ว่าใช้งานปกติไปหนึ่งวันเต็มๆ ก็ยังเหลือแบตอยู่อีกครึ่งหนึ่ง ทำให้มั่นใจได้ว่าแม้เราจะใช้งานหนักมากในระหว่างวัน GR5 2017 ก็ยังเอาตัวรอดมาจนหมดวันได้ แต่ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆ ก็สามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงที่ใช้งานได้แค่การโทรกับข้อความครับ เพื่อให้โทรศัพท์ยังทำงานได้จนกว่าจะหาที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้
แต่ในส่วนการของชาร์จแบตเตอรี่ Huawei GR5 2017 ไม่ได้มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วอะไรครับ หัวชาร์จก็เป็นแบบ 5V 2A ธรรมดา ก็ต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการชาร์จแบตจากเครื่องดับจน 100% นะครับ
การทำงานแบบ 2 ซิม
Huawei GR5 2017 สามารถใส่ซิมได้ 2 ซิมนะครับ เป็น Nano-Sim ทั้งคู่ โดยถ้าใส่ซิมสอง ก็จะใส่ MicroSD ไม่ได้ตามระเบียบ และซิมที่ 2 นี้ก็จะเน้นเพื่อการโทรเป็นหลักครับ เพราะรองรับแค่ 2G เท่านั้น ซึ่งถามทีมงานของหัวเว่ยมาบอกว่าตัวชิปเซ็ต Kirin นั้นยังไม่รองรับการใช้งานซิม 2 แบบ 3G ครับ ซึ่งจะมี Kirin 960 ตัวล่าสุดที่เริ่มรองรับซิม 2 แบบ 3G แล้ว
คุณภาพเสียง
ลำโพงสำหรับฟังเสียงต่างๆ ของ GR5 2017 นั้นมีอยู่ลำโพงเดียวตรงช่องด้านล่างขวาของเครื่องนะครับ ก็ให้เสียงที่ดังสดใสดี (ไม่ต้องถามว่ามีเบสรึเปล่านะ มือถือมันไม่มีอยู่แล้ว) ในส่วนของการฟังเพลงด้วยการเสียบหูฟัง จะทำให้เครื่องเปิดโหมดเสียงพิเศษ SWS ขึ้นมาเพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงจากหูฟังให้สดใส กังวาลขึ้นครับ ซึ่งทดลองแล้วก็ให้เสียงได้ดีกว่าการปิดอยู่จริงๆ (เข้าไปปิดได้ใน Settings ของเครื่องนะ) ก็ถือว่าให้เสียงได้น่าพอใจครับ
สรุป Huawei GR5 2017 สมาร์ทโฟนที่น่ากลัวในระดับราคานี้
Huawei GR5 2017 ถือว่าสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาในสมาร์ทโฟนกลุ่มราคา 9,000 บาทนะครับ ด้วยกล้องคู่ คุณภาพดี บอดี้โลหะ จอใหญ่ เซนเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่อ่านได้รวดเร็ว ประสิทธิภาพเครื่องที่ดีพอสมควร เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่แพง สำหรับใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นคุณสมบัติเฉพาะอย่าง กล้องหน้าสวยเวอร์ GR5 2017 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ