Our score
8.0Honor 7C
จุดเด่น
- ดีไซน์ไม่ได้แปลกใหม่ แต่ผิวสัมผัสเป็นโลหะดูดี และไม่เป็นรอยนิ้วมือ
- เล่นเกมทั่วไปอย่าง ROV ได้ไหลลื่น
- ในถาดใส่ซิมเป็นแบบ 3 Slot ใส่ SD Card ได้โดยไม่ต้องแย่งพื้นที่ใส่ซิม
- Screen Split ใช้งาน 2 จอได้สะดวก
- รับสาย ตอบข้อความได้โดยไม่ต้องออกจากเกม
จุดสังเกต
- หน้าจอความละเอียดระดับ HD ไม่ถึง Full HD
- การปลดล็อกหน้าจอเชื่อถือไม่ค่อยได้ และซ้ำซ้อนกับการใช้นิ้วสแกนปลดล็อก
- ยังใช้ MicroUSB ไม่ใช่ USB-C
- ไม่รองรับ Wifi 5 GHz
- กล้องโฟกัสช้า ถ่ายวิดีโอชอบหลุดโฟกัส
-
รูปลักษณ์ภายนอก
9.0
-
คุณภาพหน้าจอ
7.5
-
ประสิทธิภาพเครื่อง
8.0
-
คุณภาพกล้อง
7.5
-
ความคุ้มค่า
8.0
HONOR 7C ชูฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า และมาพร้อม Android 8.0 Oreo ซึ่งจะถูกครอบด้วย EMUI 8.0 และ CPU Octa-Core 1.8GHz Snapdragon 450
Honor 7C ชูโรงการปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้า (Face Unlock) เป็นเอกลักษณ์ระดับเรือธง ซึ่งสแกนได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้เป็นแบบ Depth Sensor อีกอย่างที่มีมาให้คือการสแกนนิ้ว ซึ่งปลดล็อกไวมากเช่นกัน แต่จากการใช้งาน นิ้วไปสแกนปลดล็อกก่อนจะมองจออีก เลยไม่มีความจำเป็นต้องสแกนใบหน้าเลย ก็มีไว้ 2 อย่างให้เลือกไม่เสียหาย แต่เราก็ยังชอบสแกนนิ้วมากกว่านะ เพราะปลดล็อกด้วยใบหน้าจะปลอดภัยน้อยกว่า
กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล และ 2 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยระบบโบเก้ (Bokeh) ให้ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมไฟแฟลช LED ที่เรียงเป็นแนวนอน
- ความละเอียดภาพถ่าย: 4160 x 3120
- ความละเอียดภาพวิดีโอ: 1920 x 1080 30fps
กล้องหน้า: 8 ล้านพิกเซล
- ความละเอียดภาพถ่าย: 3264 x 2448
- ความละเอียดภาพวิดีโอ: 1920 x 1080 30fps
แม้กล้องของ Honor จะไม่ได้ให้มาหวือหวาเหมือนกล้องคู่ของรุ่นพี่ยี่ห้ออื่น ๆ แต่เทียบกับราคาแล้ว ถือว่าให้มาเยอะพอสมควร โฟกัสเร็ว ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ มีโหมดให้เลือกปรับหลากหลาย เช่น HDR พาโนรามา ใส่ลายน้ำ หรือ Mode Bokeh Focus After
Honor 7C มาพร้อม Snapdragon 450 และ RAM 3GB เล่นเกมหนัก ๆ อย่าง PUBG ปรับสเปคต่ำ ๆ พอเล่นได้ ส่วน ROV, Yulgang หรือเกมอื่น ๆ ที่ไม่กินสเปคโหดมากก็เล่นได้ลื่นสบาย
จอกว้างใช้งานแบบเต็มตากับ FullView Display ขนาด 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 ด้วยความละเอียด 1440 x 720 พิกเซล ถือว่าไม่มีปัญหาในการดูหนัง เล่นเกม โดยมีฟังก์ชั่น Screen Split สำหรับคอหนัง คอเกม ให้ใช้งานได้แบบแบ่งหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น Youtube, iflix, Netflix และสามารถแชทไปด้วย เล่นโซเชียลไปด้วยได้
การวัดผลด้วย Benchmark และ Antutu
ที่ชาร์จเป็น Huawei (เนื่องจากเป็นแบนด์ลูกของ Huawei)
น้ำหนักเบาใช้งาน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือคุยโทรศัพท์นาน ๆ ได้สบายด้วยน้ำหนักแค่ 164 กรัม
ด้านบนวางกล้องหน้า และลำโพงสนทนา
ด้านขวามีปุ่มลด/เพิ่มเสียง ที่อยู่เหนือปุ่มล็อค-ปิดเครื่อง
ด้านซ้าย 2 Sim 3 Slot (2 sim + SD Card) คือ ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง และช่องใส่ MicroSD อีก 1 ช่อง รวมทั้งหมด 3 ช่อง
ตัวเครื่องบางและยังคงช่องหูฟัง 3.5 มม. แต่ไม่มีหูฟังแถมมาให้ ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง มีช่องเชื่อมต่อข้อมูลหรือชาร์จแบตเตอรี่แบบ Micro USB 2.0 ไมโครโฟนตัวหลัก และลำโพง
ด้านหลังวางกล้องคู่ และแฟลช เรียงเป็นแนวนอน และวางปุ่มสแกนนิ้วไว้ตรงกลางด้านบน ตำแหน่งพอดีวางนิ้ว
มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดํา น้ำเงิน ทอง ตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะ
สเปค HONOR 7C
- หน้าจอ LCD ขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด HD+
- ความละเอียด 1440 x 720 พิกเซล อัตราส่วน 18:9
- ขนาด 158.3 x 76.7 x 7.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 164 กรัม
- CPU : Octa-Core 1.8GHz Snapdragon 450
- GPU : Adreno 506
- RAM : 3GB
- ROM : 32GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB
- กล้องหลังคู่ : 12MP + 3MP
- กล้องหน้า : 8MP
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 4.2
- MicroUSB 2.0
- ช่องหูฟัง : 3.5 มิลลิเมตร
- เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ด้านหลัง), Accelerometer, Proximity, Compass
- แบตเตอรี่ : 3000 mAh
- ระบบ Android 8.0 ครอบด้วย EMUI 8.0
- สีที่วางจำหน่าย : สีน้ำเงิน สีดำ สีทอง
Honor 7C จะวางจําหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย วันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ทาง Lazada ในราคา 5,290.00 บาท โดยมีโปรโมชั่นในช่วง Flash Sale ลดราคา 600 บาท เหลือ 4,690 บาท ตั้งแต่เวลา 12.00น. ถึง 16.00 น. ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้เท่านั้น