
Our score
7.2ZenPad C 7.0
จุดเด่น
- รูปลักษณ์ ขนาดเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- สามารถโทรออกได้ ใส่ได้ 2 ซิม
- มีแอปที่จำเป็นติดตั้งมาพร้อมเครื่อง ทั้งปรับปรุงการแสดงผล ปรับปรุงเสียง
- ราคากับสิ่งที่ได้ถือว่าคุ้มค่า
จุดสังเกต
- ประสิทธิภาพไม่มากนัก
- กล้องไม่เหมาะสำหรับการใช้งานจริงจัง
- แบตเตอรี่อยู่ได้ราวๆ 6 ชั่วโมง
-
รูปลักษณ์ภายนอก
8.0
-
คุณภาพหน้าจอ
7.0
-
ประสิทธิภาพ
6.0
-
คุณภาพกล้อง
6.0
-
ความคุ้มค่า
9.0
ที่ผ่านมาแท็บเล็ตจาก Asus นั้นประสบความสำเร็จอย่างดีในตลาดนะครับ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม FonePad และ ZenPad ที่มีขนาดเหมาะมือและสามารถโทรออกได้ ซึ่งวันนี้เว็บแบไต๋ขอรีวิว ZenPad รุ่นเล็กในซี่รี่ย์ล่าสุดอย่าง ZenPad C 7.0 ให้ดูกันว่าประสิทธิภาพที่ได้นั้นจะเหมาะสมกับราคาหรือไม่
ว่ากันด้วยสเปก
- CPU: Intel x3-C3230 4 แกน ความเร็ว 1.2 GHz
- GPU: Mali-450
- RAM: 1 GB
- ROM: 16 GB พร้อมพื้นที่บน ASUS Webstorage อีก 5 GB
- หน้าจอ 7″ LED Backlight IPS panel, 1024 x 600 (WSVGA); 16:9 รองรับ Multitouch 10 จุด
- Android 5.0
- กล้องหน้า 0.3 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล แบบ fix-focus
- ใส่ Micro Sim 2 ช่อง
- รองรับ MicroSD ความจุ 64 GB
- น้ำหนัก 265g
- ราคา 4,490 บาท
รูปลักษณ์และการจับถือ
จุดเด่นของ ZenPad ตระกูลล่าสุดที่เพิ่งออกมาในปีนี้คือการออกแบบครับ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าคลัทช์ (Clutch Bags) หรือกระเป๋าหนีบของคุณผู้หญิง ใน ZenPad C 7.0 ก็เช่นกัน ฝาหลังเป็นพลาสติกทำลวดลายเลียนแบบหนัง ทำให้จับถือได้สะดวกไม่ลื่น เว้นพื้นที่บริเวณขอบด้านขวา (เมื่อมองจากหลังเครื่องนะครับ) เอาไว้ให้ได้ดีไซน์แบบกระเป๋า ที่สำคัญคือด้วยจอ 7 นิ้วสัดส่วน 16:9 ทำให้ด้านกว้างของเครื่องไม่กว้างเกินไป สามารถใช้มือเดียวถือเครื่องได้สะดวก แม้จะเป็นคุณผู้หญิงที่มือเล็กๆ ครับ โดยถ้าเทียบกับ iPad Mini แล้ว ZenPad C จะแคบกว่าร่วม 1 นิ้วเลย
คุณสมบัติการจับถือมือเดียวได้สะดวกนี้จำเป็นมากสำหรับแท็บเล็ตที่โทรออกได้
ในส่วนด้านหน้าของเครื่องก็เป็นหน้าจอเกือบทั้งหมด ไม่มีปุ่ม Back, Home, Recent App แล้ว ทุกอย่างกดบนจอหมด ด้านบนก็เป็นลำโพงของเครื่อง ซึ่งใช้ทั้งคุยโทรศัพท์และใช้ส่งเสียงยามเล่นแอปและเล่นเกม ไม่ได้มีลำโพงเฉพาะแยกออกไป และมีกล้องหน้าอยู่ด้านบนนี้ด้วย
และด้านข้างเครื่องต้องบอกว่า ZenPad รุ่นนี้หนักขวา เพราะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นปุ่มเร่ง-ลดเสียง ล็อกจอ รวมถึงช่องใส่ไมโครซิม 2 ช่องและ MicroSD (สามารถใส่พร้อมกันได้หมด ไม่ต้องเลือกสลับ ซิมหรือ MicroSD) อีกหนึ่งช่องจะอยู่ด้านนี้หมดเลย
ความเร็วของเครื่อง
ต้องบอกว่า ZenPad C นั้นมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ซึ่งถ้าถามว่ามันลื่นปรู๊ดป๊าดไหม ก็คงไม่ลื่นเท่าแท็บเล็ตราคาเป็นหมื่น ซึ่งเราขอถ่ายเป็นคลิปวิดีโอให้ดูว่าเมื่อเปิดเว็บแบไต๋ด้วยเบราว์เซอร์ Chrome อ่านหน้าเว็บตามปกติ แล้วสลับไปใช้ facebook อ่านเนื้อหา ดูวิดีโอ และปิดท้ายด้วยการเปิดเกม Ski Safari 2 เครื่องจะมีการตอบสนองเป็นอย่างไร
จากวิดีโอก็จะเห็นว่าระหว่างการใช้งานแอปต่างๆ นั้น ZenPad C ทำได้ดีครับ เลื่อนหน้าเว็บได้ลื่น การเปิดเนื้อหาต่างๆ ในเฟซบุ๊กก็ติดมือดี ภาพเคลื่อนไหวและการตอบสนองในเกมก็ทำได้รวดเร็ว ไม่มีช่วงหน่วงจนเกมเสียจังหวะ ก็จะมีช่วงช้าๆ บ้างระหว่างเปลี่ยนแอปเท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อทดสอบด้วยแอปวัดประสิทธิภาพก็ได้ผลออกมาดังนี้
- Antutu – 23,000 คะแนน
- Geekbench 3 – Single-core 354 คะแนน Multi-core 1026 คะแนน
ก็ถือเป็นคะแนนในระดับที่รับได้สำหรับการใช้งานทั่วไปในปัจจุบันครับ พวก facebook, line, Youtube, ท่องเน็ต หรือเล่นเกมที่นิยมๆ กันก็ใช้งานได้หมด แต่ถ้าเอาไปเล่นเกม 3 มิติหนักๆ อาจจะต้องลุ้นนิดหนึ่ง บางเกมอย่าง Lara Croft Relic Run ติดตั้งไม่ได้เลยก็มี

ประสิทธิภาพแบตเตอร๊่จาก Geekbench
ในส่วนของแบตเตอรี่ ทดสอบด้วย Geekbench 3 จากแบตเตอรี่ 100% เปิดจอและทำงานตลอดจนเครื่องดับไปเอง ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง ได้คะแนนแบตเตอรี่ไป 1603 คะแนน ซึ่งก็ถือว่าประสิทธิภาพแบตเตอรี่อยู่กลางๆ ในหมวดแท็บเล็ตครับ ก็ใช้ข้ามวันได้สบายๆ แต่ก็ไม่ได้อึดแบบแท็บเล็ตจริงจังที่โทรออกไม่ได้
คุณภาพในการใช้งาน
เริ่มต้นจากการคุยโทรศัพท์ ZenPad C นั้นทำได้ดี ได้ยินเสียงชัดเจน เสียงที่พูดกลับไปอีกฝ่ายก็ได้ยินชัดเจนครับ ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเป็นแท็บเล็ตแล้วฟังก์ชั่นโทรศัพท์จะทำงานไม่ค่อยดี ตัวแอปโทรศัพท์ก็อินเทอร์เฟซคล้ายๆ ของ ZenFone

การปรับสีหน้าจอ, ตัวเลือก Bluelight Filter ใน Notification Center และแอปโทรศัพท์
เรื่องคุณภาพหน้าจอ ZenPad C นั้นใช้เป็นจอ IPS ซึ่งถึงจะมีความละเอียดไม่มากนักแค่ 1024 x 600 แต่ก็ให้สีสันสดใส มุมมองภาพกว้าง เอียงเครื่องไปมากๆ สีก็ไม่เหลือบ เหมาะมากสำหรับการใช้ดูวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์สำหรับปรับสีสันหน้าจอให้ตรงกับที่ต้องการ ต้องการให้จอแสดงสีโทนฟ้าหรือโทนเหลืองมากขึ้นก็เลือกได้ ที่สำคัญมีโหมด Bluelight filter หรือโหมดกรองแสงสีฟ้าที่สามารถเปิดปิดได้ง่ายๆ จาก Notification Center ที่ลากลงมา ก็ทำให้การอ่านเนื้อหายาวๆ ผ่าน ZenPad C ทำได้สบายตามากขึ้น

แอปเล่นเพลง และตัวปรับเสียงของเครื่อง
ในเรื่องของเสียง ต้องบอกว่าลำโพงของ ZenPad C นั้นไม่ได้ดังมาก และมีแค่ลำโพงเดียวตรงบริเวณที่เอาหูแนบเท่านั้น แต่ข้อดีของมันคือเป็นลำโพงที่หันมาหาผู้ใช้ครับ ไม่เหมือนพวก iPad ที่ลำโพงอยู่ข้างเครื่อง เวลาต้องการฟังอะไรชัดๆ ก็ต้องเอามืออังให้เสียงสะท้อนมาหาตัว ส่วน ZenPad C แค่จับเครื่องให้มือไม่ปิดลำโพงก็ชัดเจนดีแล้ว นอกจากนี้ในส่วนของซอฟต์แวร์ในเครื่องยังมีแอป AudioWizard สำหรับปรับปรุงเสียงเพลง เสียงจากภาพยนตร์ให้สดใส กังวาลขึ้นด้วยเทคโนโลยีของ DTS แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แหละครับว่าจะชอบเสียงปกติหรือเสียงที่ปรับแต่งมาแล้ว
การถ่ายภาพและภาพตัวอย่าง
ZenPad C ไม่ใช่แท็บเล็ตที่เน้นการถ่ายภาพครับ ด้วยความละเอียดกล้องหลังแค่ 2 ล้านพิกเซล (1600 x 1200) และกล้องหน้า 0.3 ล้านพิกเซล (640 x 480) แถมกล้องยังเป็นแบบ Fix Focus ด้วย ถ่ายวัตถุใกล้ๆ ก็จะเบลอนิดหนึ่ง ได้มันจึงเหมาะกับการนำไปใช้งานอย่าง Video Call มากกว่า
- โหมดถ่ายภาพ
- การปรับความเนียนของกล้องหน้า
แต่ถึงจะมีข้อจำกัดในส่วนของ Hardware เยอะตามค่าตัวที่ถูกแสนถูกของมัน ในส่วนซอฟต์แวร์นั้นยกมาจาก ZenFone เลยนะครับ ทำให้รูปที่ถ่ายออกมาได้สีสันที่โอเค และมีฟังก์ชั่นช่วยเหลือในการถ่ายรูปเยอะ ทั้งโหมด Selfie หน้าเนียน, Selfie Panorama, โหมดถ่ายกลางคืนที่ทำให้ได้ภาพสว่างขึ้นเยอะ โหมด Time Lapse และโหมดอื่นๆ อีกมากมาย ในส่วนของการถ่ายวิดีโอทำได้ที่ 720p คุณภาพก็ถือว่าใช้ได้ครับ ลองดูภาพและวิดีโอตัวอย่างกันเลย
- ความละเอียดภาพไม่สูง แต่สีสันออกมาใช้ได้
- การจัดการความสว่างและสีสันในซีนกลางวัน
- dynamic range ไม่กว้างนัก แต่ White balance ทำงานดี
- สีผิวเด็ก
- ภาพถ่ายจากกล้องหน้า
- การจัดการสีภาพยามเย็น
- เลนส์เป็น Fix focus ทำให้ถ่ายวัตถุใกล้ๆ ไม่ได้
- ภาพในที่แสงน้อย
- ภาพถ่ายปกติ
- ภาพจากโหมดถ่ายกลางคืน
สรุป ZenPad C คุ้มค่ากับราคา
ZenPad C 7.0 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการโทรศัพท์หน้าจอใหญ่ยักษ์ และใช้แอปทั่วไปในชีวิตประจำวันเป็นหลักอย่าง facebook, line, youtube หรือการท่องอินเทอร์เน็ต ไม่ได้ต้องการเล่นเกม 3 มิติหนักๆ หรือใช้แอปที่กินพลังเครื่องมากๆ ด้วยราคาไม่ถึง 5,000 บาท แต่สามารถใส่ได้ 2 ซิม รูปลักษณ์และขนาดที่เหมาะมือ ก็ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากครับ
- สามารถวาดตัวอักษรต่างๆ เพื่อให้เปิดแอปได้ทันทีแม้จอปิดอยู่
- Easy Mode สำหรับปรับเครื่องให้เหมาะสำหรับผู้เริ่มใช้ และผู้สูงอายุ
โปรโมชั่นร่วมกับ DTAC
ตั้งแต่วันนี้ถึงมกราคม 2559 ซื้อ Asus ZenPad C ในราคา 4,490 บาทพร้อมรับซิม Happy จาก DTAC และโปรโมชั่นเติมเงินเดือนละ 150 บาท รับโบนัสค่าโทรเพิ่มอีก 200 บาททุกเดือน เป็นระยะเวลา 2 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,800 บาท รวมถึงสามารถเล่นโซเชียล Line และ Facebook ได้นานถึง 10 เดือน (โบนัส 200 บาท ต้องใช้ภายใน 15 วัน ตามข้อกำหนดของ DTAC)