Our score
9.0รีวิว LG XBOOM 360 ลำโพงเคลื่อนย้ายง่าย สะดวกใช้นอกบ้าน ให้เสียง 360 องศา
จุดเด่น
- ให้เสียงได้รอบตัว ไม่ว่าจะฟังด้านไหน เสียงก็ออกมาดีเหมือนกัน
- ดังพอที่จะเอาไปใช้นอกสถานที่ได้ คุณภาพเสียงโอเคสำหรับลำโพงในลักษณะนี้
- สามารถเปลี่ยน EQ ได้หลายแบบ ทั้งแบบที่เหมาะสำหรับฟังในบ้าน หรือฟังนอกบ้าน
- ความสามารถแอปมีหลากหลาย ใส่เสียงเอฟเฟกแบบ DJ ได้ ปรับสีของแสงไฟได้
- ออกแบบให้เคลื่อนย้ายง่าย แถมยังมีแสงไฟตรงกลางให้โดดเด่น ใช้เป็นไฟบรรยากาศได้
- สามารถฟังเพลงผ่าน Bluetooth หรือเปิดไฟล์จาก USB หรือต่อ AUX ก็ได้
จุดสังเกต
- น้ำหนักค่อนข้างเยอะ ชั่งได้ 5.8 กิโลกรัม คือเป็นลำโพงที่เคลื่อนย้ายได้ แต่ไม่ใช่ระดับลำโพงพกพา
- ใช้งานต่อเนื่องได้ราว ๆ 10 ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จ 5 ชั่วโมง
- ช่องเสียบสายไฟแน่น ทำให้เสียบยากและถอดยาก
นอกจากลำโพงพกพาหรือลำโพงบ้าน ผู้ใช้บางคนอาจจะต้องการลำโพงขนาดใหญ่หน่อย เพื่อให้กำลังเสียงมากพอที่จะใช้นอกสถานที่ได้ แต่ยังสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย และมีแบตเตอรี่ในตัวให้เอาไปวางตรงไหนก็ได้ ถ้าความต้องการของคุณเป็นแบบนี้ LG XBOOM 360 RP4 ที่เรารีวิวในวันนี้ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่คุณน่าพิจารณาครับ
ดีไซน์ของ LG XBOOM 360
งานออกแบบของลำโพงรุ่นนี้เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ค่อยมีลำโพงทรงกรวยแบบนี้ในตลาด เพื่อให้เสียงได้รอบทิศทางแบบ 360 องศาครับ ไม่ว่าจะฟังลำโพงนี้จากด้านไหน เสียงก็ออกมาเหมือนกันหมด แล้วด้านบนก็มีหูจับทำจากโลหะแข็งแรง เพื่อให้ยกไปมาได้สะดวกครับ ซึ่งลำโพงนี้มีน้ำหนัก 5.8 กิโลกรัมครับ ก็ยกแบบพอตึงมือหน่อย
LG XBOOM 360 RP4 แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน ด้านล่างที่มีความหนา เป็นที่อยู่ของซับวูฟเฟอร์ลำโพงเสียงต่ำครับ ส่วนพื้นที่ด้านบนที่เล็กหน่อยก็เป็นที่อยู่ของลำโพงเสียงกลาง-สูง โดยช่องว่างระหว่างลำโพง 2 ดอกนี้จะมีไฟ LED ที่เปลี่ยนแสงไปมาระหว่างเล่นเพลงได้ด้วย ซึ่งส่องแสงสว่างให้เห็นดอกลำโพงซับวูฟเวอร์ไปด้วย
ลำโพงนี้มีขนาด 247.5 x 514 x 247.5 mm หรือสูงจากพื้นขึ้นมา 51.4 cm
ด้านบนสุดนั้นเป็นปุ่มควบคุมลำโพงที่ชัดเจน ใช้งานง่ายครับ มีปุ่มเปิด-ปิดลำโพง, เพิ่มเสียง-ลดเสียง, เล่นเพลง-หยุดเพลง, ปุ่มเลือกแหล่งที่มาของเสียงว่าจะฟังเพลงผ่าน Bluetooth, ไดรฟ์ USB หรือต่อสาย AUX เข้ามา และปุ่มปรับแสงไฟของเครื่องอยู่ตรงกลาง ที่กดแล้วจะเปลี่ยนแสงได้ 3 แบบ และกดครั้งที่ 4 เพื่อปิดไฟครับ
ส่วนด้านล่างจะมีช่องเสียงสายไฟ AC ซ่อนอยู่ใต้ฐาน ซึ่งเป็นการเสียบไฟบ้านตรงเข้าไปเลย ไม่มีอะแดปเตอร์แปลงไฟจากภายนอก ก็ทำให้ติดสายไฟไปพร้อมเครื่องได้สะดวกขึ้น เพราะเป็นแค่สายไฟเส้นเล็ก ๆ แต่ช่องเสียบสายไฟด้านใต้เครื่องนี้จะแน่นหน่อย ทำให้เสียบยาก-ถอดยากสักนิด ต้องออกแรงพอสมควร
โดยลำโพงรุ่นนี้ตามสเปกเคลมว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 10 ชั่วโมง และชาร์จให้เต็มได้ใน 5 ชั่วโมง ซึ่งเราก็คาดหวังให้แบตเตอรี่จะอึดกว่านี้ได้อีกสักนิดครับ สัก 12 ชั่วโมงน่าจะกำลังดี แต่ได้ 10 ชั่วโมงก็ถือว่ามากกว่าลำโพงปาร์ตี้หลาย ๆ รุ่นอยู่ แล้วก็ใช้เวลาชาร์จพอสมควรเลย ไม่เหมาะสำหรับการเร่งชาร์จเพื่อเอาไปวางเท่าไหร่ ถ้าแบตน้อย แนะนำให้ใช้ไป เสียบปลั้กไปจะดีกว่า
และที่ฐานของลำโพงจะมีแผ่นปิดที่ซ่อนช่องเสียบอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างช่อง USB-A สำหรับอ่านไฟล์เพลงมาเล่นโดยตรง แล้วก็ช่อง AUX 3.5 mm สำหรับเชื่อมต่อเสียงจากภายนอกมาออกที่ลำโพงได้ด้วยครับ และมีปุ่ม Twin สำหรับเชื่อม LG XBOOM 360 สองตัวเข้าด้วยกัน เพื่อให้เสียงออกพร้อมกัน ทำให้ได้ซาวด์ที่อลังการมากขึ้นครับ (แต่ฟังก์ชันนี้จะใช้ได้เฉพาะการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเท่านั้น ถ้าเชื่อมต่อ Bluetooth กับทีวี จะต่อ 2 ลำโพงแบบนี้ไม่ได้)
โดย LG XBOOM 360 RP4 ที่จำหน่ายในไทยจะมีให้เลือก 2 สีคือ สีแดง Burgundy และสีเขียว Peacock Green ที่เรารีวิวตัวนี้ครับ ก็เป็นสีที่ดูหรูหราทั้งคู่
การควบคุม LG XBOOM 360 ผ่านแอป
นอกจากที่เราสามารถควบคุมลำโพงผ่านปุ่มกดด้านบนได้แล้ว เรายังสามารถควบคุมลำโพงผ่านแอป LG XBOOM ได้อีกเพียบครับ ใครที่มีลำโพงนี้ แนะนำเลยว่าต้องโหลดแอปมาใช้ร่วมด้วย เพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
เรื่องแรกที่กำหนดผ่านแอปได้คือการเลือกสีไฟครับ ที่เราสามารถกำหนดสีของแสงได้ 3 แบบคือ
- Ambient แสงไฟจะแสงจะสว่างนิ่ง ๆ เน้นการสร้างบรรยากาศ ซึ่งรูปแบบแสงที่ LG ตั้งมาให้ตั้งแต่แรกก็จะเป็นแสงให้อารมณ์แบบแสงยามเช้า หรือแสงแดดอุ่น ๆ หรือเลือกสีเองก็ได้
- Nature แสงให้ความรู้สึกธรรมชาติ เปลี่ยนสีสลับไปมา 2 สี ซึ่งรูปแบบแสงที่มีมาให้จะเป็นแสงสีเขียวให้อารมณ์ป่าเขา หรือแสงสีน้ำเงินนุ่ม ๆ ซึ่งกำหนดเองเป็น 2 สีให้สลับไปมาได้
- Party แสงที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างรวดเร็วสำหรับงานปาร์ตี้ สามารถกำหนดเองได้ 3 สีให้สลับไปสลับมา
ซึ่งหลังจากกำหนดสีในแอปเรียบร้อยแล้ว ครั้งต่อไปก็กดปุ่มด้านบนลำโพง สีของแสงก็จะเป็นไปตามที่ตั้งไว้ในแอปครับ
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน DJ ให้เล่นสนุก ๆ ในแอป โดยจำลองเสียงสแครชแผ่นผ่านการหมุนแป้นเหมือนแผ่นเสียง และกดเสียงเอฟเฟกต์พวกเสียงกลอง เสียงแตร หรือสร้างเสียงเข้าไปเองผ่าน Sampler Creator ที่ใช้ไมค์อัดเสียงเข้าไปแล้วเรียกใช้ได้ แล้วยังเลื่อนปรับเอฟเฟกต์พวก Flanger, Phaser, WAH, Delay ให้เสียงเพลงของเราเปลี่ยนไปได้ แต่จะสามารถใส่เอฟเฟกต์ทั้ง 4 นี้ได้ทีละเอฟเฟกต์เท่านั้น
ในแอปยังสามารถเปิดใช้งาน Multi Play Mode สำหรับเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ 2 ตัวพร้อมกัน แล้วสลับการเล่นเพลงจาก 2 เครื่องได้ หรือจะเปิดใช้ Low Latency Mode ในกรณีที่เราต่อลำโพงกับทีวี เพื่อให้เสียงออกมาตรงกับปากพูดมากขึ้นก็ได้
คุณภาพเสียงของ LG XBOOM 360
ใน LG XBOOM 360 RP4 มีไดรเวอร์อยู่ 2 ตัว อยู่ในส่วนบนและส่วนล่างของลำโพงนะครับ
- ส่วนบทเป็นลำโพง Titanium Tweeter ขนาด 1 นิ้ว
- ส่วนล่างเป็นลำโพง Glass Fiber Woofer ขนาด 5.25 นิ้ว สำหรับให้เสียงต่ำ
- ล่างสุดเป็นฐานยกขึ้นมา แล้วมีช่องเพื่อถ่ายเทอากาศภายในส่วนซับวูฟเฟอร์
ส่วนการเชื่อมต่อ Bluetooth นั้นรองรับ Codec เสียงเป็น SBC และ AAC ทำให้รองรับการเชื่อมต่อเสียงคุณภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะเสียงจาก iPhone แต่ก็ไม่ได้รองรับ Codec คุณภาพสูงกว่านี้อย่าง LDAC หรือ aptX Adaptive ครับ
ค่ามาตรฐานของลำโพงจะเซ็ต EQ มาเป็นแบบ Bass Blast เพื่อเร่งเสียงเบสให้หนักแน่นขึ้น ซึ่งก็เป็นเสียงที่ฟังสนุกสำหรับการเปิดในห้องที่มีบริเวณหน่อยครับ ให้เบสได้ตึ้บ ๆ แต่ก็มีรายละเอียดกลาง ๆ ยังไม่ใช่เบสที่แยกความแตกต่างภายในตัวเนื้อเบสได้มากนัก ซึ่งถ้าคุณใช้ LG XBOOM 360 ในห้องที่เล็กหน่อยเราก็แนะนำให้ใช้ EQ เป็น Standard เพื่อลดความเข้มของเบสลง จะได้รายละเอียดในเสียงต่ำเยอะกว่าครับ
ส่วนเสียงกลาง-สูง ทำได้ชัดเจนดี เสียงร้องลอยเด่นออกมาแม้จะเป็นโหมด Bass Blast ที่ให้เสียงเบสเยอะ เสียงแหลมมีรายละเอียดน่าพอใจ ทำให้รวม ๆ แล้วยังให้เสียงที่กลมกล่อม ฟังง่าย
นอกจากนี้ยังมี EQ แบบ Outdoor สำหรับใช้งานในสถานที่เปิด เพื่อขับให้เสียงกลาง-แหลมล่องลอยมากขึ้น และดันเสียงเบสให้กดต่ำ เพื่อให้เสียงกระจายครอบคลุมทั่วบริเวณกว้าง ๆ ได้
สรุป LG XBOOM 360 ให้เสียงได้หลากหลายแบบ เหมาะทั้งใช้งานในบ้านและนอกบ้าน แถมเสียงที่ได้ยังกระจาย 360 องศาไปรอบ ๆ ลำโพงอีกด้วย ทำให้ไม่ว่าจะฟังเพลงจากมุมไหนของลำโพงก็ให้เสียงได้เสมอกันครับ
สรุป LG XBOOM 360 เหมาะกับใคร
เรามองว่า LG XBOOM 360 นั้นมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะอยู่ คือคนที่อยากได้ลำโพงขนาดย่อม ๆ เคลื่อนย้ายได้ ที่เสียงดังพอที่จะเปิดนอกสถานที่ได้ แถมมีไฟให้บรรยากาศได้ด้วย ซึ่งราคาเปิดตัวในไทยอยู่ที่ 11,990 บาท ก็ถือเป็นราคาแข่งขันได้กับลำโพงปาร์ตี้รุ่นอื่น ๆ ครับ
แต่สิ่งที่ขาดไปสำหรับลำโพงใช้งานลักษณะนี้คือไมโครโฟนเพื่อใช้ขยายเสียงครับ ใครที่ต้องการใช้โฟนด้วย ก็ต้องหาชุดไมค์มาเสริมเองครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส