Our score
6.3อึด ลุย ดูได้ทั้งเข็มและหน้าปัด
จุดเด่น
- จับ GPS ได้ไวในพื้นที่ร่ม
- แบตอึดนาน 28 วัน
- กดปุ่มลัดได้สะดวก ตั้งค่าได้หลายฟังก์ชัน
- ที่ชาร์จให้ร่วมกับรุ่นเก่าได้
จุดสังเกต
- ความสว่างหน้าจอน้อย หน้าจอไม่มีสี
- ดีไซน์เข็มนาฬิกาทำให้พื้นที่หน้าจอดิจิทัลน้อยลง
- ฟังก์ชันการใช้งานแทบไม่ต่างจากรุ่น Instinct 2
Garmin นำเสนอสมาร์ตวอตช์รุ่นล่าสุด ที่ตอบโจทย์สายลุยและคนที่ลังเลระหว่างนาฬิกามีเข็มกับหน้าปัดดิจิทัล เลยผสานสองเทคโนโลยีในเรือนไปเลยกับ Garmin Instinct Crossover สมาร์ตวอชต์ไฮบริดที่ตอบโจทย์คนรักการผจญภัย ด้วยความแข็งแรงทนทานสไตล์ตระกูล Instinct และดีไซน์ 2 หน้าปัดในเรือนเดียว พิเศษสำหรับรุ่นชาร์จไฟด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ไปแกะกล่องพร้อม ๆ กันเลย
แกะกล่อง
ภายในกล่องของ Garmin Instinct Crossover จะประกอบด้วยตัวนาฬิกา, สายชาร์จ (ใช้กับรุ่นเดิมได้นะ อย่างผมใช้ Forerunner 945 อยู่ ใช้ด้วยกันได้เลย), สติกเกอร์ Garmin, QR Code สำหรับโหลดแอปพลิเคชัน Garmin Connect และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์
Garmin Instinct Crossover ตัวเรือนใช้วัสดุโพลิเมอร์เสริมแรงเส้นใยเหมือนกับรุ่นเดิม ขนาด 45.0 x 45.0 x 16.2 มิลมิเมตร หนาขึ้นกว่ารุ่นเก่าเล็กน้อย (รุ่นเก่าหนา 14.6 มิล) น้ำหนักประมาณ 65 กรัม (เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อน 53 กรัม) อย่างรุ่นที่เราได้มารีวิวเป็นรุ่น Instinct Crossover Solar หรือรุ่นที่มีระบบการชาร์จพลังงงานแสงอาทิตย์อยู่ด้วย ทำให้เวลาใส่ออกกำลังกลางแจ้งจะชาร์จไฟไปในตัว วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าเป็นรุ่นไหนให้สังเกตด้านบนขอบตัวเรือนจะมีคำว่า “Solar” อยู่ ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะไม่มีคำว่า Solar และรุ่นท็อปที่เป็น Tactical Edition จะมีสกรีนไว้ด้านหลังตัวเรือนนั่นเอง
พิเศษสำหรับรุ่น Garmin Instinct Crossover ได้นำเข็มนาฬิกา RevoDrive ที่บ่งบอกเวลาด้วยความแม่นยำ มาประยุกต์เข้ากับหน้าปัดดิจิทัลแบบสมาร์ตวอตช์ โดยเวลาใช้งานโหมดต่าง ๆ ตัวเข็มจะหมุนไปทางเลข 3 และ 9 เพื่อเป็นการแบ่งหน้าจอดิจิทัลออกเป็นสองส่วน หรือโหมดเข็มทิศตัวเข็มจะหมุนไปที่เลข 12 จะได้ไม่บังการใช้งานเข็มทิศ
ตัวเรือนมีการใช้สารเคลือบแสง Super-LumiNova เคลือบบริเวณเข็มนาฬิกาและตำแหน่งตัวเลขรอบหน้าปัด เพื่อให้อ่านค่าได้ง่ายแม้อยู่ในที่มืด ทั้งนี้ยังผ่านการรอบรับมาตรฐานทางการทหารของอเมริกา MIL-STD-810 ทนทานต่อความร้อน แรงกระแทกและกันน้ำระดับ 100 เมตรเลยทีเดียว
ฟังก์ชัน
Garmin Instinct Crossover ครอบคลุมการใช้งานหลากหลาย แม้หน้าตาจะดูสมบุกสมบัน แต่ฟีเจอร์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ก็ยังครบ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามการนอน การเก็บข้อมูลสุขภาพ อัตราการเต้นของหัวใจ ระดับพลังงานของร่างกาย (Body Battery) และระดับความเครียด (Stress Level) รวมถึงแทรกปุ่มลัดต่างๆ ที่ใครเป็นแฟน Garmin อยู่แล้วน่าจะคุ้นเคยกันดี
ปุ่มซ้ายบน: กดเพื่อเพิ่มลดแสงหน้าจอ นอกจากนี้กดค้างยังปรับฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ เช่น เซฟแบตเตอรี่, ค้นหาโทรศัพท์, กระเป๋าสตางค์ ไปจนถึงปิดเครื่อง
ปุ่มซ้ายกลาง: กดเพื่อเลื่อนขึ้น หรือกดค้างเพื่อเข้าสู่เมนูตั้งค่าทั่วไป เช่น เปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา, ตั้งค่าแอป, ข้อมูลสุขภาพ, เซ็นเซอร์ ไปจนถึงตั้งค่าระบบ
ปุ่มซ้ายล่าง: กดเพื่อเลื่อนลง หรือกดค้างเพื่อเข้าสู่เมนูเข็มทิศและเซนเซอร์ ABC , มาตรวัดความสูง, มิเตอร์ความกดอากาศ และเข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ 3 แกน
ปุ่มขวาบน: กดยืนยันและเข้าถึงโหมดออกกำลังกาย หรือกดค้างเพื่อเข้าสู่เมนู GPS
ปุ่มขวาล่าง: กดยกเลิก หรือกดค้างเพื่อเข้าสู่การตั้งค่าเวลา, ไทม์โซน, นาฬิกาจับเวลา หรือตั้งการเตือนเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก
นอกจากนี้ยังเสริมฟังก์ชันเพื่อการออกกำลังกายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบออกความฟิต VO2 Max หรือค่าความอิ่นตัวออกซิเจนในเลือด (Pulse OX) วัดอายุสุขภาพ ไปจนถึงระยะเวลาในการฟื้นตัว ส่วนสายไลฟ์สไตล์ก็หมดห่วง ที่ช่วยเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนแจ้งเตือนข้อความ อีเมลต่าง ๆ แล้ว ยังชำระเงินได้สะดวกมากขึ้นผ่าน Garmin Pay และติดตามข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียดผ่านแอปพลิเคชัน Garmin Connect
และสายลุยหรือกองทัพ Garmin Instinct Crossover มีรุ่น Tactical Edition ที่มีฟีเจอร์เหมาะกับการฝึกซ้อมทุทธวิถีทางทหาร เช่น เลนส์มองกลางคืนที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลชัดขึ้น หรือ Stealth Mode ที่ตัดทุกการเชื่อมต่อไปในฟังก์ชันเดียว หรือระบบ GPS 2 ค่า ไปจนถึง Kill Switch ที่ช่วยลบตัวตนในยามคับขัน
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ Garmin Instinct Crossover ในรุ่นเริ่มต้นใช้งานได้ยาวนานเป็นเดือน สามารถใส่โดยไม่ต้องชาร์จสูงสุด 28 วัน (แบตเตอรี่เต็ม 100%) หรือในโหมดประหยัดแบตเตอรี่สูงสุด 71 วัน และโหมด GPS ต่อเนื่องสูงสุด 110 ชั่วโมง (มากกว่ารุ่นเดิมที่ 70 ชั่วโมง)
เราได้ลองทดสอบความอึดของสมาร์ตวอตช์โดยการนำไปใส่วิ่งมาราธอนระยะทาง 42.195 กิโลเมตร เป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าแบตเตอรี่ลดลงจาก 28 วันเหลือ 21 วัน ถือว่ายังเหลืออยู่มากเลยทีเดียว
หลังการใช้งาน
หลังทดลองใช้งาน Garmin Instinct Crossover มาสักระยะ ถือได้ว่าเป็นสมาร์ตวอตช์ที่น่าสนใจอีกเรือน เหมาะกับคนที่ชอบลุย ๆ มีฟังก์ชันออกกำลังกายหลากหลาย ทั้งในร่ม กลางแจ้งไปจนถึงไตรกีฬา แบตเตอรี่ก็มีความอึดใช้งานได้นับเดือน ผสมดีไซน์หน้าปัดดิจิทัลและ RevoDrive เข็มนาฬิกาแบบอนาล็อก รวมถึงฟังก์อื่นอื่นของ Garmin ได้แบบครบ
แต่ก็มีจุดที่เรายังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เช่น ความสว่างของหน้าจอยังมาน้อยเหมือนกับรุ่น Enduro 2 ที่แบไต๋เคยรีวิวไป หน้าจอแบบโมโนโทนไม่มีสีสันสดใส ไปจนถึงดีไซน์ของตัวเข็มนาฬิกาที่เข้ามาทำให้หน้าปัดเล็กลงไปอีก โดยเฉพาะในโหมดออกกำลังกายจะสามารถแบ่งหน้าจอได้สูงสุด 3 จอเล็กเท่านั้น ตามรูปด้านล่างบอกเวลาที่ใช้วิ่ง (ด้านบน), ระยะทาง (ซ้ายล่าง) และเพซ (ขวาล่าง) ซึ่งถ้าอยากเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจก็ต้องยอมเสียอย่างใดอย่างหนึ่งไป ทั้งนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบรุ่นมีเข็ม แนะนำให้เลือกรุ่น Instinct 2 ก็ได้ เพราะฟังก์ชันแทบไม่ต่างกัน
การใช้งานเราทดสอบด้วยการใส่วิ่งหลายครั้ง ทั้งวิ่งสั้น ๆ แบบ 10 กิโลเมตร ไปจนถึงวิ่งนานหลายชั่วโมงในมาราธอน พบว่ารู้สึกถึงน้ำหนักของตัวเรือนได้มากกว่า Forerunner 945 ที่ใส่อยู่อีกข้าง และด้วยหน้าจอที่ไม่มีสีสัน แถมยังโดนเข็มนาฬิกาแบ่งจออีก ทำให้ตัวเลขข้อมูลการออกกำลังกายจึงยิ่งมองยากเข้าไปอีก ถ้าเทียบกับตระกูล Forerunner ที่มีสีสันและดูอ่านกว่า แต่ก็ทดแทนด้วยความอึด เพราะแม้จะวิ่งนาน 4 – 5 ชั่วโมง แบตเตอรี่ก็ยังลดลงมาแค่ 10% กว่าเท่านั้น ที่สำคัญไม่ต้องชาร์จไฟบ่อยใส่ข้อมือไปได้ยาว ๆ เลยล่ะ
Garmin Instinct Crossover มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่
Instinct Crossover รุ่นเริ่มต้น ราคา 18,690 บาท
Instinct Crossover Solar รุ่นพลังงานโซลาร์ ราคา 20,390 บาท
Instinct Crossover Solar – Tactical Edition รุ่นฝึกซ้อมแบบยุทธวิธี ราคา 21,990 บาท
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส