หลอดไฟ LED ไฮเทคที่สามารถสั่งงานผ่านแอปใน iOS และ Android เพื่อควบคุมระดับแสง การปิดเปิด และยังทำตัวเป็นลำโพงส่งเสียงผ่าน Bluetooth ไปออกที่หลอดไฟได้อีกด้วย
ข้อดี
- กินไฟน้อยแค่ 3 W แต่สว่าง เพราะเป็นหลอด LED (แต่ถ้าเปิดเสียงดังสุด จะกินไฟสูงสุด 14 W)
- สามารถตั้งเวลาผ่านแอปเพื่อควบคุมตัวหลอดไฟได้ เช่นให้หลอดหรี่แสงและหรี่เสียงลงเมื่อถึงเวลานอน ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมได้ 4 แบบคือ Wake Up (เปิดหลอด), Energy Saver (ดับไฟ), Night Mode (หรี่แสง หรี่เสียงลง) และ Sleep Mode (ดับทุกอย่าง)
- ควบคุมความสว่างของหลอดผ่านแอปได้
- มีกิมมิกเล็กๆ คือเมื่อเขย่ามือถือ หลอดจะค่อยๆ หรี่แสงลง
- ทำตัวเป็นลำโพง Bluetooth คือทุกเสียงที่ออกจากมือถือจะไปออกที่ลำโพง ไม่เฉพาะเสียงเพลงที่เปิดจากแอป Playbulb อย่างเดียว
- ใช้เกลียวเขี้ยวหลอดมาตรฐาน (E27) ใส่กับโคมไฟส่วนใหญ่ได้ทันที
- ระยะทำการประมาณ 10 เมตร
ข้อสังเกต
- ใช้ได้กับอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth 4.0 เท่านั้น เช่น iPhone 4s, iPad 4 ขึ้นไป ส่วนฝั่ง Android ก็ต้องใช้รุ่น 4.3 ขึ้นไป
- การเชื่อมต่อกับ Bluetooth ยังงงๆ คือถ้าเชื่อมต่อโดยตรงผ่านแอป Playbulb อาจมีปัญหาควบคุมแสงได้อย่างเดียว แต่เสียงไม่ออก ต้องเปิด Setting ของระบบแล้วเข้าหน้า Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับหลอดไฟจนมีเสียงดัง ตื้ออ ออกจากหลอดไฟก่อน เสียงที่เปิดในมือถือถึงจะไปออกที่ลำโพง
- การตั้งเวลาปรับระดับเสียงเพลงบน iOS จะปรับระดับเสียงของสมาร์ทโฟนไปด้วย แถมขึ้นหน้าปรับระดับเสียงกลางจอเลย
- คุณภาพเสียงที่ได้อยู่ในระดับกลางๆ เสียงค่อนไปทางทึบๆ (ก็คิดว่ามันเป็นหลอดไฟแล้วกัน)
- Playbulb รุ่นนี้ไม่สามารถปรับสีของแสงได้
ราคา 1,990 บาท
- ถ้าเทียบว่าหลอดไฟ LED ธรรมดาขนาด 3W มีราคาราว 150 บาท หลอดไฟเปลี่ยนสีได้ด้วยรีโมทก็ราคาราว 600 บาท แล้วคุณภาพเสียงจาก Playbulb ได้ประมาณนี้ ก็ถือว่าสูงไปหน่อย
- แต่ถ้าต้องการอุปกรณ์ตัวเดียวที่ควบคุมได้ไร้สาย ก็เป็นราคาที่รับได้อยู่
======================================================================
รายการ The Reviewer รีวิวอะไรก็ได้ที่มันเวอร์ ๆ ออกอากาศทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 21.45 น. ทางไทยรัฐทีวีช่อง 32