Our score
8.7Samsung Galaxy Buds Live
หูฟัง TWS ตัวเล็ก พกสะดวกมาก
ดีไซน์เม็ดถั่วไม่ซ้ำใคร ให้เสียงเบสดีเกินคาด ฟังสนุก ซอฟต์แวร์ควบคุมดีและยืดหยุ่น เชื่อมต่อดีไม่มีสะดุด แต่คนรักการฟังเพลงแบบลงรายละเอียดอาจขัดใจบ้าง
จุดเด่น
- ดีไซน์แปลกตา แต่ยังใช้สะดวก หูฟังทรงถั่วที่ยังเกาะหูได้แน่น
- กล่องชาร์จเล็กกระทัดรัด ชาร์จไร้สายได้ด้วย
- เบสหนักเกินคาด สายเน้นเบสน่าจะชอบหูฟังรุ่นนี้
- ไมโครโฟนเก็บเสียงได้ดี คุยโทรศัพท์ได้สบายๆ ใช้งานข้างเดียว ข้างไหนก็ได้
- ปรับแต่งการทำงานหูฟังได้หลากหลาย แอปยืดหยุ่น
จุดสังเกต
- เสียงเบสดังจนกลบเสียงกลาง คนที่ชอบฟังรายละเอียดเสียงอาจจะไม่ชอบ
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ครั้งละ 1 ตัว ไม่มีความสามารถ MultiPoint
- ระบบตัดเสียงรบกวนทำงานได้ดีเฉพาะเสียงรบกวนความถี่ต่ำ ไม่สามารถตัดเสียงพูดรอบข้างได้ดีนักเพราะไม่มีจุกอุดหูฟัง
- ดูหนัง ดูคลิปไม่มี Lag แต่เล่นเกมเสียงยัง Lag อยู่
-
คุณภาพเสียง
8.0
-
คุณภาพวัสดุ
8.5
-
ความคล่องตัวในการใช้
10.0
-
ความสามารถในการคุยโทรศัพท์
9.0
-
ความคุ้มค่า
8.0
Samsung Galaxy Buds Live หูฟังแบบ True Wireless รุ่นล่าสุดจากซัมซุงที่ดีไซน์เป็นเม็ดถั่ว จนเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนหูฟังที่ออกมาก่อนหน้านี้เลย หลังจากที่ #beartai ได้ใช้อยู่พักใหญ่ วันนี้จะเรียบเรียงประสบการณ์การใช้มาเล่าให้ฟังครับว่าหูฟังไร้สายที่แม้ไม่มีจุกเข้าไปอุดหูแบบนี้ เป็นอย่างไรบ้าง
อยากอ่านรีวิวในเรื่องไหน กระโดดไปได้เลย
ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Buds Live
ความประทับใจแรกของหูฟังรุ่นนี้คือกล่องเก็บมันเล็กมากครับ เป็นกล่องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่แบนกว่าหูฟังไร้สายที่แท้ทรูทั่วไป เรากล้าพูดได้เต็มปากเลยว่ามันพกง่ายมาก สามารถเอาติดตัวไปได้ทุกที่จริง ๆ ซึ่งตัวกล่องชาร์จนี้ก็ชาร์จผ่าน USB-C นะครับ แถมรองรับการชาร์จไร้สายด้วย จะเอาไปวางบนแท่นชาร์จ หรือวางบนหลังมือถือที่รองรับ Reverse Charging อย่างมือถือของซัมซุงหรือหัวเว่ยบางรุ่นก็ชาร์จได้ครับ
ตัวหูฟังทรงเม็ดถั่วก็แปลกตา เห็นครั้งแรกอาจงงนิด ๆ ว่ามันใส่ยังไงเพราะไม่มีจุกสำหรับใส่เข้าหูเหมือนหูฟังทั่วไป เราขออธิบายวิธีใส่ว่าให้เอาด้านขั้วสีทอง ๆ 2 จุดเอาไว้ด้านบน แล้วยัดด้านที่เป็นตะแกรงลำโพงเข้าชิดกับรูหูครับ ซึ่งถ้าใส่ถูกต้อง เสียงก็จะออกคมชัด เบสแน่นตูมตาม แต่ถ้าใส่ไม่ตรง เสียงเบสก็จะบางลงครับ ซึ่งถ้าลองใส่แล้วรู้สึกไม่แน่น ในกล่องก็ยังมียางหูฟังให้เปลี่ยนได้อีกเพื่อให้เกาะหูได้มากขึ้น
ถึงเราจะเห็นว่า Samsung Galaxy Buds Live ดีไซน์ไม่มีจุกยางยึดกับหู แต่ใช้งานจริงถือว่ายึดเกาะกับหูดีมากครับ ถ้าใส่ถูกต้อง ก็ไม่มีโอกาสหลุดระหว่างการเดินเหินไปมาเลย แทบจะใส่วิ่งได้เลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องออกตัวไว้ก่อนว่าแล้วแต่หูของแต่ละคนด้วย กับหูของบางคนอาจจะยึดไม่อยู่ก็ได้ อันนี้ก็อยากให้หาหน้าร้านลองใส่กันดูก่อน
ซึ่ง Samsung Galaxy Buds Live นั้นมีให้เลือก 3 สีนะครับ สีที่เราได้มารีวิวคือสีทองแดง MYSTIC BRONZE, แล้วก็มีสีดำ MYSTIC BLACK และ สีขาว MYSTIC WHITE ก็เลือกได้ตามชอบใจได้เลย
การควบคุม Samsung Galaxy Buds Live
เราถือว่าหูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบ True Wireless ที่สามารถควบคุมและปรับแต่งได้ละเอียดรุ่นหนึ่งในตลาดเลยนะครับ แม้ว่าเราจะไม่เห็นว่าที่กล่องหรือตัวหูฟังจะมีปุ่มควบคุมอะไรอยู่เลย แต่เราสามารถควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสและปรับแต่งได้จากแอป Galaxy Wearable ครับ
สรุปวิธีแตะควบคุม Samsung Galaxy Buds Live
- แตะข้างซ้ายหรือขวา เพื่อเล่น/หยุดเพลง
- แตะ 2 ครั้งข้างซ้ายหรือขวา เพื่อเปลี่ยนเพลงหรือรับสาย/ตัดสาย
- แตะ 3 ครั้งข้างซ้ายหรือขวา เพื่อย้อนเพลง
- การแตะค้างที่หูข้างซ้ายและข้างขวา จะสามารถเลือกคำสั่งพิเศษได้ 4 คำสั่งจากในแอป Galaxy Wearable ครับ คือ
- เพิ่ม/ลดเสียง เช่นตั้งให้แตะค้างข้างซ้ายเป็นลดเสียง และแตะค้างข้างขวาเป็นเพิ่มเสียงก็ได้
- เรียกผู้ช่วยอย่าง Siri หรือ Google Assistant
- เปิด/ปิดระบบ Active Noise Cancelling
- เปลี่ยน Playlist ของ Spotify
- แตะค้างที่หูฟังพร้อมกัน 2 ข้าง เพื่อเข้าโหมดเชื่อมต่อ
โดยรวมการควบคุมที่ตัวหูฟังนั้นจำไม่ยากครับ เพราะหูแต่ละข้างมีแค่ปุ่มเดียวเท่านั้น และระบบก็ฉลาดพอที่จะตัดการสั่งงานกับหูฟังที่ไม่ได้ใส่อยู่ที่หูด้วย คือจะแตะเพื่อสั่งงานได้ หูฟังต้องอยู่ในหูเท่านั้นครับ เพื่อลดความผิดพลาดในการแตะผิด แล้วถ้าถอดหูฟังออกจากหูทั้ง 2 ข้าง ก็จะหยุดเพลงให้อัตโนมัติด้วย แต่ด้วยความที่ปุ่มของหูฟังรุ่นนี้เป็นระบบสัมผัส ก็อาจมีการสั่งงานผิดพลาดช่วงที่ถอดหูฟังออกจากหูครับ ที่อาจเผลอไปแตะหูฟังก่อนที่จะเอาออกจากหูได้ แต่ถ้าใช้บ่อยๆ ก็จะชิน ให้จับที่ขอบหูฟังระหว่างใส่เข้าออก ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหานี้
ส่วนการควบคุมผ่านแอป Galaxy Wearable นั้นทำได้หลายอย่างมากคือ
- เปิด/ปิดระบบตัดเสียงรบกวน
- ปรับ EQ แต่เราจะไม่สามารถจูนเสียงได้เองนะครับ ต้องเลือกจาก Preset ที่มีให้เลือกอยู่ 6 แบบ
- ปรับคำสั่งการแตะหูฟัง หรือจะปิดไม่ได้สั่งผ่านการแตะหูฟังเลยก็ได้
- ควบคุมฟังก์ชันอ่าน Notification เป็นเสียงมาออกที่หูฟัง ว่าจะให้อ่านจากแอปไหนบ้าง
- เปิด/ปิดระบบ Seamless earbud connection ที่สามารถสลับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ Samsung Account เดียวกันได้เร็วขึ้น ไม่ต้องตัด-ต่อ Bluetooth ก่อน
- Labs ตอนนี้มีตัวเลือกคือ Relieve pressure with ambient sound คือลดความอึดอัดของการใส่หูฟังด้วยการใช้เสียงรอบตัว สำหรับคนที่ไม่ได้เปิด ANC ครับ
- Find My Earbuds บังคับให้หูฟังที่อยู่นอกกล่องส่งเสียงออกมา เพื่อตามหาหูฟัง
- อัปเดตเฟิร์มแวร์ของหูฟัง
คุณภาพเสียงของ Samsung Galaxy Buds Live
มาถึงประเด็นใหญ่ที่หลายคนสนใจเกี่ยวกับหูฟังรุ่นนี้กันบ้างคือ ดีไซน์แปลกไม่เหมือนใครแบบนี้ แล้วคุณภาพเสียงเป็นยังไงบ้าง ซึ่งเราเทสต์กับการปรับ EQ แบบ Normal นะครับ
- เสียงต่ำ แน่นมาก เบสมาเต็มจนแปลกใจว่าหูฟังที่ไม่มีจุกยางอุดรูหูสามารถให้เบสได้อิ่มขนาดนี้เลยเหรอ
- เสียงกลาง ฟังง่าย แต่ลงลึกรายละเอียดยาก จากการกวนของเบส
- เสียงสูง เสียงเคลียร์ แต่ไม่ได้ใสปิ๊ง
ส่วนระบบ ANC หรือ Active Noise Cancellation นั้นก็ทำงานได้ดีระดับหนึ่งครับ สามารถลดเสียงรบกวนแบบเสียงความถี่ต่ำ เสียงฮัมของเครื่องยนต์ หรือเสียงกวนระหว่างเดินทางได้ดี (ตามสเปกคือลดเสียงกวนที่ความถี่ต่ำกว่า 700 MHz ได้ 97%) แต่ด้วยการออกแบบหูฟังที่ไม่มีจุกยางปิดเสียงจากภายนอกเลย ทำให้มีคุณสมบัติ Passive Noise Cancellation ต่ำ คือถ้าเป็นเสียงพูดคุยรอบข้างจะผ่านเข้ามาในหูได้ค่อนข้างชัดเจน ทำให้ไม่เหมาะเท่าไหร่สำหรับคนที่ฟังเพลงเพื่อต้องการสมาธิ แบบที่ตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกครับ
Samsung Galaxy Buds Live เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 ผ่าน Codec เสียง 3 ตัวคือ SBC, AAC และรูปแบบพิเศษที่เรียกว่า Scalable ของซัมซุงเองครับ ซึ่งรูปแบบสุดท้ายนี้จะปรับ Bitrate ในการส่งสัญญาณตั้งแต่ 96-512 kbps ทำให้ฟังเพลงเสียงไม่มีสะดุด แม้อยู่ในพื้นที่ที่มีคลื่นรบกวนเยอะครับ แต่ก็จะใช้ดีที่สุดกับสมาร์ตโฟนของซัมซุงเองที่รองรับ Scalable ครับ ส่วนถ้าเอาไปใช้กับมือถือทั่วไปหรือ iPhone ก็จะเลือกใช้ AAC เพื่อให้เสียงที่ดี
ส่วนเรื่องความ Lag ของเสียง ถ้าเป็นการฟังเพลง หรือดูวิดีโอ ดูคลิปต่างๆ เสียงจะไม่มี Lag นะครับ เสียงออกตรงปากตลอด แต่ถ้าเอาไปเล่นเกม (เราเทสต์กับ Genshin Impact บน Samsung Galaxy S20 FE) ก็ให้เสียง Lag กว่าภาพพอสมควรครับ
โดยรวมแล้วถือว่า Samsung ทำงานร่วมกับ AKG ในการจูนเสียงของหูฟังตัวนี้ออกมาได้ดีเลยครับ ตัวไดรฟ์เวอร์ขนาด 12 มม. ก็ให้เสียงเหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ชอบฟังเพลง และคนที่ชอบเสียงเบส (แต่เราก็ยังปรับแนวเสียงได้จาก EQ อยู่ดีนะ) ฟังแล้วก็น่าจะชอบเสียงได้ไม่ยาก แต่สำหรับนักฟังเพลงจริงจัง ที่ตั้งใจฟังรายละเอียดเสียงเพลงจริง ๆ จะยังมีปัญหาเรื่องเสียงเบสกวนย่านอื่น ๆ และเสียงรบกวนจากรอบข้างเข้ามาครับ
คุณภาพไมโครโฟน
Samsung Galaxy Buds Live เป็นหูฟังแบบ True Wireless ที่มีไมค์ดีที่สุดของซัมซุงแล้วครับ โดยประกอบด้วยไมค์ถึง 3 ตัว แบ่งเป็นไมค์ภายนอก 2 ตัว และด้านในอีก 1 ตัว เพื่อรับเสียงพูดและหักล้างเสียงรบกวนภายนอก พร้อมเทคโนโลยี Voice Pickup Unit หรือ VPU ที่ซัมซุงอธิบายว่าหูฟังจะรับรู้การสั่นสะเทือนของขากรรไกรเพื่อนำมาร่วมวิเคราะห์สัญญาณเสียงพูด และตัดเสียงรบกวนออกไป ทำให้ได้เสียงพูดที่ชัดขึ้น
โดยเราทดสอบผ่านการคุยโทรศัพท์ปกติและการคุยผ่าน LINE Call ปลายสายก็ไม่มีการทักให้พูดซ้ำ นอกจากนี้สำหรับการใช้งานร่วมกับมือถือ Samsung Galaxy รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Note 20 Series ก็สามารถใช้ Galaxy Buds Live เป็นไมโครโฟนให้กับการถ่ายวิดีโอได้อย่างดี สามารถให้พิธีกรใส่หูฟังและพูดใส่วิดีโอได้เลยครับ
เราสามารถใช้งานหูฟังรุ่นนี้ข้างเดียวได้นะครับ จะเสียบใช้ข้างไหนก็ได้ด้วย ถนัดใช้งานหูซ้ายหรือหูขวา ก็หยิบหูฟังข้างนั้นมาใส่ได้เลย โดยการใส่หูฟังข้างเดียวนั้นเหมาะสำหรับใช้คุยโทรศัพท์ เพราะถ้าคุยโทรศัพท์ด้วยหูฟัง 2 ข้างจะรู้สึกอึดอัด แต่ Samsung Galaxy Buds Live นั้นไม่มีความสามารถ MultiPoint ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ 2 ตัวพร้อมๆ กันเข้ากับหูฟังได้นะครับ ต้องเชื่อมต่อแบบ 1 ต่อ 1 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าคำว่าไมโครโฟนดีในที่นี้ ไม่ใช่ระดับที่เอาเทียบกับไมโครโฟนระดับมืออาชีพที่ทำขึ้นมาใช้รับเสียงพูดโดยเฉพาะได้นะครับ แต่ดีพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันครับ
อายุแบตเตอรี่
ตามสเปกแล้ว Samsung Galaxy Buds Live สามารถใช้งานแบบปิด ANC ได้ต่อเนื่องได้นานสุด 8 ชั่วโมง รวมกับเคสเป็น 29 ชั่วโมง ส่วนถ้าเปิด ANC จะใช้นานสุด 6 ชั่วโมง รวมกับเคสเป็น 21 ชั่วโมงครับ ซึ่งระยะเวลาในการใช้งานขนาดนี้ก็นานพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วครับ เอาจริงๆ เราก็ยังไม่เคยใช้งานจนแบตเตอรี่หมด เพราะฟังเพลงต่อเนื่องไปได้ 2-3 ชั่วโมงก็เก็บหูฟังลงกล่อง แล้วใช้ครั้งต่อไปมันก็ชาร์จจนหูฟังเต็มพร้อมใช้แล้วครับ ซึ่งซัมซุงเคลมว่าชาร์จด่วน ๆ แค่ 5 นาที ก็ใช้งานได้ 1 ชั่วโมงแล้ว นอกจากนี้การที่มันรองรับการชาร์จไร้สายด้วยก็ทำให้การชาร์จสะดวกขึ้นมากครับ
Samsung Galaxy Buds Live คุ้มค่าหรือไม่
Samsung Galaxy Buds Live เปิดตัวด้วยราคา 6,990 บาทนะครับ ถือเป็นราคาระดับกลางของหูฟังแบบ True Wireless ในยุคนี้ที่มีคู่แข่งเยอะมากในท้องตลาด ราคานี้คุณจะได้เสียงที่ฟังสนุก การออกแบบที่ไม่เหมือนใคร กล่องเล็กด้วย แถมสามารถปรับแต่งได้มากมาย ใช้ได้ทั้ง Android และ iOS แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่สนใจรายละเอียดในเสียงเพลงมากๆ รวมถึงคนที่ต้องการใช้งานแบบเงียบสงัด แบบตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกไปเลยครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส