นับตั้งแต่ที่วิดีโอเกมถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกเพื่อสร้างความสนุกให้กับทุกคน ก็มีเครื่องเกมต่าง ๆ ออกมาอย่างมากมายเพื่อแข่งขัน ซึ่งตลาดนี้เรียกว่าแข่งขันหักเหลี่ยมกันอย่างดุเดือด และนอกจากเครื่องเกมและเกมต่าง ๆ ที่ออกมาขายแล้ว ยังมีตลาดอีกประเภทที่หลายคนลืมคิดไป นั่นคือตลาดของอุปกรณ์เสริมให้กับเครื่องเกมต่าง ๆ ที่ตั้งแต่อดีตก็มีอุปกรณ์เสริมแปลก ๆ ออกมาอย่างมากมาย วันนี้เราเลยไปค้นหาอุปกรณ์เสริมแปลก ๆ ที่น่าสนใจนำเสนอ ทั้งแบบเกมเก่าไปจนถึงเกมใหม่ ๆ เพื่อให้ใครที่กำลังหาของเก่ามาสะสมจะได้รู้ว่ามีอุปกรณ์อะไรที่น่าเก็บ ส่วนเด็ก ๆ รุ่นใหม่จะได้รู้ว่าในอดีตนั้นเคยมีอุปกรณ์แปลก ๆ อะไรเกิดขึ้นมาบ้าง และตอนนี้มีอุปกรณ์อะไรที่น่าสนใจที่ควรหามาเล่น ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูไปพร้อมกันเลย
The Power Glove
เริ่มต้นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่เด็กหนวดในยุค 80s ถึง 90s ต่างอยากได้มาสวมเพื่อใช้เล่นเกม กับถุงมือจอมพลัง ‘The Power Glove’ หรือตัวควบคุมเกมในรูปแบบถุงมือ ที่ในยุคนั้นเราจะได้เห็นถุงมือนี้จากในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Wizard’ ที่ฉายในปี 1989 ที่ในเรื่องนั้นเราจะเห็นตัวร้ายใช้ถุงมือ ‘The Power Glove’ ในการควบคุมเกม ที่แค่ขยับมือเพียงเล็กน้อยก็สามารถควบคุมเกมต่าง ๆ ได้ ซึ่งสร้างความอยากได้ให้เด็กในยุคนั้นที่ฝันอยากจะมีถุงมือจอมพลังที่ควบคุมเกมแบบนี้ได้ และฝันนั้นก็เป็นจริงเมื่อทาง ‘Nintendo’ ผลิตถุงมือนี้ออกมา แต่สิ่งที่ตามมาคือการควบคุมที่แย่และทำตามแบบภาพยนตร์ไม่ได้ แถมมีเกมที่รองรับถุงมือเพียงไม่กี่เกม จนสุดท้ายมันก็กลายเป็นของเล่นที่มีคนไปซื้อมาแต่สุดท้ายก็ทิ้ง จนมันมีมากมายในตลาด ใครสนใจก็ลองไปตามหาตามตลาดมือสองรับรองว่าต้องเจอแน่นอน
The SEGA Activator
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถขยับท่าทางต่าง ๆ ในเกมได้โดยที่ไม่ต้องมานั่งกดตัวควบคุมเกมให้เสียเวลา ยิ่งในเกมต่อสู้เราสามารถขยับท่าทางได้เองที่แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ‘The SEGA Activator’ ตัวควบคุมเกมจาก ‘Sega’ ที่จะมาในรูปแบบของแท่งทรงกลมรอบตัวเรา ที่เมื่อเราขยับท่าทางต่าง ๆ ตัวละครในเกมก็จะทำตาม เรียกว่าล้ำสมัยเกินยุคจริง ๆ เพราะในยุคนี้ที่มีระบบที่ทันสมัยแล้วยังไม่สามารถควบคุมแบบนี้ได้ แต่ในยุคนั้นสามารถทำได้แล้ว แต่มันก็เป็นเพียงแค่คำโฆษณาที่เกินจริงเท่านั้น เพราะเอาจริง ๆ เราไม่สามารถขยับท่าทางในวงกลมนี้แล้วตัวละครจะทำตามได้ แต่มันเป็นเพียงการขยับขาไปยังแท่นด้านล่าง เพื่อให้เซนเซอร์อ่านค่าที่แทนการกดปุ่มเท่านั้น แถมระบบเซนเซอร์ก็แย่โยกไปก็ไม่ติด และมีเกมรองรับไม่มาก แต่นั่นก็คือหนึ่งในอุปกรณ์สุดล้ำที่วงการเกมเคยมีมา
Boktai Solar Boy Django
ขยับมาที่ยุคกลางในวงการเกมกันบ้าง กับอุปกรณ์กึ่งเกมที่น่าสนใจจนเราอยากหยิบมานำเสนอ นั่นคือเกม ‘Boktai Solar Boy Django’ หรือ ‘Boktai The Sun Is in Your Hand’ ในชื่อภาษาอังกฤษ ที่เป็นเกมบนเครื่อง ‘Game Boy Advance’ ซึ่งการเล่นก็ตรงชื่อเกมที่หมายถึง “ดวงอาทิตย์อยู่ในมือของคุณ” เพราะเราต้องเล่นเกมนี้กลางแดดแสงอาทิตย์จริง ๆ เพราะเราจะได้รับบทเป็นนักล่าแวมไพร์ที่ต้องใช้ปืนแสงอาทิตย์เป็นพลังงานในการยิงปืน ซึ่งเราจ้องไปยืนกลางแดดตอนเล่น เพราะตัวตลับจะมีแผ่นรับแสงที่ถ้าเราจะหลอกว่าหลอดไฟคือแสงอาทิตย์ก็ไม่สามารถทำได้ สรุปคือเกมนี้เราต้องเล่นแค่ตอนกลางวันหรือกลางแดด ไม่อย่างนั้นปืนเราจะไม่มีพลังและพวกแวมไพร์ก็จะแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งความคิดเรื่องอุปกรณ์แปลก ๆ แบบนี้ก็มาจากท่านมหาเทพแห่งวงการเกมอย่าง ฮิเดโอะ โคจิมะ (Hideo Kojima) นั่นเอง ใครที่อยากรับประสบการณ์ตากแดดตอนเล่นก็ไปจัดกันได้ ซึ่งเกมนี้ออกมาถึง 4 ภาคด้วยกัน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรเลย
Solid Eye Tobidacid
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ของท่านเทพโคจิม่า กับการพยายามนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ในวงการเกม กับการทำเกมให้กลายเป็น 3D บนเครื่อง ‘PlayStation Portable’ หรือ ‘PSP’ กับอุปกณ์ล้ำสมัยที่เรียกว่า ‘Solid Eye Tobidacid’ ที่เป็นกล่องกระดาษแข็ง ที่เมื่อเราประกอบเรียบร้อยก็จะได้แว่นตาขนาดใหญ่สวมทับเครื่อง ‘PSP’ ตามรูปประกอบ ทีนี้เราก็จะเห็นทุกอย่างในเกมนี้ผ่านแว่นตาเป็น 3D นูนออกมา ซึ่งต่างกับเครื่อง ‘Nintendo 3Ds’ ที่จะนูนลึกลงไป ตัวเกมถูกพัฒนามาพร้อมกับเกม ‘Metal Gear Ac!d 2’ กับโหมดการเล่นพิเศษที่มีเฉพาะเกมนี้ ซึ่งนี่คือหนึ่งในความพยายามของคนสร้างเกมในยุคนั้นที่อยากสร้างภาพ 3D ออกมาจากจอ จนทาง ‘Nintendo’ ทำสำเร็จแต่มันก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคนเล่นมากนัก ใครที่อยากเล่นเกมในโหมดแบบนี้ก็เตรียมคอเคล็ดกันได้ แต่รับรองว่าประสบการณ์กล่นเกมของคุณจะเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเล่นเกมนี้
AlphaGrip AG-5
เอาใจชาว ‘PC’ กันบ้างกับ Handheld Keyboard and Mouse อย่าง ‘AlphaGrip AG-5’ ที่เรียกว่าเป็นทุกอย่างสำหรับคนเล่นเกมและใช้งานคอมพิวเตอร์ เพราะบนตัวควบคุมนั้นจะมีปุ่มตัวอักษรที่มีบนคอมพิวเตอร์มาให้ทุกตัว เพื่อให้เราสามารถใช้งานตัวควบคุมนี้ประหนึ่งแป้นพิมพ์ได้เลย (แต่ต้องฝึกใช้ให้เป็นก่อน) ตัวเครื่องถูกสร้างมาเพื่อเอาใจคนที่เบื่อการนั่งกดแป้นพิมพ์ หรือคนเล่นเกมที่อยากหาความท้าทายใหม่ ๆ มาเล่น ที่เห็นแบบนี้ตัวเครื่องถูกทำออกมาขายจริง ๆ ใครที่สนใจอาจจะหายากนิดหน่อย ถ้าใช้แล้วเอามาเล่นเกมคงสนุกไม่น้อย
Pocket Station
เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักหรือเคยจับเคยเห็นกันมาบ้าง กับอุปกรณ์พกพาล้ำสมัยที่เกิดขึ้นในยุค‘PlayStation 1’ อย่าง ‘Pocket Station’ เกมพกพาขนาดจิ๋วที่เป็นกึ่งตัวบันทึกเกมที่เราเรียกว่า ‘Memory Card’ แต่เจ้า ‘Pocket Station’ จะล้ำสมัยกว่าตัวบันทึกเกมธรรมดา เพราะเราสามารถเชื่อมต่อเกมต่าง ๆ ที่รองรับกับระบบเข้าไปในเครื่อง ‘Pocket Station’ เพื่อเล่น Mini Game ต่าง ๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเกม ‘Street Fighter Zero 3’ ที่เป็นการนำตัวละครที่เราชอบมาเล่นเกมในเครื่อง ‘Super Robot Wars Alpha’ ที่เอาหุ่นของเรามาฝึกเพื่อพัฒนาความสามารถ ก่อนจะเอากลับเข้าไปในเกม ‘Tokimeki Memorial 2’ ที่เป็นการพาสาวที่ตัวเองชอบไปตามสถานที่ต่าง ๆ ‘Crash Bandicoot 3 Warped’ ที่เราจะพาเจ้าหนูพุกไปเล่นเกมต่างในเครื่อง ‘Final Fantasy VIII’ เกมเลี้ยงเจ้านกเหลือง ที่รวมแล้วก็มีเกมที่รองรับนับร้อยเกมเลยทีเดียว ซึ่งข้อเสียของเจ้า ‘Pocket Station’ คือมันจอเล็กและดูไม่ค่อยมีประโยชน์กับการเล่นเกมเสียเท่าใดนัก ใครสนใจก็ไปหาซื้อมาเก็บเป็นความทรงจำได้ตามตลาดมือสอง
Game Boy Camera
ย้อนกลับไปในอดีตสมัยที่โทรศัพท์มือถือยังไม่สามารถถ่ายรูปได้ การถ่ายรูปเป็นอย่างที่ยุ่งยากและใช้เวลาในการรอคอยเพื่อจะเห็นรูป ต่างกับสมัยนี้ที่เราสามารถถ่ายรูปทุกอย่างแล้วดูได้เลย เมื่อเป็นแบบนั้นทาง ‘Nintendo’ จึงคิดค้นกล้องถ่ายรูปที่เราสามารถโหลดรูปออกมาได้เลย ไม่ต้องไปรอล้างรูปให้เสียเวลากับ ‘Game Boy Camera’ อุปกรณ์สุดล้ำที่เราจะมีกล้องเสียบเข้าไปบนเครื่อง ‘Game Boy’ แล้วก็ถ่ายรูปตามที่เราต้องการ แต่รูปที่ออกมาจะเป็นขาวดำและถ่ายได้เฉพาะหน้าคน ที่เราสามารถนำรูปที่ถ่ายให้ออกมาเป็นกระดาษผ่านอุปกรณ์พิเศษอีกตัวที่ขายแยก ซึ่งความพิเศษของ ‘Game Boy Camera’ คือเราสามารถแต่งรูปได้ตามที่ต้องการ จะเอาให้ดูตลกหรือดูหลอนก็ได้ตามใจเรา และที่ดูล้ำสุด ๆ ก็คือเราสามารถเอาหน้าคนที่ถ่ายมาเล่นมินิเกมต่าง ๆ ได้ด้วย นับเป็นอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยมาก ๆ ในยุคนั้น
Actually Useful Worm Light
เชื่อว่าหลายคนที่ได้มาเห็นเจ้าไส้เดือนเรืองแสงอย่าง ‘Actually Useful Worm Light’ คงจะขำแล้วถามว่ามันดูล้ำสมัยตรงไหน มันก็แค่หลอดไฟที่ติดบนเครื่องเกม ที่ยุคนี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไปราคาไม่กี่บาท แต่ถ้าเราย้อนกลับไปในสมัยเครื่อง ‘Game Boy’ ตั้งแต่อดีตนั้น ตัวเกมมันไม่มีแสงสว่างที่หน้าจอเหมือนเกมพกพาสมัยนี้ การเล่นจึงต้องหันหลังให้แสงและเล่นในที่แสงน้อยไม่ได้เลย จนมีคนผลิตหลอดไฟที่ใช้พลังงานจากตัวเครื่องอย่าง ‘Actually Useful Worm Light’ ขึ้นมา ซึ่งในยุคนั้นมันคืออุปกรณ์ที่ล้ำสมัยเกินกว่าใครจะคิดได้ ทีนี้เราก็สามารถพกเครื่องเกมไปเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาได้จริง ๆ แถมมันยังพกพาง่ายไม่เกะกะเมื่อเทียบกับอุปกรณ์อื่นที่ทำมา ซึ่งถ้าใครทันในยุคเครื่อง ‘Game Boy Advance’ เราจะได้เห็นเจ้าตัวนี้วางขายทั่วสะพานเหล็กมาแล้ว
Guitar Hero On Tour Grip Controller
ยังอยู่ที่เครื่องเกมพกพากับอุปกรณ์เสริมบนเครื่อง ‘Nintendo DS’ อย่าง ‘Guitar Hero On Tour Grip Controller’ อุปกรณ์ที่จะให้เราเล่นเกม ‘Guitar Hero’ ได้สนุกขึ้นกว่าใช้ปากกาจิ้ม กับปุ่มสีที่เป็นเหมือนปุ่มบนตัวควบคุมรูปทรงกีต้าร์ไฟฟ้าแบบเครื่องหลัก พร้อมกับปากกา Stylus ในรูปแบบปิ๊กกีตาร์มาให้เราเพื่อความสนุกมากยิ่งขึ้น ตอนเล่นก็ใส่หูฟังเปิดเสียงดัง ๆ รับรองว่าสนุกไม่หนวกหูและกินพื้นที่ในบ้านอย่างแน่นอน
Nintendo Labo
ไปอุปกรณ์ยุคเก่าเสียเยอะแล้วมาที่อุปกรณ์เสริมใหม่ ๆ กันบ้างกับ ‘Nintendo Labo’ อุปกรณ์เสริมที่มาในรูปแบบของการดาษลัง ที่เราต้องเอามาประกอบเองเพื่อเล่นควบคู่กับเครื่อง ‘Nintendo Switch’ ที่มีเกมออกมารองรับมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมตกปลา เกมเปียโน เกมขับรถที่มีตั้งแต่ของชิ้นเล็ก ๆ ราคาไม่กี่บาทไปจนถึงของชิ้นใหญ่อย่าง ‘Toy Con 02 Robot Kit’ (รูปประกอบด้านล้าง) ที่จะเป็นชุดเกราะสวมใส่ให้พร้อมเกมที่ออกมารองรับเพื่อเอาใจเด็ก ๆ ที่จนถึงตอนนี้ก็ออกมาแล้วมากมายหลายเกม และถ้าคุณกลัวว่ามันเป็นกระดาษแล้วจะพังง่ายก็สบายใจได้ เพราะตัว ‘Nintendo Labo’ ใช้กระดาษอย่างแข็งที่ทนทานเป็นพิเศษไม่พังง่าย ๆ แน่นอน ใครที่อยากหาเกมสนุก ๆ ให้เด็ก ๆ เล่น ‘Nintendo Labo’ คือคำตอบ ตัวเกมหาซื้อได้ทั่วไปทั้งมือ 1 มือ 2 ใครมี ‘Nintendo Switch’ ก็ไปหามาเล่นดูรับรองว่าต้องชอบ
Eye Toy Play
มาดูอุปกรณ์เสริมสุดล้ำบนเครื่อง ‘PlayStation 2’ กันบ้าง กับการเอาตัวเราเองไปอยู่ในเกมแบบทั้งตัว แถมเรายังสามารถขยับท่าทางเพื่อตอบโต้กับสิ่งต่าง ๆ ในเกมได้ด้วย กับอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า ‘Eye Toy Play’ ที่จะเป็นกล้องพร้อมแผ่นเกมที่จะต่อเข้าเครื่อง ‘PlayStation 2’ เพื่อเล่นมินิเกมต่าง ๆ อย่างเกมเช็ดกระจกที่เราจะต้องปัดมือไปมาเพื่อเช็ดคราบเปื้อนบนกระจกให้หมดตามเวลาที่กำหนด หรือเกมชกมวยที่เราต้องออกหมัดด้วยตัวเอง โดยตัวเรานั่นละที่ต้องไปอยู่ในเกม จะทำท่าหรือเล่นแบบไหนก็ได้ตามใจเรา นับว่าเป็นอะไรที่ล้ำสมัยมาก ๆ ในตอนนั้น ตัวอุปกรณ์แม้จะมีเกมรองรับไม่มากแต่ก็มากพอที่จะให้เราเล่นสนุกกับมินิเกมที่มีได้ไม่ยาก ใครที่สนใจก็ไปหาเครื่องหาเกมมาเล่นกับเด็ก ๆ ก็น่าสนุกใช้ได้เลยทีเดียว
Handy Boy
ปิดท้ายกับความยิ่งใหญ่ระดับตำนานของเครื่อง ‘Game Boy’ กับอุปกรณ์เสริมสุดล้ำที่ในยุคนั้นใครที่มีครบเครื่องแบบนี้จะดูเป็นซูเนโอะมาก ๆ กับ ‘Handy Boy’ ชุดอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มการเล่นเกมให้น่าสนุกยิ่งขึ้น โดยในชุดนี้จะประกอบไปด้วยไฟและแว่นขยาย เพื่อเพิ่มการมองเห็นในที่มืด และขยายจอให้ใหญ่ขึ้น ลำโพงซ้ายขวาที่ช่วยเพิ่มเสียงในเกมให้ดังสะใจ ปุ่มกดที่จะเป็นแบบคันโยกเพื่อความสวยงาม (แต่กดยาก) โดยทั้งหมดนี้จะมีพลังงานของตัวเองไม่ได้เอามาจากตัวเครื่อง ‘Game Boy’ (ใส่ถ่านต่างหาก) ข้อดีคือความเท่ที่เมื่อเอาออกไปเล่นนอกบ้านทุกคนจะหันมามอง แถมยังได้ฝึกกล้ามเนื้อแขนไปในตัว เพราะทั้งหมดที่กล่าวมานั้นหนักเกือบกิโลเลยทีเดียว และทั้งหมดไม่ได้ขายยกชุดแต่จะแยกขายเป็นส่วน ใครที่อยากได้ก็ไปหามาสะสมดู รับรองว่าคนที่เห็นต่างต้องอยากได้แบบคุณแน่นอน
ก็จบกันไปแล้วกับอุปกรณ์สุดล้ำในวงการเกมทั้งเก่าและใหม่ที่เราหยิบยกมานำเสนอ หวังว่าจะถูกใจสายสะสม หรือคนที่ต้องการอยากทราบว่าในอดีตนั้นมีอุปกรณ์เกมแปลก ๆ อะไรบ้าง ซึ่งสิ่งที่เราหยิบมานำเสนอนั้นเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น ยังมีอุปกรณ์แปลก ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเอาไว้มีโอกาสเราจะเอามาให้ชม และถ้าใครมีอุปกรณ์เกมแปลก ๆ ที่สะสมอยู่ก็เอามาให้ดูกันได้ ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส