สมัยนี้ดูหนังที่บ้านก็ได้อารมณ์เหมือนดูหนังในโรงเลยนะคะ ถ้ามีหนังดีๆ ก็ไม่ต้องออกจากบ้านแล้ว สำหรับคนที่ไม่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีมากนักอย่างผึ้ง ตอนแรกก็ไม่เข้าใจนะคะว่าทีวี OLED ดีกว่าทีวี LCD ที่ใช้กันปกติยังไง ทีมงานเลยบอกว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ให้มาดูภาพจาก LG OLED TV 65B8 ขนาด 65 นิ้วตัวนี้เลย สรุป พอได้เห็นภาพจริง ภาพดีกว่าทีวีที่เคยดูมามากๆ สีสันสดใส การเคลื่อนไหวนุ่มนวล ส่วนมืดในภาพก็ดูดำสนิท เหมือนภาพลอยออกมาจากจอได้ นั่นก็เพราะชิปประมวลผล Alpha 7 (อัลฟ่าเซ่เว่น) ตัวใหม่ของ LG ที่ช่วยปรับภาพให้น่าดูมากค่ะ พอรวมกับดีไซน์แบบ Cinema Screen ที่ขอบจอบางเฉียบเท่ากันทั้ง 4 ด้าน ก็ทำให้ภาพสวยเด่นขึ้นมาอีก เอาเป็นว่าใครดูสเปคทีวีแล้วยังงงๆ ดูของจริงเลยดีกว่าค่ะ ให้เห็นกับตาว่าทีวี OLED ดีกว่าทีวีทั่วไปมากจริงๆ
LG OLED TV 65B8 รองรับการแสดงผลภาพแบบ 4K HDR ทุกรูปแบบ รวมถึง Dolby Vision และระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะพูดกันว่า จอดีไปก็เท่านั้น จะหาเนื้อหาคุณภาพสูงมาชมได้จากไหน แต่ไม่ใช่ในยุคนี้แล้วค่ะ เพราะสมัยนี้ที่ใครๆ ก็ดู Netflix เนี่ยเราสามารถสตรีมหนัง 4K และ HDR มาดูได้ถึงบ้าน เรื่องที่ผึ้งอยากแนะนำให้ดูกันก็ Stranger Things 2 เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์เด่นของ Netflix ที่เซ็ตติ้งของเรื่องอยู่ยุค 80s กับการผจญภัยของแก็ง 4 สหายที่เรียกว่าซวยก็ได้ เลยเข้าไปยุ่งกับเรื่องลึกลับในเมือง Hawkins กับ Eleven เด็กสาวลึกลับ ซึ่ง Stranger Things 2 แสดงภาพในโหมด Dolby Vision HDR ทำให้เก็บรายละเอียดของภาพมาแสดงได้อย่างดี ดูบนจอ LG OLED TV 65B8 นี่ยิ่งลุ้นกว่าเดิม
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ Bright ค่ะ เรื่องนี้แฟนๆ Will Smith กับคอหนังแอคชั่นต้องชอบ เมื่อวิล สมิธ ต้องเข้าไปแก้ไขความตึงเครียดที่จะเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ ใน LA เรื่องนี้จัดเต็มทั้งภาพแบบ 4K Dolby Vision HDR และระบบเสียง Dolby Atmos สร้างความกระหึ่มให้ฉากแอคชั่นด้วยลำโพง 40 Watt ของ LG OLED TV 65B8 และจะยิ่งได้อรรสรถเพิ่มขึ้นถ้ามี Soundbar ที่รองรับ Dolby Atmos มาต่อเพิ่มค่ะ
ซึ่ง LG OLED TV 65B8 ก็เป็นหนึ่งในทีวีที่ Netflix แนะนำประจำปี 2018 ค่ะ บนรีโมทจึงมีปุ่ม Netflix ให้เรียกใช้ง่ายๆ และการันตีคุณภาพได้เลยทั้งด้านอรรถรสการรับชมและความสะดวกในการใช้งาน
ไม่ใช่แค่ Netflix นะคะที่เรียกใช้ได้ง่ายๆ บนทีวีเครื่องนี้ ทีวีของ LG ใช้งานได้อีกหลากหลาย เช่นฟังเพลงจาก Spotify ดูคลิปจาก Youtube ก็ลงแอปเพิ่มแล้วเรียกใช้จากหน้าจอได้เลย นอกจากนี้ LG OLED TV 65B8 ยังรองรับ ThinQ AI สั่งงานด้วยเสียงภาษาอังกฤษได้ด้วยนะคะ จะหาเนื้อหา หรือควบคุมเครื่องอย่างเพิ่ม-ลดเสียงก็สั่งผ่าน Magic Remote ได้เลย
OLED TV ยังเป็นเทคโนโลยีสุดยอดของโลกทีวีในตอนนี้ด้วยนะคะ ราคาจึงอยู่ในหมวดท็อปอยู่ โดย LG OLED TV 65B8 ขนาด 65 นิ้วตัวนี้ราคาเปิดตัวที่ 119,990 บาท (แต่ภาพมันดีมากเลยนะ อยากได้ๆ)
และตอนนี้ LG ร่วมกับ Netflix จัดโปรโมชั่น “COME CLOSER TO THE SHOWS YOU LOVE” ทีวี LG OLED (โอเลต) และทีวี SUPER UHD (ซุปเปอร์ ยูเฮชดีทีวี) ได้รับสิทธิ์ดู Netflix แพ็กเกจ 4K ไปยาวๆ 6 เดือน มูลค่ากว่า 2,500 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น ใครกำลังเล็งทีวีใหม่ รีบด่วนก่อนหมดโปรนะคะ