Heat ภาพยนตร์แอ็กชันที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งของฮอลลีวูด ทั้งด้านความเข้มข้นของเนื้อหา ทีมนักแสดงที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด และฉากสาดกระสุนกลางถนนที่สมจริงที่สุดทั้งด้านภาพและเทคนิคการบันทึกเสียง ถึงวันนี้ Heat ก็ผ่านมา 27 ปีแล้ว แต่หนังก็ยังคงถูกเอ่ยถึงอยู่เนือง ๆ จัดว่าเป็นงานมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ ไมเคิล มานน์ (Michael Mann) ซึ่งส่งอิทธิพลต่อหนังแอ็กชันทั่วโลกตราบจนทุกวันนี้
เทศกาลภาพยนตร์ Tribeca Festival ในปีนี้ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 – 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็มีโปรแกรมพิเศษที่มีการพูดคุยถึง Heat ด้วยเช่นกัน โดยเจ้าภาพก็คือ โรเบิร์ต เดอนิโร (Robert De Niro) ผู้ก่อตั้งเทศกาลภาพยนตร์นี้เอง ได้ขึ้นเวทีเสวนาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พร้อมกับแขกคนสำคัญ นั่นก็คือ อัล ปาชิโน (Al Pachino) ที่มานั่งร่วมวงพูดคุยย้อนอดีตในวันที่ทั้งคู่ได้ร่วมกันแสดงนำในหนังอมตะเรื่องนี้ ซึ่งในวันนั้นทั้งคู่ถือว่าเป็นนักแสดงอันดับต้น ๆ ของฮอลลีวูด การได้ทั้งคู่มาร่วมแสดงในหนังเรื่องเดียวกันนั้น นับว่าเป็นปรากฏการณ์พิเศษเลยก็ว่าได้
หนึ่งในคำถามที่น่าสนใจ ที่พิธีกรถามกับ อัล ปาชิโน ในงานนี้ก็คือ ถ้า Heat ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ ในความเห็นของปาชิโนนั้น นักแสดงคนไหนเหมาะสมที่สุดที่จะมารับบทเป็น หมวดวินเซนต์ ฮันนา (Vincent Hanna) ตัวละครของเขาใน Heat ปาชิโนก็ตอบคำถามนี้ทันใดเหมือนมีชื่ออยู่ในใจแล้วว่า
“ทิโมธี ชาลาเมต์ ครับ เขาเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม แล้วก็ดูดีมาก”
ทิโมธี ชาลาเมต์ เป็นนักแสดงหนุ่มวัย 27 ปี เขาเกิดในปี 1995 ปีเดียวกันกับที่ Heat ออกฉายนั่นล่ะ เป็นนักแสดงมากฝีมือ ที่ได้รับการยอมรับนับถือทั้งจากผู้กำกับแถวหน้า และบรรดาผู้ชม เขาเป็นที่รู้จักจากหนัง Call Me by Your Name (2017) ซึ่งเขาได้ฝากบทบาทการแสดงจนเป็นที่ยอมรับกันถ้วนหน้า ส่งให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แม้ว่จะพลาดไป แต่หลังจากนั้นเขาก็มีงานแสดงต่อเนื่องอย่างไม่ขาดสาย ทั้ง Lady Bird, Little Women, Beautiful Boy และได้รับบทนำใน Dune หนังไซไฟฟอร์มใหญ่ ที่เราจะได้ดูภาคต่อกันในปีหน้านี้ และในปีหน้านี้ เราจะได้เห็นเขาใน Wonka หนังที่เล่าเรื่องราวของ วิลลี วองก้า ก่อนจะมาเป็นเจ้าของโรงานผลิตช็อกโกแลตใน Charlie and the Chocolate Factory ด้วยฝีมือการแสดงอันเป็นที่ยอมรับกันทั้งวงการนี่ล่ะ ปาชิโนก็เป็นคนหนึ่งที่เล็งหันศักยภาพของชาเลเมต์เช่นกัน
ย้อนมาที่ตัวหนัง Heat หนังแอ็กชันในดวงใจของหลาย ๆ คน และแฟน ๆ ส่วนหนึ่งก็คาดหวังว่าหนังน่าจะมีภาคต่อ แต่ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วล่ะ ว่าผ่านมา 27 ปีแล้ว บรรดานักแสดงก็สูงวัยหมดแล้ว หนังไม่น่าจะมีภาคต่อให้เห็นแล้วล่ะ ก็เป็นจริงตามนั้น เราจะไม่ได้เห็นเรื่องราวภาตต่อของ Heat บนจอภาพยนตร์หรือจอทีวี แต่เราจะได้เห็นภาคต่อของ Heat เป็นตัวหนังสือแทน โดยตัวผู้กำกับ ไมเคิล มานน์ ที่เป็นเจ้าของเรื่องราวด้วยนั้น ได้ร่วมมือกับ เม็ก การ์ดิเนอร์ (Meg Gardiner) นักเขียนมือระดับรางวัล ให้มาสานต่อเรื่องราวของ Heat ออกมาในรูปแบบนิยาย ที่จะเล่าเหตุการณ์ทั้งก่อนหน้าและตามหลังเรื่องราวในภาพยนตร์ โดยมานน์เป็นคนเล่าเนื้อหาใจความหลัก ๆ ให้การดิเนอร์ฟังแล้วผู้เขียนฟัง แฟน ๆ หนังคาดหวังอยากจะเห็นอะไรเกี่ยวกับบรรดาตัวละครในหนัง ซึ่งจะรวมไปถึงเรื่องราวที่มาที่ไปของ วินเซนต์ ฮันนา และ นีล แม็กคอลีย์
“มันเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของผมมาตั้งนานแล้ว ที่อยากจะสานต่อเรื่องราวของ Heat เพราะมันมีเรื่องราวความเป็นมาอีกมากที่อยากเล่า รวมไปถึงที่มาที่ไปของแต่ละคนก่อนจะมาเจอกันในหนัง แล้วชีวิตของแต่ละคนเป็นอย่างไรหลังจากเหตุการณ์ในหนัง”
“ตอนที่ผมเขียนบทหนังเรื่องนี้ ผมจำเป็นต้องสร้างสรรค์เรื่องราวของชีวิตแต่ละคนขึ้นมาเสียก่อน ผมจำเป็นต้องรู้จักตัวละครของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้ง ชีวิตช่วงต้น ๆ ของ นีล แม็กคอลีย์ ตอนที่เขาขาดการติดต่อกับน้องชาย แล้วหันมาเดินสายอาชญากรบนถนน ในวัยที่เขายังเป็นหนุ่มเลือดร้อน ขึ้โมโห และเป็นตัวอันตราย ในนิยายจะลงลึกเรื่องราวดราม่าต่าง ๆ ในชีวิตของแม็กคอลีย์ ที่ทำให้เขาต้องมาเป็นอาชญากรหากินบนท้องถนน และทำให้เขายึดถือคติว่าจะไม่ยึดติดกับสิ่งใด ๆ อย่าให้มีอะไรมามีอิทธิพลต่อชีวิต สามารถเดินออกมาได้อย่างอิสระภายใน 30 วินาที”
ไมเคิล มานน์ กล่าวถึงนิยาย Heat 2 ที่จะวางแผงในวันที่ 9 สิงหาคมนี้