กล้องนิคอน วัน V3 ให้ภาพสวยงามตื่นตาในอัตราความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วที่สุดในโลก
กล้องความละเอียด 18.4 ล้านพิกเซล ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก อัดแน่นด้วยคุณสมบัติอันทรงพลัง
ให้ภาพสวยโดดเด่นพร้อมความเร็วในการถ่ายภาพที่เหนือชั้นกว่า
บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกล้องนิคอน วัน V3 ใหม่ ซึ่งผสมผสาน ความเร็วในการถ่ายภาพที่เหนือชั้นด้วยขีดความสามารถในการจับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างคมชัดและสวยงาม พร้อมระบบออโต้โฟกัส (AF) แบบ phase-detect ที่ให้ความแม่นยำสูง
นิคอน วัน V3 พัฒนาต่อยอดมาจากกล้องในตระกูลนิคอนวันที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดและใช้งานง่าย แต่ยังคงคุณภาพที่เป็นเยี่ยมของภาพถ่าย พกพาสะดวกและใช้งานได้อย่างคล่องตัว นิคอน วัน V3 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ และคุณสมบัติเดิมที่ได้รับการปรับปรุง เช่น ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วที่สุดในโลก1 ประมาณ 20 เฟรมต่อวินาที (fps) พร้อมออโต้โฟกัส (AF) ซึ่งเหนือกว่าคุณสมบัติของกล้อง ดิจิตอล เอสแอลอาร์บางรุ่น รวมถึงจุดโฟกัสถึง 105 จุดเมื่อใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบ phase-detect และ 171 จุดเมื่อใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบ contrast-detect ให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเมื่อติดตามจับภาพวัตถุเป้าหมายที่กำลังเคลื่อนไหว
นิคอน วัน V3 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวในระดับที่เทียบเท่าขีดความสามารถที่ได้จากกล้องดิจิตอล เอสแอลอาร์ ให้ภาพที่สวยงามโดดเด่น ด้วยระบบประมวลผลภาพ EXPEED 4A ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลความเร็วสูง พร้อมค่า ISO ตั้งแต่ 160 ถึง 12,800
“นิคอน วัน V3 ใหม่ ได้รับการออกแบบมาสำหรับช่างภาพที่ต้องการจับภาพนิ่งและถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพด้วยความเร็วสูง ระบบออโต้โฟกัสติดตามวัตถุที่น่าทึ่งให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเลิศสำหรับการจับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว ในขณะเดียวกันก็ให้ค่าโฟกัสที่คมชัดด้วยผลลัพธ์ที่เกินกว่ากล้อง D-SLR ระดับมืออาชีพหลายรุ่น” นายทัตสึยะ ยามากูจิ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “นอกจากนี้ กล้องนิคอน วัน V3 ยังอัดแน่นด้วยนวัตกรรมมากมายที่เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับกล้องรุ่นนี้ ซึ่งได้แก่ หน้าจอแบบปรับมุมได้ (vari-angle) ระบบสัมผัส และระบบการควบคุมที่ผู้ใช้กล้องดิจิตอล เอสแอลอาร์ คุ้นเคยอยู่แล้ว จึงเป็นกล้องรุ่นที่น่าสนใจสำหรับใช้เป็นกล้องตัวหลักหรือตัวรอง”
นอกจากนี้ เซ็นเซอร์รับภาพ CMOS แบบ CX ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ความละเอียด 18.4 ล้านพิกเซล พร้อมค่าความไวแสงที่สามารถตั้งค่าได้ตั้งแต่ 160 ถึง 6400 (ขยายได้ถึง 12,800) ไม่เพียงเท่านั้น เซ็นเซอร์รับภาพใหม่นี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหว Full HD 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที หรือวิดีโอแบบ slow-motion ความละเอียด 720/30p ที่ 120 เฟรมต่อวินาที กล้อง นิคอน วัน V3 เป็นรุ่นแรกในตระกูลนิคอนวันที่มีหน้าจอสัมผัสที่ผู้ใช้สามารถถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ได้ง่ายด้วยเพียงปลายนิ้ว และระบบปฏิบัติการที่ผู้ใช้กล้องดิจิตอล เอสแอลอาร์ คุ้นเคยดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแบบปรับมุมได้ที่ช่วยให้ผู้ใช้จับภาพที่สวยงามได้จากหลากหลายมุมมองและตำแหน่ง พร้อม Wi-Fi® และโหมดการปรับแต่งภาพในตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้รังสรรค์ภาพสวยงามได้มากขึ้น และแชร์ภาพให้เพื่อนๆ และคนในครอบครัวได้อย่างง่ายดายผ่านสมาร์ทโฟน
นอกจากกล้องนิคอน วัน V3 แล้ว นิคอน ยังได้เปิดตัวเลนส์แบบ CX ใหม่พร้อมกันสองรุ่น เพื่อช่วยให้ช่างภาพจับภาพได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ได้แก่ เลนส์ซูมปกติและเลนส์ super-telephoto ที่เล็กและเบาที่สุดในโลก2 ครอบคลุมมุมมองกว้างเทียบเท่า 810 มม. (รูปแบบ 35 มม.)
คุณสมบัติหลักของกล้องนิคอน วัน V3
1. ประสิทธิภาพความเร็วสูง
- จุดโฟกัสหนาแน่นถึง 171 จุดเพื่อความแม่นยำ: กล้องนิคอน วัน V3 ช่วยให้ช่างภาพสามารถจับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างสวยงามโดดเด่น ด้วยระบบออโต้โฟกัส (AF) แบบ phase-detect ได้ภาพวัตถุเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำผ่านจุดโฟกัส 105 จุดด้วยระบบออโต้โฟกัส (AF) แบบ phase-detect และ 171 จุดด้วยระบบออโต้โฟกัสแบบ contrast-detect เพื่อให้มั่นใจได้ว่าภาพถ่ายจะมีความคมชัดเสมอ
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วที่สุดในโลก1: กล้อง นิคอน วัน V3 มาพร้อมอัตราความเร็วในการ ถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วที่สุดในโลก1 จึงเหมาะสำหรับการจับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่น ภาพการแข่งขันกีฬาหรือภาพชีวิตสัตว์ป่า โดยเมื่อใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ การถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงในอัตราประมาณ 20 เฟรมต่อวินาทีช่วยให้กล้องนิคอน วัน V3 สามารถจับภาพได้สูงสุดถึง 40 ภาพภายในเวลาประมาณสองวินาที และเมื่อใช้ชัตเตอร์แบบกลไกจะสามารถจับภาพได้สูงสุดถึง 50 ภาพ ภายในเวลาประมาณ 8 วินาทีที่อัตราความเร็วประมาณ 6 เฟรมต่อวินาที
- ช่วงหน่วงเวลาในการถ่ายภาพสั้นที่สุดในโลก3: นิคอนได้ลดความหน่วงของเวลาในการถ่ายภาพ (shooting time lag) ลง ช่วยให้ช่างภาพลงมือถ่ายภาพที่ต้องการได้ทันทีโดยไม่พลาดโอกาสสำคัญ
2. การประมวลผลที่เหนือชั้นกว่าเพื่อให้ได้ภาพนิ่งและวิดีโอที่สวยงาม
- เทคโนโลยีเปี่ยมประสิทธิภาพ: เซ็นเซอร์รับภาพแบบ CX ที่นิคอนพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นแบบที่ไม่มี low-pass filter ให้ความละเอียด 18.4 ล้านพิกเซล ผสานกับระบบประมวลผล EXPEED 4A เพื่อการสร้างสรรค์ภาพนิ่งและวิดีโอที่ยอดเยี่ยม
- ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งในทุกสภาพแวดล้อม: ช่วง ISO ที่ตั้งค่าได้ถึง 12,800 พร้อมระบบลดสัญญาณรบกวนเมื่อตั้งค่า ISO สูง ด้วยประสิทธิภาพของระบบประมวลผล EXPEED 4A ซึ่งช่วยให้ภาพคมชัดและปราศจากสัญญาณรบกวนแม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถจับภาพที่สวยงามน่าประทับใจที่ค่าความไวแสงสูงๆ โดยใช้ฟังก์ชั่นลดสัญญาณรบกวน ซึ่งช่วยให้กล้องสามารถถ่ายภาพหลายๆ ภาพแล้วรวมเป็นภาพเดียวได้
- ภาพวิดีโอที่โดดเด่น: กล้องนิคอน วัน V3 สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ Full-HD ที่ความละเอียด 1920 x 1080/60p ยาวนานถึงประมาณ 10 นาที นอกจากนั้น ฟังก์ชั่นลดการสั่นไหวอิเล็กทรอนิกส์ยังช่วยลดผลกระทบจากการสั่นของกล้องเพื่อให้ภาพวิดีโอที่คมชัดสว่างใส แม้บันทึกในขณะเคลื่อนไหว
3. ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดเพื่อจับภาพที่สมบูรณ์แบบทุกครั้ง
- มีฟังก์ชั่นแสดงระดับการเอียงกล้อง: กล้องนิคอน วัน V3 เป็นกล้องรุ่นแรกจากตระกูลนิคอน วัน ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น virtual horizon (ฟังก์ชั่นแสดงระดับการเอียงกล้อง) ที่สามารถแสดงผลได้ทั้งในหน้าจอ live view หรือช่องมองภาพ (viewfinder) โดยมีขีดความสามารถในการตรวจสอบกล้องกรณีเอียงกล้อง ไม่ว่าจะเป็นหน้าหรือหลัง ซ้ายหรือขวา โดยระบบนี้จะทำงานทั้งในโหมดแนวตั้ง (portrait) และแนวนอน (landscape) คุณสมบัตินี้โดยทั่วไปจะมีเฉพาะในกล้องดิจิตอล เอสแอลอาร์ และเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการวางกรอบภาพภูมิทัศน์ (landscape) สถาปัตยกรรม (architecture) และวัตถุที่อยู่นิ่ง
- ระบบควบคุมและหน้าจอที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม: หน้าจอแอลซีดีที่เพรียวบางมาพร้อมกลไกที่เอื้อต่อการปรับมุมช่วยให้สามารถหมุนกล้องลงได้ประมาณ 87 องศาสำหรับการถ่ายภาพมุมสูง และเงยขึ้นประมาณ 170 องศาสำหรับการถ่ายภาพมุมต่ำ นอกจากนี้ยังมีการจัดวางปุ่มบนหน้าจอที่คล้ายกับในกล้องดิจิตอล เอสแอลอาร์ นอกจากนี้ ปุ่มหมุนเลือกเมนูคำสั่งหลักที่ด้านหลังของตัวกล้องและปุ่มหมุนเลือกเมนูคำสั่งย่อยที่ด้านหน้าของกล้องช่วยให้ผู้ที่เคยใช้กล้องดิจิตอล เอสแอลอาร์ สามารถประยุกต์ใช้และปรับการตั้งค่า เช่น ความเร็วชัตเตอร์ ได้อย่างคุ้นเคย
- ควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส: ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าการใช้งานที่ใช้บ่อยไว้ที่ปุ่มฟังก์ชั่นสองปุ่มของกล้อง และค่าการใช้งานที่สามไว้ใน GR-N1010 Grip (อุปกรณ์เสริม) ซึ่งบทบาทของปุ่มฟังก์ชั่นแต่ละปุ่มเหล่านี้สามารถเลือกได้จากตัวเลือก 7 ตัวเลือก ได้แก่ ค่าการชดเชยแสง (exposure compensation), ระบบการควบคุมภาพ (Picture Control) ค่าสมดุลแสงสีขาว (white balance), โหมด AF-area, ระบบวัดแสง, ค่าความไวแสง (ISO sensitivity) หรือระบบ บันทึกภาพเคลื่อนไหว (movie recording)
- ฟังก์ชั่นไฮไลท์ ช่วยสร้างสรรค์ภาพที่สมบูรณ์แบบ: เมื่อเรียกดูภาพผ่านหน้าจอ สามารถใช้ตัวเลือกไฮไลท์ในการระบุพื้นที่ใดๆ ที่ไม่สมบูรณ์ เช่น อาจสว่างมากเกินไป คุณสมบัตินี้ช่วยให้ ช่างภาพสามารถระบุพื้นที่ในภาพส่วนที่ควรแก้ไข จากนั้นทำการปรับการตั้งค่ากล้อง และจับภาพอีกครั้ง
- ขยายขอบเขตการจับภาพได้ไม่จำกัด: กล้องนิคอนวัน V3 นอกจากการใช้กับเลนส์ 1 NIKKOR ที่มีให้เลือกหลากหลาย ยังสามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ NIKKOR แบบ F-mount ผ่าน FT1 Mount Adapter ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มตัวเลือกในการใช้เลนส์ ทั้งยังเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ใช้กล้อง D-SLR อยู่ นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมอย่างช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ภายนอกที่เป็นวงกลม (DF- N1000) และ Grip (GR- N1010)
เลนส์ซูมที่อัดแน่นด้วยหลากหลายคุณสมบัติเพื่อเติมเต็มประสิทธิภาพของกล้องนิคอนวัน V3
- ใช้ประโยชน์ได้ในหลากหลายสถานการณ์: เลนส์ 1 NIKKOR VR 10 – 30 มม. f/3.5-5.6 PD- ZOOM เป็นเลนส์แบบ CX ชนิดบาง ซูม 3 เท่า แบบปกติ ครอบคลุมมุมกว้าง 10 – 30 มม. ของความยาวโฟกัส (มุมมองเทียบเท่ากับกล้องฟอร์แมท 35 มม. ที่ครอบคลุม 27 – 81 มม.) เลนส์รุ่นนี้มีอัตราขยายสูงสุด 0.55 เท่า (เทียบเท่าฟอร์แมท 35 มม.) และระยะโฟกัสใกล้สุด 20 ซม. จึงใช้ประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพในหลากหลายสถานการณ์ได้อย่างคล่องตัว
- เปี่ยมประสิทธิภาพ แต่น้ำหนักเบา: เลนส์ 1 NIKKOR VR 10-30มม. f/3.5-5.6 PD- ZOOM มีขนาดประมาณ 58 มม. (เส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุด) x 28 มม.4 และน้ำหนักเพียง 85 กรัม นับเป็นเลนส์ซูมระบบ power-drive ที่เบาที่สุดในโลก5 โดยยังคงรักษาคุณลักษณะที่บางเบา และพกพาสะดวกของกล้องนิคอน วัน V3 ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้เมื่อไม่ได้ใช้งาน เลนส์จะมีกลไกในการหดกลับ จึงมั่นใจได้ว่ามีขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับการจัดเก็บ
- ติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก: เลนส์รุ่นใหม่นี้เป็นเลนส์ชนิดถอดเปลี่ยนได้รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับซูมระบบ power-drive ที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า จึงไม่จำเป็นต้องใช้ฝาครอบเลนส์ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำฝาครอบเลนส์หายหรือวางผิดที่ขณะถ่ายภาพกลางแจ้ง และช่วยให้ง่ายต่อการตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ
- สร้างสรรค์วิดีโอคมชัดไร้ที่ติ: เลนส์ตระกูล 1 NIKKOR ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายเป็นหลัก และซูมระบบ power-drive ที่ใช้พลังไฟฟ้า เหมาะสำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีวงแหวนปรับกำลังซูมเพื่อให้เลนส์ทำงานได้คล้ายกับเลนส์ชนิดถอดเปลี่ยนได้มากขึ้นสำหรับช่างภาพที่ไม่ชอบการพึ่งพามอเตอร์ทั้งหมดในการซูมเข้าหาวัตถุ
เลนส์ชนิดซุปเปอร์ เทเลโฟโต้ให้ภาพสวยเมื่อถ่ายภาพจากระยะไกล
- ขนาดกะทัดรัด แต่ทรงพลัง: เลนส์ 1 NIKKOR VR 70 – 300 มม. f/4.5-5.6 ใหม่ เป็นเลนส์ซูมชนิดซุปเปอร์เทเลโฟโต้ ที่มีขนาดเล็กและเบาที่สุดในโลก2 เลนส์แบบ CX รุ่นนี้มีความยาวโฟกัสตั้งแต่ 70 – 300 มม. ซึ่งเทียบเท่ากับเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสประมาณ 189 – 810 มม. ในรูปแบบ 35 มม.
- ติดตั้งได้เร็วขึ้นสำหรับสถานการณ์ที่ยากต่อการจับภาพ: เป็นเลนส์ 1 NIKKOR รุ่นแรกที่มาพร้อมสวิทช์จำกัดโฟกัส เพื่อให้ระบบ AF ทำงานได้เร็วขึ้น โดยจำกัดเฉพาะช่วงของออโต้โฟกัสที่ไปทางเทเลโฟโต้ เท่านั้น นวัตกรรมนี้เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการจับภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในระยะไกล หรือเมื่อวัตถุเคลื่อนออกจากพื้นที่โฟกัสโดยไม่ตั้งใจ ขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันไม่ให้ภาพหลุดออกจากโฟกัส คุณสมบัตินี้สะดวกอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพการแข่งขันกีฬา ซึ่งระยะห่างจากวัตถุมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากช่วยให้การวางกรอบภาพง่ายขึ้น ส่วนมุมมองที่แคบมากๆ ช่วยให้ซูมได้เต็มพลังและบีบอัดภาพได้หลายรูปแบบ ในขณะที่ช่วงความชัดจะเน้นเรื่องวัตถุเป้าหมายหลักที่มีโบเก้ (bokeh) ที่สวยงาม เพื่อดึงดูดความสนใจมาสู่วัตถุนั้นมากขึ้น
- ความสมบูรณ์แบบในการพกพา: เช่นเดียวกับเลนส์ 1 NIKKOR VR 10- 30 มม. f/3.5-5.6 PD- ZOOM เลนส์ชนิดซุปเปอร์ เทเลโฟโต้รุ่นนี้มาพร้อมกลไกหดกลับของเลนส์เมื่อไม่ได้ใช้งานเพื่อให้ง่ายต่อการพกพาและการจัดเก็บ โดยมีน้ำหนักประมาณ 550 กรัม เบาพอที่จะพกพาไปชมการแข่งขันกีฬา หรือเพื่อการถ่ายภาพธรรมชาติและสัตว์ป่า
- ให้ภาพถ่ายคุณภาพเหนือชั้น: อีกคุณสมบัติที่มีเป็นครั้งแรกสำหรับเลนส์ 1 NIKKOR รุ่นนี้ คือ เลนส์ VR 70-300 มม. f/4.5-5.6 มาชิ้นเลนส์ Super ED ซึ่งมีเฉพาะในเลนส์ NIKKOR เพื่อลดความคลาดสีให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และให้ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีการโค้ดผิวแบบนาโนคริสตัล เทคโนโลยีที่ถือกำเนิดจากความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของนิคอน ซึ่งช่วยลดแสงแฟลร์และแสงโกสต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังให้ภาพที่มีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย
ที่มา: Nikon ประเทศไทย