สำหรับคอหนังซูเปอร์ฮีโร การได้เห็นซูเปอร์ฮีโรจากเรื่องอื่นโผล่มาเซอร์ไพรส์ในหนังซูเปอร์ฮีโรอีกเรื่อง นับเป็นภาพบนจอที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ทั้ง DC และ Marvel ก็รู้ว่าผู้ชมชอบที่จะเห็นอะไรแบบนี้ในหนัง จึงทำให้เกิดหนังเหตุการณ์ครอสโอเวอร์บ่อย ๆ ในจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร และก่อให้เกิดหนังรวมดาวซูเปอร์ฮีโรอย่าง Avengers และ Justice League ขึ้นมา ถ้ามองย้อนไป เราอาจจะสังเกตได้ว่า ฝั่งมาร์เวลเริ่มคิดถึงเรื่องหนังรวมเหล่าซูเปอร์ฮีโรมาตั้งแต่ Iron Man (2008) แล้ว ด้วยการส่ง นิค ฟิวรี่ ไปโผล่ในตอนท้าย แล้วก็ส่ง โทนี่ สตาร์ค ไปโผล่ใน Incredible Hulk (2008) แต่รู้หรือไม่ครับ DC ก็มีไอเดียแบบนี้เหมือนกัน แต่เผอิญว่า ไอเดียแบบนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบจากผู้บริหาร เราก็เลยอดเห็นกัน

และไอเดียที่ว่านี้ก็เคยจะเกิดขึ้นกับหนังที่ DC และ ไรอัน เรย์โนลด์ อยากจะลืม ๆ มันไปซะ ใช่ครับเรื่องนั้นคือ Green Lantern (2011) หนังคว่ำจนเป็นตราบาปของ DC นั่นแหละ

มาร์ก กุกเก็นไฮม์ (Marc Guggenheim)

ผู้ที่เปิดเผยเรื่องนี้ออกมาก็คือ มาร์ก กุกเก็นไฮม์ (Marc Guggenheim) ผู้เขียนบท Green Lantern และทีวีซีรีส์อย่าง Arrow, Legends of Tomorrow กุกเก็นไฮม์เคยให้สัมภาษณ์กับ MTV ในช่วงที่เดินสายโปรโมต Green Lantern เพราะกำลังจะเข้าฉาย เขาเล่าว่าในบทร่างแรก ๆ ที่เขาเขียนนั้น ได้ใส่ซูเปอร์แมนลงไปด้วย ในฉากที่องค์กร “กรีน แลนเทิร์น” จากต่างดาว ตามหาตัวแทนบนโลกมนุษย์ที่จะมารับมอบแหวนจากพวกเขา แล้วรับหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ไปต่อสู้กับ วายร้าย Parallax ในฉากนี้ซูเปอร์แมนจะเป็นผู้หนึ่งที่มาขอเข้าร่วมคัดเลือกเป็นผู้รับมอบแหวนกับเขาด้วย

“คุณเองก็อาจจะเจอบท Green Lantern ที่หลุดไปบนอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ๆ เลยนะ ฉากที่ซูเปอร์แมนโผล่มาก็อยู่ในบทที่หลุดไปนั่นด้วยแหละ แต่สุดท้ายฉากนี้ก็ถูกตัดทิ้ง ปัญหาหลักก็คือทุนสร้าง เราตัดมันออกไปในร่างหลัง ๆ”
“การที่จะมี คลาร์ก เคนต์ โผล่มานั้น มันเกือบเป็นจริงแล้ว และยังคงอยู่ในใจผมมาตลอด ผมนี่อยากให้มีฉากนี้ในหนังอย่างมาก คุณเองก็คาดเดาไม่ถูกหรอก มันเกือบเป็นไปได้แล้ว ถ้า ทอม เวลลิง มีเวลาให้เราสัก 1 – 2 ชั่วโมง”
(ทอม เวลลิงส์ คือผู้สวมบทบาทเป็น Superman ในซีรีส์ Smallville)

ในวันที่ เฮนรี่ คาวิลล์ ยังไม่เป็นซูเปอร์แมน ถ้าเอ่ยถึงซูเปอร์แมน ก็คือคนนี้ ทอม เวลลิง

อีกกระแสหนึ่งก็บอกว่า เหตุที่ตัดซูเปอร์แมนออกไปจากบทรับเชิญ ก็เพราะทาง DC มั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่าแค่ชื่อ Green Lantern และ ไรอัน เรย์โนลด์ บวกกับชื่อของ มาร์ติน แคมป์เบล ผู้กำกับ หนังก็ต้องฮิตเป็นแน่ โดยไม่ต้องเปลืองงบด้วยการใส่ซูเปอร์แมนเพิ่มเข้าไปอีก เพราะแค่นี้หนังก็ใช้ทุนสร้างไปตั้ง 200 ล้านเหรียญแล้ว ยังไม่รวมงบในการประชาสัมพันธ์อีก นับว่าสูงพอดูเมื่อ 10 ปีก่อนนั้น ผลสุดท้ายหนังทำเงินไปได้แค่ 219 ล้านเหรียญ

ที่มา