ปัญหาแบตเตอรี่หมดไวของ Apple Device ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ iPad ดูจะเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ไม่ตกซะที แม้ว่า Apple จะออก iOS 7.1 มาใหม่แล้วก็ตาม แต่ใช่ว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข
ซึ่งเจ้า iOS 7.1 ที่ออกมาใหม่นี้ ได้ปรับปรุง feature ใหม่ๆ เช่น Keyboard หรือ พวก UI และยังปรับปรุงให้มีการใช้งานเครื่องและแอพฯได้เร็วขึ้นพร้อมทั้งยังแก้ไขปัญหาพวก bug สำคัญๆด้วย แต่ ปัญหาเรื่องแบตฯหมดไวยังคงเป็นปัญหาใหญ่อยู่เหมือนเดิม
โดยทาง Ars Technica พบว่า แม้ iOS 7.1 จะถูกทำการทดสอบโดยผู้พัฒนาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2013 ที่ผ่านมาก่อนที่จะเปิดให้มีการ update ในวันที่ 10 มีนาคม 2014 ซึ่งหมายถึง iOS 7.1 นี้ ผ่านการทดสอบมากว่า 5 เดือน แต่ทำไมถึงไม่มีใครพูดถึงประเด็นเรื่องแบตฯหมดไวและทำการแก้ไขมัน?
จากข้อมูลของ Ars Technica จะเห็นว่า Apple Device ที่ใช้ iOS 7.1 มีความเป็นไปได้ที่แบตฯจะหมดเร็วกว่า iOS ตัวก่อน (iOS 7.0.6)
ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีมุขตลกร้ายของฝรั่งที่พูดว่า ” iPhone, iPad battery draining faster on iOS 7.1? You’re not alone ” หรือประมาณว่าคุณไม่ใช่คนเดียวแน่ๆที่ประสบปัญหาแบตฯหมดไว ยินดีด้วยนะครับ คุณมีเพื่อนเยอะแยะเลย
ซึ่ง You’re not alone จริงๆครับ เมื่อผู้ใช้งาน iOS 7.1 เริ่มจะบ่นและร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาแบตฯหมดไวออกสื่อ twitter เป็นจำนวนมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหามีไว้แก้ ซึ่งคาดว่าน่าจะพอช่วยได้ โดยทาง website GottaBeMobile ได้ลองเสนอวิธีแก้ไขมาดังนี้
เพื่อให้ได้ผล คุณจะต้องทำการ Reset All Setting นี่เป็นวิธีแก้ไขโดยที่คุณไม่ต้องทำ Full reset และลงเครื่องใหม่ ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหามีขั้นตอนดังนี้
- เข้าที่ Setting
- เข้า General
- เลื่อนลงมาและเข้าที่ Reset
- เลือก Reset All Settings
- ใส่ passcode เข้าเครื่อง
หลังจากนั้นอุปกรณ์ของคุณจะทำการ reboot และล้างค่า setting ต่างๆ แต่content ในเครื่อง เช่น แอพพลิเคชั่น, รูปถ่ายและอื่นๆจะไม่ถูกลบออกไป แต่ถ้าวิธีนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ อยากให้่ลองทำการ full reset โดยทำการ set iPhone เหมือนลงเครื่องใหม่ตั้งแต่แรก (ไม่ใช่การ restore จาก back up นะครับ ลงใหม่เลย) ซึ่งวิธีการก็จะเหมือนกับขั้นตอนที่บอกมา แต่ในขั้นตอนที่ 4 ให้เลือกที่ Erase All Content and Settings ซึ่งมันจะทำการล้างทุกอย่างออกจากเครื่องหมดเกลี้ยง (แนะนำให้ backup ก่อนจะทำวิธีนี้นะครับ)
เชื่อว่าทาง Apple เองก็น่าจะตั้งหน้าตั้งตาแก้ไขปัญหานี้อยู่ ซึ่งปัญหานี้อาจจะหมดไปจากการ update iOS ตัวต่อไปก็เป็นได้
ที่มา : 9to5mac | zdnet | GottaBeMobile | Ars Technica