เรียกว่าเป็นผลสืบเนื่องอย่างฉับพลันหลังการเข้ามานั่งแท่นของ เจมส์ กันน์ (James Gunn) ผู้กำกับภาพยนตร์มือทอง และ ปีเตอร์ ซาฟราน (Peter Safran) โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ที่เข้ามารับหน้าที่เป็นผู้บริหารดูแลคอนเทนต์ภายใต้จักรวาลของ DC ให้กับวอร์เนอร์ บราเธอส์ ดิสคัฟเวอรี (Warner Bros. Discovery) โดยจะแบ่งให้กันน์ทำงานมุ่งเน้นไปที่งานด้านการสร้างสรรค์ ส่วนซาฟรานจะรับหน้าที่ดูแลงานด้านธุรกิจ
การเข้ามาของทั้งคู่นั้นเป็นไปตามนโยบายของ เดวิด ซาสลาฟ (David Zaslav) ซีอีโอของ Warner Bros. Discovery ที่ต้องการจะจัดระเบียบจักรวาลภาคขยายของ DC (DC Extended Universe) หรือ DCEU ให้มีแนวทางที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น รวมทั้งการค้นหาตัวผู้บริหารที่จะมาทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ แบบเดียวกับที่ เควิน ไฟกี (Kevin Feige) บริหาร Marvel Studios และสร้างจักรวาลมาร์เวล หรือ Marvel Cinematic Universe (MCU) จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
ผลสืบเนื่องอย่างแรกของการที่กันน์และซาฟรานเข้ามาบริหารก็คือ การเปลี่ยนชื่อแผนกจาก DC Films ไปเป็น DC Studios ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ วอลเตอร์ ฮามาดะ (Walter Hamada) ผู้บริหารของ DC Films เดิมได้ประกาศถอนตัวออกไป อันเป็นผลจากที่ฮามาดะมีนโยบายที่จะรื้อแนวทางแบบจักรวาลของสไนเดอร์ (Snyderverse) หรือแนวทางที่ผู้กำกับ แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder) วางเอาไว้ตั้งแต่หนัง ‘Man of Steel’ (2013) และการไม่ให้เฮนรี คาวิลล์ กลับมาเป็นซูเปอร์แมน (Superman) แต่สุดท้ายนโยบายของเขาก็ไม่เป็นผล
ผลสืบเนื่องที่ตามมาอีกอย่างก็คือ การที่ DC Studios ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดว่า นับจากนี้จะมีการเรียกชื่อจักรวาลภาพยนตร์ของ DC ใหม่อย่างเป็นทางการว่า ‘DC Universe’ หรือใช้ตัวย่อว่า DCU โดยแถลงการณ์ที่ ไมเคิล เดอ ลูกา (Michael De Luca) และ พาเมลา แอบดี (Pamela Abdy) ประธานบริหารแผนกภาพยนตร์ของ Warner Bros. Pictures ได้กล่าวว่า
“เรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ เจมส์ กันน์ (James Gunn) และ ปีเตอร์ ซาฟราน มาเข้าร่วมทีม และรับตำแหน่งผู้นำของ DC Universe โดย DC นั้นมีตัวละครที่สนุกสนาน ทรงพลัง และเป็นที่จดจำมากที่สุดในโลก พวกเราตื่นเต้นมากที่เจมส์และปีเตอร์ ผู้มีความสามารถพิเศษไม่เหมือนใครมาร่วมงานกับทีมงานระดับโลกของเรา และดูแลทิศทางที่สร้างสรรค์ของจักรวาล DC ที่มีเรื่องราวอยู่มากมาย”
และ เดวิด ซาสลาฟ (David Zaslav) ซีอีโอของ Warner Bros. Discovery ได้กล่าวเพิ่มเติมในแถลงการณ์ฉบับเดียวกันว่า “จากประสบการณ์ยาวนานหลายทศวรรษในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชุมชนของเหล่านักสร้างสรรค์ และผลงานที่พิสูจน์แล้วจากเหล่าแฟนซูเปอร์ฮีโรทั่วโลก ทำให้พวกเขามีคุณสมบัติในการพัฒนากลยุทธ์ระยะยาวทั้งในภาพยนตร์ โทรทัศน์ และแอนิเมชัน และนำแฟรนไชส์อันโด่งดังนี้ก้าวไปอีกขั้นของการเล่าเรื่องอย่างสร้างสรรค์”
ซึ่งถือว่าเป็นที่ชัดเจนว่า ณ ต่อไปนี้ Warner Bros. Discovery เองต้องการที่จะมีชื่อเรียกจักรวาลหนังของ DC ใหม่อย่างเป็นทางการ และเป็นของตัวเองว่า ‘DC Universe’ หรือ DCU ที่วางไว้ว่าจะเข้ามาแทนที่ DCEU หรือ DC Extended Universe ที่จริง ๆ แล้วนั้นไม่ได้เป็นชื่อที่ถูกใช้กันเป็นการภายใน และไม่ใช่คำที่ถูกบัญญัติขึ้นอย่างเป็นทางการจากทาง Warner Bros. หรือ DC แต่อย่างใด
แต่ที่มาของ DCEU นั้นมาจากช่วงปี 2015 ในระหว่างที่กำลังโปรโมต ‘Batman v Superman: Dawn of Justice’ (2016) โดยคนแรกที่ใช้คำนี้ก็คือ คีธ สตาสกีวิซ (Keith Staskiewicz) นักเขียนของนิตยสาร Entertainment Weekly ที่ได้ใช้คำว่า DC Extended Universe ในเชิงยั่วล้อกับ Marvel Cinematic Universe ของฝั่ง Marvel ในบทความของเขา เพื่ออธิบายความพยายามของ DC ในการรวมเรื่องราวของตัวเองให้เป็นจักรวาลเดียวกัน จนกระทั่งคำว่า DC Extended Universe และ DCEU ได้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในสื่อและแฟนหนังอย่างรวดเร็ว และหลายส่วนก็เข้าใจว่าเป็นคำที่ถูกใช้เรียกอย่างเป็นทางการ
จนกระทั่งในปี 2017 อับราฮัม ริสแมน (Abraham Riesman) นักเขียนจากเว็บไซต์ Vulture ได้ออกมาเปิดเผยจากการสอบถามพนักงานใน Warner Bros. ว่า คำว่า DC Extended Universe และ DCEU นั้นไม่ได้ถูกใช้อย่างเป็นทางการ และไม่มีการใช้กันเป็นการภายในองค์กรแต่อย่างใด และถึงแม้ว่าจะมีหลาย ๆ คำที่ใช้เรียกจักรวาลของ DC ที่เกิดขึ้นมาภายหลังทั้งคำว่า จักรวาลจัสติซ ลีก (Justice League Universe) หรือ โลกของดีซี (Worlds of DC) แต่ก็ไม่มีคำไหนที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายไปมากกว่าคำว่า DCEU
ซึ่งในอนาคตคงต้องรอดูกันว่า คำว่า ‘DC Universe’ หรือ DCU จะถูกประชาสัมพันธ์จักรวาลใหม่นี้มากน้อยแค่ไหน และแฟน ๆ จะน้อมรับเอาคำนี้มาใช้แทนคำว่า DCEU ที่ติดปากมาอย่างยาวนานนับสิบ ๆ ปีได้หรือไม่
ที่มา: Comicbook, The Hollywood Reporter
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส