ผมทำไม่ได้…แต่เขา “ทำได้”

หนุ่ยรู้โลกรู้ #88

ผมทำไม่ได้…แต่เขา “ทำได้” #HollywoodHD ปรบมือให้เขาและอุดหนุนเขากันครับ 

2 ปีก่อนผมฝักใฝ่เรื่องหนึ่งมากเป็นพิเศษครับนั้นคือ “การสร้างบริการ Streaming” หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ “เช่าหนังผ่านเน็ต” ผมฝักใฝ่ในระดับหมกมุ่นเลยล่ะ! ทำ R&D เอง, ทำดีไซน์ Device เอง(ถึงกับได้รับรางวัล DEmark ของกระทรวงพาณิชย์มาแล้วด้วยนะคร้าบนั่น) ทำกับเพื่อนเกลอกลุ่มหนึ่งที่ฝันเห็นโลกอนาคตในแบบเดียวกัน จำได้ดีว่าเคยเขียนเนื้อหาใน “หนุ่ยรู้โลกรู้” นี่แหละเล่าถึงอนาคตของโลกบันเทิงให้เห็นเป็นฉากๆและฟันธงไว้ว่า “แผ่นสูญพันธุ์แน่” ฉะนั้นการสร้าง Library รวมภาพยนตร์,รายการทีวี,ละคร ฯลฯ​ มากองไว้ให้ผู้ชมสามารถกระแทกลิงค์เข้าสู่คลังมาสูบไปชมได้ เป็นสิ่งที่ผมเชื่อมั่นมากๆว่า “เกิดแน่” ท่ามกลางสภาวการณ์อินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นเรื่อยๆเอื้อต่อการดาวน์โหลดไฟล์หนักๆใหญ่ๆ บริการ “วิดีโอไร้แผ่น” น่าจะเกิดได้ ดังจะได้เห็นโศกนาฏกรรมร้านเช่าวิดีโอที่บูมในโลกยุค 90 ทยอยปิดตัวลงแบบวูบวาบน่าใจหาย Blockbuster เจ๊ง, Tsutaya ม้วนเสื่อ, แมงป่องลดขนาด (แมงป่องกำลังผละไปสู่ธุรกิจขาย Gadget ในนาม “Gizman” เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เร็วๆนี้) และอีกมากมายหลายร้านที่หายเข้ากลีบเฆมไป (คิดถึงร้าน “นิวหนวด” เหมือนกันนะครับ ไม่รู้เฮียหนวดยังสบายดีไหม?)

ที่มาของภาพ: thairath

คนเปลี่ยนแปลงโลกบันเทิงฉบับ Home Video อย่างจริงจัง ต้องยกให้ NetFlix และ iTunes ณ Apple ครับ แต่นั่นก็เป็นบริการที่ทรงอิทธิพลในซีกโลกตะวันตกและประเทศเจริญแล้วในเอเซียที่เค้าเคารพทรัพย์สินทางปัญญาอย่างกว้างขวาง ตลาดปราบเซียนที่สุดคงเป็น “สยามประเทศ” ของเรานี่แหละครับ ประเทศที่วงการเพลงพังเพราะอินเทอร์เน็ตเร็วพอที่จะโหลดไฟล์เพลงในหลักวินาที ค่ายเพลงก็มัวแต่งุ่มง่ามคิดจะสร้างแพลตฟอร์มขายเอง สุดท้าย iTunes จาก Apple นี่แหละครับคือคำตอบ “คลังที่ใหญ่พอ” จะทำให้ผู้ใช้ไม่ลังเลที่จะเข้าไปอุดหนุน …Apple เปิด iTunes Store ให้ประเทศไทยแล้ว ยอดขายเพลงเริ่มมา แต่ยอดขายหนังยังอึนๆ เพราะ “ราคาไม่สมเหตุสมผล” กับคนไทยเท่าไหร่นัก

ที่มาของภาพ: orcon

ล่าสุด! นักสู้ไทยใจกล้าไม่กลัวยักษ์อย่างทีม “เพลินจิต” ในนามบริษัท FLY Digital Media ก็ก่อร่างสร้างคลังภาพยนตร์ของตนเองเป็นที่สำเร็จ​ในชื่อ “HollywoodHD” หรือชื่อเต็มๆตามชื่อเว็บไซต์ hollywoodmoviehd.com บริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ดังจากฮอลลีวูดแท้ๆไม่เทียม ทั้ง App บน iOS, Android และหน้าเว็บด้วย Desktop ดูได้หมด เขากวาดลิขสิทธิ์หนังสตูดิโอยักษ์มาได้ 5 ค่าย Fox, Warner, Sony, Paramount, Disney จะเหลือรอดรอเซ็นต์สัญญาก็คือ Universal ซึ่ง ณ เวลานี้ถ้าคุณเข้าไปสมัครสมาชิกชม เขาจัดเมนู 3ค่ายแรกให้ดูกันก่อน หนังที่เราเห็นส่วนใหญ่เป็นหนังดัง แต่ฝรั่งมันก็ยังกั๊กครับ ให้หนังดังมาเพียบแต่เก่าหน่อย ย้อนหลังปี 2010 ลงไป ซึ่งจากการสอบถามทีมบริหารแล้ว พบว่าพวกเขากำลังพยายามหาหนัง “ชนแผ่น” หมายถึงทันทีที่แผ่นDVD/Bluray ออกก็จะมีหนังเรื่องนั้นให้ชมในระบบ HollywoodHD ด้วย (ซึ่งจะเป็นการจ่ายรายเรื่อง ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์) .. บริษัทนี้เขาทำราคาได้น่าสนใจครับ 149.-บาทเน็ตๆ จะจ่ายผ่านบัตรเครดิต (กรอกข้อมูลครั้งเดียวเหมือน Apple ID) หรือจะจ่ายด้วยเงินสดๆผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ก็ได้

เบื้องหลังทีมงาน “เพลินจิต” ถ้าจำกันได้ ปีก่อนพวกเขาเป็นบริษัท Start Up มาแรงเคยเปิดตัวบริการ “FLY” แอปดูหนังน่าตาดี แต่ไส้ในไม่เท่าไหร่ เลยประสบความล้มเหลวในครั้งแรกแต่ไม่ถอย เขาปล่อยมือพาร์ทเนอร์จีนเดิมแล้วไปหาทุนสนับสนุนจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่าง EnergyEarth นำโดยคุณขจรพงศ์ คำดี เพราะพวกเขารู้ดีว่าเกมนี้ “ถ้าไม่มีหนังใหญ่ก็จบเห่” คุณปืน กษิดิศ ศิษย์เก่าไมโครซอฟท์ ผู้กุมบังเหียน MD บินไปเจรจาซื้อสิทธิ์จากสตูดิโอถึงอเมริกาด้วยเม็ดเงินก้อนโตจากกลุ่มทุนมีวิสัยทัศน์ จัดหนังดังระดับแถวหน้ามาให้บริการในรูปแบบไม่อั้น ราคาไม่ถึง 150ต่อเดือน ทำราคาแบบนี้เสี่ยงอยู่เพราะต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้ชมจำนวนมาก ผมสมัครแบบเสียเงินให้เลยแบบไม่ลังเล …ของแบบนี้ผมเคยทำเอง รู้ครับว่ามันยาก ที่ผมตัดสินใจหยุดโปรเจ็ค UniTV ไปทั้งๆที่ผลิตโมลด์ขึ้นชิ้นงานในระดับอุตสาหกรรมเสร็จหมดแล้ว แต่มาเจอจุดตายตรง “จำนวนหนังที่ไม่มากและดีพอ” นี่แหละครับ ถือว่าคุณปืนแกทำสำเร็จในสิ่งที่ผมเองยังทำไม่ได้

ที่มาของภาพ: tabletd

มาวิจารณ์ด้านเทคโนโลยีของ HollywoodHD บ้าง การทำงานในรูปแบบแอปทั้ง iOS และ Android ถือว่ารวดเร็วมากครับ เลื่อนกระโดดไปชมในจุดไหนของหนัง เซิร์ฟเวอร์ (ทราบว่าเป็น Windows Azure) ก็ป้อนภาพกลับมาให้เรารับชมอย่างรวดเร็ว มีระบบเลือก Subtitle ไทย และพากย์ไทย เอาใจได้ทั้งสองกลุ่มคนดู Interface หรือหน้าตาแอปดูดีมีชาติตระกูลมาก ผมขอชื่นชมเป็นพิเศษกับไอคอน Loading ที่ออกแบบเป็นรูหนามเตยวิ่ง มีรสนิยมแห่งการดีไซน์กว่าทุกๆบริการสตรีมมิ่งหนังที่เปิดตัวกันมา เขาให้อิสระคนดู ดูได้ทั้ง 3 Device ในเวลาเดียวกัน (จะดูต่างเรื่องกันก็ได้…ลงตัวทั้งพ่อแม่ลูก)
ด้านข้อมูลหนังที่แสดงมีจุดผิดบ้างเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ (แต่ไม่เล็ดรอดสายตาของผมไปได้ ฮ่าๆ) และจุดอ่อนด้าน Security อีกประมาณหนึ่งที่กูรูทดสอบแล้วว่า Hack ได้ภายใน 3 นาที แต่คงต้องบอกกันเป็นการส่วนตัวต่อไป ทีมงานเพลินจิตประกอบไปด้วยคนไทยตัวกลั่นจาก Reuter, ไทยคม และ ini3 Digital แถมยังได้คุณวรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง หนุ่มนักการตลาดโลกโซเซี่ยลที่คนในวงการคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มาวางกลยุทธ์ ซึ่งคงต้องดูกันอีกยาวๆครับว่าพวกเขาจะ”ถึงดวงดาว”รึปล่าว… แต่ผม “เอาใจช่วย” ไปแล้วครับ 🙂

ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก