เมื่อปีที่แล้วเทสลา (Tesla) ประกาศว่าจะเปิดตัวขั้วต่อการชาร์จที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเทสลาเองเพื่อพยายามทำให้เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมในอเมริกาเหนือหลายคนอาจจะคิดว่ามันสายเกินไปแล้วหรือเปล่าเพราะมารตฐานการชาร์จในปัจจุบันก็ถือว่าดีเยี่ยมอยู่แล้ว แม้จะยอมรับว่าปลั๊กของเทสล่ามีการออกแบบที่เหนือกว่ามาตรฐาน CCS ในปัจจุบันมากก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าเริ่มจะมีสัญญาณในทิศทางบวกเนื่องจากเทสล่าเพิ่งได้พันธมิตรหลักมาคือฟอร์ด (Ford)
ซึ่งวันนี้มีรายงานจากฟอร์ดเผยว่าผู้ใช้รถ EV ฟอร์ดจะสามารถเข้าถึงเครือข่าย Tesla Supercharger ได้อย่างเต็มรูปแบบผ่านอะแดปเตอร์ที่จะให้บริการโดยตรงกับรถ Ford EV โดยจะเริ่มต้นในปีหน้า ทำให้ลูกค้า Ford EV จะสามารถเข้าถึง Tesla Superchargers มากถึง 12,000 เครื่องทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา แต่ข่าวที่ใหญ่กว่าคือ Ford วางแผนที่จะรวมตัวเชื่อมต่อของ Tesla ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ North American Charging Standard (NACS) เข้ากับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตโดยตรง
ในปี 2568 ฟอร์ดจะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันถัดไปที่มีตัวเชื่อมต่อ NACS ในตัว โดยไม่จำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์เพื่อเข้าถึง Tesla Supercharger
สิ่งนี้เริ่มให้ความน่าเชื่อถือของเทสลาในการทำให้พอร์ตเชื่อมต่อเป็นมาตรฐานในอเมริกาเหนือ และอาจบีบบังคับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นเข้าร่วมอีกด้วย จิม ฟาร์ลีย์ ประธานและซีอีโอของฟอร์ดแสดงความคิดเห็นว่า “นี่เป็นข่าวดีสำหรับลูกค้าของเราที่จะสามารถเข้าถึงเครือข่ายเครื่องชาร์จเร็วที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วยเครื่องชาร์จ Supercharger ของเทสล่ามากกว่า 12,000 เครื่อง และเครื่องชาร์จแบบเร็วอีกกว่า 10,000 เครื่องที่อยู่ในเครือข่าย BlueOval Charge การเข้าถึงการชาร์จอย่างรวดเร็วอย่างแพร่หลายนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของเราในฐานะแบรนด์ EV และข้อตกลงนี้กำลังจะเกิดขึ้นในขณะที่เรากำลังเพิ่มการผลิต Ford Mustang Mach-E และ Ford F-150 Lightning รุ่นยอดนิยมของเรา และเตรียมที่จะเปิดตัวชุดต่อไปในรถยนต์ไฟฟ้าเจนใหม่โดยเริ่มต้นในปี 2568”
ทั้งนี้ฟอร์ดตั้งข้อสังเกตว่าความน่าเชื่อถือของเครือข่าย Supercharger ของเทสลาอยู่เหนือคู่แข่ง เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักในการทำงานร่วมกับเทสล่าเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้เครือข่ายสำหรับผู้ใช้รถ EV
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส