เป็นข่าวฮือฮากันทั่วสื่อสังคมออนไลน์ไทยอีกครั้ง เมื่อนักเรียนจากโรงเรียนสตรีวิทยา 2 วงแม็กซ์ เพอร์คัชชั่น เธียเตอร์ ได้เดินทางไปที่ Arena 10 เพื่อขอร้องยืมเงิน 3.1 ล้านจากคุณตัน ภาสกรนที ผู้บริหารบริษัทอิชิตันกรุ๊ป
สำหรับเป็นค่าเดินทางไปแข่งขันในรายการ Winter Guard Internation (WGI) ในช่วงเดือนเมษายนนี้ จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการกระทำที่เกิดขึ้น
ซึ่งลำดับเรื่องราวของเหตุการณ์นี้คือวง Max PercussionTheatre ได้รับเชิญให้เข้าแข่งขันวงดรัมไลน์โลก WGI 2014 ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 ซึ่งทีมงานและผู้ฝึกสอนทั้งหมดก็เตรียมตัวสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ยาวนานกว่า 6 เดือน และได้ทำการส่งหนังสือขอดำเนินการเพื่อของบสนับสนุนจากสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก่อนแข่งขันประมาณ 4 เดือน และก็ไม่ได้ติดตามต่อ จนสุดท้ายก่อนถึงเส้นตายที่จะต้องซื้อตั๋วเครื่องบิน จึงได้คำตอบ มาว่ากระทรวงไม่สามารถอนุมัติงบประมาณได้ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองไม่แน่นอน และงบที่ขอไปนั้นค่อนข้างสูง (9 ล้านบาท) ผู้อำนวยการจึงขอให้นักเรียนทำใจว่าจะไม่ได้ไปแข่งขัน
แต่สุดท้ายนักเรียนที่ฝึกมานานกว่าครึ่งปี และได้รับเชิญเข้าแข่งขันจึงขอต่อสู้ด้วยตัวเอง และเดินทางมาขอร้องคุณตันเพื่อให้ได้เงินซื้อตั๋วให้ทันตามที่เป็นข่าว
ประเด็นที่น่าสนใจจากกรณีนี้คือความรุนแรงของสื่อสังคมออนไลน์ที่หลายคนอาจไม่ทันได้ระวังตัว เพราะในขณะที่คนไทยในชีวิตจริงนั้นถ้อยที ถ้อยอาศัย มีอะไรก็ไม่กล้าพูดตรงๆ
แต่ใน Social Network เมื่อไม่ต้องพูดจากันต่อหน้า ตีความอารมณ์จากตัวอักษรก็ทำให้ผู้ใช้จำนวนมาก “เผลอ” กลายร่างเป็นนักเลงคีย์บอร์ด สามารถด่าทออีกฝ่ายได้แม้ไม่รู้จักกัน ไม่รู้ภูมิหลัง อ่านเพียงไม่กี่ข้อความก็แสดงความคิดเห็นเชิงลบได้แล้ว
ความคิดเห็นเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ทางวงต้องยอมรับไว้ เพราะการบุกไปขอยืมเงินคนที่ไม่รู้จักในยามวิกาลมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกกาลเทศะ และการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อกดดันบุคคลสาธารณะให้ทำในสิ่งที่ต้องการ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดูดีอะไร การมีผลจาก Social Network สวิงกลับมาที่วง กลายเป็นความกดดันที่คนทั้งประเทศจับตา พร้อมจะเย้ยยันหรือถากถาง จึงเป็นราคาที่ทางวงต้องยอมรับจากการกระทำในครั้งนี้
ที่ควรระวังอีกอย่างคือการตอบโต้ของคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ที่ต้องระลึกถึงสถานะของตัวเองหลังจากเกิดเรื่องเสมอว่ากำลังยืนอยู่จุดไหน ด้านที่ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้องนักแต่ร้องขอความเห็นใจ เพราะเมื่อเกิดเรื่องใน Social Network แล้ว ก็เหมือนเราก้าวขาเข้าไปใน Spotlight ให้คนทั้งโลกพร้อมจะขุดคุ้ยเรียบร้อย ซึ่งกรณีนี้มีคนที่เกี่ยวข้องจำนวนไม่น้อยโพสต์ facebook, twitter ตอบโต้คนที่วิจารณ์ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ด้วยข้อความรุนแรง แทนที่จะใช้เหตุผลและอดทนรับช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ซึ่งยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของวง ของโรงเรียน และของนักเรียนยิ่งแย่จากการกระทำที่ตั้งใจปกป้องชื่อเสียงของสถาบัน กลับกลายเป็นผลตรงข้าม สร้างศัตรูในโลกออนไลน์ ตั้งป้อมตำหนิ และยิ่งทำให้ผ่านช่วงเวลานี้ได้ยากเข้าไปใหญ่
กรณีดราม่าในโลก Social Network นั้นมีส่วนผสมคล้ายๆ กัน คือความไม่เข้าใจระหว่างกัน แล้วตีอารมณ์จากตัวอักษรไปจนร้ายกาจ นำไปสู่การใช้คีย์บอร์ดพ่นความเกลียดชังใส่กัน ซึ่งทุกคนล้วนมีโอกาสเป็นศูนย์กลางของดราม่าในอินเทอร์เน็ตได้ทั้งนั้น เราคงไม่มีทางออกตายตัวว่าเมื่อเผชิญแรงกดดันในอินเทอร์เน็ตเหล่านี้ต้องทำตัวอย่างไรบ้าง บอกได้เพียงว่า มีสติ ระลึกให้ดีว่าสิ่งที่เราพูดออกไปในอินเทอร์เน็ตมีผลผูกพันธ์เสมอ ถึงจะลบไปแล้วก็อาจมีคนแคปความเห็นพร้อมชื่อและหน้าเราเอาไว้ คิดให้ดีก่อนที่จะโพสต์อะไรลงไป
คลิปคุณตัน “ถึงวงโยธวาทิต ตัวแทนประเทศไทย”
และขอฝากกระทู้ใน Pantip ไว้ให้อ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่า
“ยิ่งเราดัง (ในทางที่ไม่ดี) มากเท่าไหร่ เราจะเจอเหล่านักสืบพันทิปมาสืบสาวราวเรื่องกันแบบถึงลูกถึงคนมากขึ้นเท่านั้น”
รวมคำด่า ของ วงโย ที่ไปขอเงินคุณตัน มาดูเหอะ
สงสัยบ้าง ? ตกลงวงโย สตรีวิทยา 2 นี่เค้าไปแข่งกับใคร ? ทำไมในเว็บมีทีมเดียว ?
ขอรวบรวมหลักฐานกรณีวงโยธวาทิต เนื่องจากสองกระทู้ก่อนหน้ายาวมาก พร้อมข้อสรุปและคำถามครับ
ที่มา: facebook