เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา SCBX บริษัทยานแม่ของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของประเทศ ได้จัดงาน SCBX AI EXPO 2024 สำหรับพนักงานภายในกลุ่ม SCBX เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ การเรียนรู้ และกระตุ้นให้พนักงานภายในกลุ่มเห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีทางด้าน AI มาประยุกต์ใช้กับการทำงานโดยหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจสู่โลกแห่งอนาคต ภายในงานยังได้เผยถึงแนวทางของการพัฒนาต่าง ๆ ของกลุ่มในปี 2024 ด้วย ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งก็มีหลายกลุ่มเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ที่ทาง SCBX เป็นผู้พัฒนาเอง และใช้เองภายในกลุ่ม ซึ่งมีเป้าหมายคือการนำ AI มาเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า
AI-first Organization
“SCBX และกลุ่มบริษัทในเครือทั้งหมดมี commitment อย่างมากที่จะทำให้ตัวเราเป็นองค์กรที่ก้าวหน้า เป็นองค์กรที่พนักงานทุกคนจะต้องมีโอกาสในการปรับตัว ฝึกฝน และพัฒนาตัวเองไปกับเทคโนโลยีที่เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะร่วมกันนำพาองค์กรให้แข็งแรงและเป็นองค์กรที่เป็น AI-first Organization อย่างแท้จริง” คุณอาทิตย์ นันทวิทยา CEO ของ SCBX ได้กล่าวเริ่มต้นในงาน
“เราต้องการเป็น AI-first” คุณมาณพ เสงี่ยมบุตร CFO ของ SCBX กล่าวเสริมว่าเราต้องการเป็น AI-first ในไทย ซึ่งการที่เราจะเป็น AI-first ในไทยได้ เราต้องมี Growth Mindset ที่เห็นมาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Microsoft หนึ่งในพาร์ตเนอร์ของ SCBX ด้วยเช่นเดียวกัน และต้องมี Data Obsessed หรือการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่เยอะมาก ๆ ด้วยความที่ Data ก็เป็นเหมือนอีกหัวใจหนึ่งของ AI รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนทิศทางให้เข้ากับแนวทางของ AI ให้มากที่สุด
โดยสิ่งที่ SCBX กำลังทำอยู่ก็คือการนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมไทย พัฒนามาให้คนไทยใช้ ที่หากใครสนใจก็นำไปใช้ได้
"AI-first is People-first เหนือกว่าเทคโนโลยีก็คือคน ไม่มีคน เทคโนโลยีไม่เกิด"
AI ไม่ใช่เรื่องของความยากในการพัฒนา แต่เป็นความยากในการนำมาประยุกต์ใช้ต่อ ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนา AI จาก Low code to no code โดยอิงจากไอเดียของผู้ใช้งาน ที่จะเป็นตัวชี้ขาดในการพัฒนาเป็นหลัก และมีเป้าหมายให้รายได้ 75% ของกลุ่ม SCBX เป็นจำนวนที่มาจาก AI ล้วน ๆ ภายใน 4 ปี ในขณะเดียวกันต้องการใช้ AI ในการยกระดับสังคมและประเทศต่อไป
Typhoon LLMs for Thai, by Thai
อย่างเช่น LLMs ที่กลุ่ม SCBX พัฒนาขึ้น ได้โชว์ศักยภาพของ Typhoon โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนามาเพื่อชาวไทยโดยเฉพาะ ซึ่งมีความเข้าใจในตัวภาษาไทยเป็นอย่างมาก ผ่านการเทรนให้เข้าใจภาษาไทยโดยเฉพาะ แบ่งคำ และเข้าใจบริบทของภาษาไทยเป็นอย่างดี และเป็นโมเดลแบบ Open Source ที่ใครก็สามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งล่าสุดก็เดินทางมาถึงเวอร์ชันที่ 1.5 / 1.5X LLMs แล้วหลังจากพัฒนามากว่า 1 ปี นอกจากนี้ยังโชว์ประสิทธิภาพต่อราคาของ Typhoon 8B และ 70B ที่มีราคาค่าใช้จ่ายถูกกว่าของ GPT 3.5 Turbo / GPT-4o อีกด้วย
ซึ่ง Typhoon ก็ยังตั้งเป้าพัฒนาให้เก่งขึ้นไปอีกในอนาคต มีเป้าหมายให้เข้าใจรูปแบบคำเฉพาะทางภาษามากขึ้น เข้าใจตัวภาษาไทยมากขึ้น พร้อมรองรับ Multi modals รองรับทั้งเสียง และรูปภาพพร้อม ๆ กันในอนาคต โดยใครที่สนใจสามารถเข้าไปชมรายละเอียด พร้อมลงทะเบียนเตรียมเปิดให้ใช้งานเร็ว ๆ นี้ ใครที่สนใจก็เข้าไปลงความสนใจไว้ก่อนที่นี่ https://opentyphoon.ai/
SCBX AI Literacy Program เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการตอกย้ำว่า SCBX จะเดินทางไปในแนวทางนี้อย่างจริงจัง โดยคุณพัตราภรณ์ สิโรดม Chief Talent Officer, SCBX ได้เล่าว่าโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถด้าน AI ให้กับพนักงานทั้ง 30,000 กว่าคนภายใต้กลุ่ม SCBX โดยพนักงานทุกคนจะได้รับการอบรมโปรแกรมพื้นฐานการใช้งาน AI และต้องผ่านการอบรมนี้ทุกคน นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมระดับกลางและระดับสูงให้กับพนักงานที่สนใจ และมีศักยภาพที่จะเรียนรู้ AI ในเชิงลึกต่อไป
นอกจากนี้ยังมี session จากพาร์ตเนอร์อย่าง Microsoft ขึ้นมาเผยถึง Roadmap การพัฒนา AI ของ Microsoft ด้วย โดยได้คุณวสุพล ธารกกาญจน์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด และปฏิบัติการของ Microsoft ขึ้นมาพูดถึงแผนการพัฒนา AI ตัวเก่งอย่าง Co Pilot ว่าจะมีแผนในการพัฒนาอย่างไร
Microsoft ยังคงเป้าหมายเดิมคือการพัฒนาให้ AI เข้าถึงได้โดยทุกคนมากขึ้น ซึ่ง Co Pilot ในอนาคตจะมีการอัปเดตไส้ในให้เป็น GPT-4o ของ OpenAI ที่มีความเก่งในด้าน Multi Modal รับ Input ทั้งภาพ, เสียง และข้อความมาประมวลผลพร้อมกันได้ พร้อมกับเผยถึง Phi 3 หรือ SLMs (Small Language Model) โมเดลขนาดเล็กที่ใช้ติดตั้งในอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อประมวลผลแบบ Edge Device ที่สามารถประมวลผลได้แบบออฟไลน์ ประมวลผลในเครื่อง ซึ่งเป็นข้อดีในการใช้ต้นทุนต่ำ และเรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นการประมวลผลที่ไม่ต้องคุยกับเซิร์ฟเวอร์
SCBX AI Workshop & Exhibitor
ในงานยังมีโซน AI Workshop ที่เจาะลึกการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงจากเหล่าพนักงานภายในกลุ่ม SCBX ที่เป็น Copilot Champion ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในส่วนของทีมกฎหมาย ทีม Audit ทีมแนะนำการลงทุน ทีมการตลาด ทีมวิจัยเศรษฐกิจ และทีมต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโซน AI Exhibitor ที่นำเสนอ use case ดี ๆ ที่เกิดจากการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจและการทำงานของพนักงานในกลุ่ม SCBX รวมถึงโชว์เคสเทคโนโลยีจากพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศและระดับโลก เช่น Microsoft, Accenture, Huawei, Botnoi, ImpactMind, Wisesight เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็เป็นบทสรุปของการมาร่วมงาน SCBX AI EXPO 2024 เพียงแค่ครึ่งวัน ถือว่ามีเรื่องน่าสนใจหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจในโลกของ AI โมเดลภาษา LLMs ที่พัฒนาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ รวมถึงอนาคตและการปรับตัวขององค์กรขนาดใหญ่ ทำให้กลุ่ม SCBX ไม่ได้เป็นองค์กรที่เพียงแค่ประกาศการนำ AI มาใช้ในธุรกิจ แต่ได้เริ่มใช้จริงจนเกิด use case ขึ้นภายในองค์กรมากมาย โดยทำควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะความสามารถของพนักงานไปด้วย เพื่อให้เป็น AI-first Organization อย่างแท้จริง