26 พฤศจิกายน 2567 – ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าพัฒนาโครงข่ายสู่ความทันสมัยด้วยโครงการ Network Modernization เสริมประสิทธิภาพเครือข่ายร่วมกับ AI ภายใต้แนวคิด “3Zero” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในทุกมิติ พร้อมยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ และขับเคลื่อนสังคมอย่างยั่งยืน
เบื้องหลังความเร็วแรง ไม่สะดุด หลังควบรวมทรูดีแทค
นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เผยเบื้องหลังความแรง ไม่สะดุดของสัญญาณอินเทอร์เน็ตภายหลังการควบรวมสัญญาณทรูดีแทคเข้าด้วยกัน
คุณประเทศเผยว่าทางทรู คอร์ปอเรชั่น ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาใช้ในการยกเครือข่ายการให้บริการภายใต้คอนเซปต์ “3Zero”
- Zero Touch
การใช้ AI เข้ามาทำหน้าที่ในการตรวจจับสัญญาณที่มีการใช้งานน้อย และเปิดสัญญาณเมื่อมีการใช้งานมากขึ้น โดยลดการใช้พลังงานลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ตอบโจทย์สำหรับเสาสัญญาณในบางพื้นที่ที่มีการใช้งานมากในบางช่วงเวลา โดยยังคงรักษาคลื่นสัญญาณที่ครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่
พร้อมด้วย AI ในการตรวจจับ วิเคราะห์ แก้ไข และยืนยันการแก้ปัญหาแบบอัตโนมัติช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้อย่างไม่มีสะดุด ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่าย และป้องกันควาผิดพลาดได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
- Zero Wait
อีกหนึ่งความสามารถของ AI ที่ถูกเทรนมาเพื่อปรับแต่งคลื่นสัญญาณเครือข่ายแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะประมวลผลจากพฤติกรรมการใช้งานสัญญาณภายในพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อมีการใช้งานสูงขึ้น โดยสามารถปรับแต่งสัญญาณแบบเรียลไทม์ได้เร็วขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ และการปัญหาการใช้งานได้ 3-4 เท่า เร็วแรง และใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง - Zero Trouble
ระบบ AI ที่สามารถคาดการณ์ปัญหาได้แบบเรียลไทม์ พร้อมวางแผนการป้องกัน และบำรุงรักษาการทำงานของโครงข่ายสัญญาณ โดยทรู คอร์ปอเรชั่น ตั้งเป้าว่า AI Zero Trouble จะช่วยลดข้อร้องเรียน และเพิ่มความพืงพอใจของผู้ใช้บริการ พร้อมกับการลดเวลาการขัดข้องของเครือข่ายเมื่อเกิดปัญหาขึ้น
การควบรวมสัญญาณ เพิ่มแบนด์วิธ เพิ่มความครอบคลุม
การควบรวมครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างทรูดีแทคเป็นการผสานสัญญาณระบบโทรคมนาคมครั้งใหญ่ที่ใช้ให้ผู้รับบริการได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น รองรับผู้ใช้งาน 5G ที่เพิ่มขึ้นกว่า 12.4 ล้านราย
- อัปเกรดสถานีฐานกว่า 10,800 แห่ง
- เพิ่มความเร็ว 5G มากขึ้น 48 เปอร์เซ็นต์
- เพิ่มความเร็ว 4G มากขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์
- ขยายแบนด์วิธ 35 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง โดยทรูคาดว่าทั้งแผนโครงการนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2025 ที่กำลังจะมาถึง นอกจากนี้ ยังได้อัปเกรดอุปกรณ์ส่งสัญญาณรุ่นใหม่ที่รองรับการกระจายสัญญาณหลายความถี่ โดยเฉพาะ 700 MHz และ 2600 MHz เพื่อให้ลูกค้าทรูและดีแทคได้ใช้งานเครือข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่
นอกจากการมุ่งเน้นการให้บริการ และประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าทรูและดีเทคแล้ว ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังมีส่วนช่วยขับเคลื่อน และพัฒนาสังคมผ่านโครงการ “”Tech For Good” ที่นำเครือข่ายสัญญาณสื่อสารที่ทรงพลังเข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งล่าสุดได้เปิดเผยผลลัพธ์ในการพัฒนา AI ช่วยระวังช้างป่า ในโครงการ True Smart Early Warning System (TSEWS) ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งช่วยให้คนในพื้นที่ อยู่กับช้างป่าได้อย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติในปฏิบัติการผลักดันช้างป่ากลับสู่ป่าตามธรรมชาติอีกด้วย