ยุคนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีแห่งยุคที่เข้ามาเปลี่ยนโลกภายในระยะเวลาไม่กี่ปี และพัฒนาได้อย่างรวดเร็วผ่านการเรียนรู้ชุดข้อมูลขนาดยักษ์จนเกิดภูมิปัญญาในตัวเอง AI เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกฝังไว้บนฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ What…If… แล้วคุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากนำ AI ติดตั้งไว้ในสมองของมนุษย์ สิ่งนี้ถูกเรียกว่า Organoid Intelligence หรือ OI

สมองของมนุษย์เป็นอวัยวะที่มหัศจรรย์ และน่าพิศวง วิวัฒนาการก้าวกระโดดในช่วงหมื่นปีทำให้มนุษย์วานรกลายมาเป็นผู้ครอบครองโลกทั้งใบในทุกวันนี้ สมองของมนุษย์มีการทำงานที่สลับซับซ้อนด้วยการเชื่อมต่อกันของเซลล์ประสาทกว่าแสนล้านเซลล์ ยิ่งใช้งานมากเท่าไหร่ สมองยิ่งพัฒนามากขึ้นเท่านั้น

เมื่อสมองมนุษย์มาเจอกับ AI จึงกลายเป็นนวัตกรรมที่อาจเขย่าโลกอีกครั้ง BTbeartai เลยอยากพาคุณมารู้จักกับ OI ระบบปฏิบัติการบนเซลล์สมองที่แสนจะไซไฟ และเกินคำว่าอัจฉริยะไปมากนี้กัน

Organoid Intelligence คืออะไร?

หลายคนอาจไม่คุ้นกับคำว่า Organoid คำนี้มีความหมายว่า ‘แบบจำลองอวัยวะ’ ในที่นี้ก็หมายถึงเซลล์จำลอง 3 มิติแบบต่าง ๆ ที่เพาะเลี้ยงในห้องแล็บ มีทั้งของมนุษย์ และสัตว์ เดิมทีใช้เพื่อการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ทางชีววิทยา และการแพทย์เพื่อดูการทำงานของเซลล์ ไปจนถึงการทดลองประสิทธิภาพของยา และการรักษาต่าง ๆ

แต่สำหรับ Organoid Intelligence แล้ว ในบริบทนี้หมายถึงเซลล์เพาะเลี้ยงสมองของมนุษย์ (Brain organoid) เพื่อมาทำหน้าที่เป็นฮาร์ดแวร์สำหรับติดตั้งระบบประมวลผล ซึ่งก็คือ AI นั่นเอง การประมวลผลในรูปแบบนี้เรียกว่า Biocomputing หรือคอมพิวเตอร์ชีวภาพ

ดังนั้น OI จึงไม่ใช่การฝังซอฟต์แวร์ไปในสมองของมนุษย์ที่เดินไปเดินมา แต่ฝังลงไปในแบบจำลองเซลล์สมองของสมองมนุษย์แทนชิปซิลิคอนแบบเดิม เป็นการบรรจบกันระหว่างองค์ความรู้ทางชีววิทยา และเทคโนโลยีสารสนเทศเลยทำให้เกิดการประมวลผลแบบใหม่ที่ลึกซึ้งกว่าที่โลกนี้เคยมีมา

ภาพขยายของเซลล์ประสาทจากเซลล์สมองจำลองที่ถูกย้อมสี

ก้าวข้ามขีดจำกัดของ AI และการแพทย์ด้วย Organoid Intelligence

ระบบประสาทของมนุษย์ทำหน้าที่ประมวลผลได้ทั้งแบบสั่งการ และแบบอัตโนมัติ ซึ่งการติดตั้งระบบประมวลผลที่ทรงพลังอย่าง AI บนฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังอย่างสมองของมนุษย์ ที่นอกจากจะคำนวณข้อมูล จัดเก็บความทรงจำ และมีตรรกะแล้ว ยังมีส่วนที่ทำหน้าที่ประมวลผลด้านอารมณ์ และความรู้สึกด้วย

OI จึงสามารถประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และใกล้เคียงมนุษย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นกุญแจที่ประตูสู่ความเป็นไปได้หลายอย่าง ชนิดที่ว่า AI ก็ทำไม่ได้

งานวิจัยบางส่วนพบว่ามีความเป็นไปได้ที่ OI จะสามารถประมวลผลได้รวดเร็วกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า ซับซ้อนกว่า และทรงพลังกว่าการประมวลผลบนชิปซิลิคอน และ AI แบบเดิม ทั้งยังใช้พลังงานน้อยกว่าด้วย ซึ่งอาจช่วยเร่งการพัฒนาขององค์ความรู้ และเทคโนโลยีในทุกแขนง

นอกจากเรื่องการประมวลผลในเชิงข้อมูลแล้ว OI อาจช่วยขยายขอบเขตการศึกษาทางชีววิทยา และการแพทย์ด้วยเช่นกัน

เพราะแม้ว่าแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์จะศึกษาผ่านเซลล์สมองมาเป็นเวลาหลายปี แต่ทำได้เพียงการศึกษาพฤติกรรม และการตอบสนองของเซลล์เพื่อนำมาแปรผล แต่สำหรับ OI แล้วอาจช่วยจำลองความรู้สึกนึกคิด ความทรงจำ และระบบการรับรู้ของมนุษย์หลังการได้รับยา และการรักษา ช่วยให้การพัฒนายา และการรักษาทำได้รวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ ยังช่วยให้แพทย์ และนักวิทยาศาสตร์เข้าใจกลไกการเกิดโรคภายในสมองที่ซับซ้อน และไม่เคยเข้าใจมาก่อน อย่างการเกิดโรคสมอง โรคประสาท และโรคจิตเภทที่ยังไม่รู้กลไกการเกิดที่แน่ชัด เพราะเป็นการประมวลข้อมูลจากสมองจำลองที่มีระบบประสาทแบบเดียวกับสมองมนุษย์

ข้อจำกัดของ Organoid Intelligence

OI ยังเป็นแนวคิดที่ใหม่มาก และอยู่ในช่วงเริ่มต้นศึกษาเท่านั้น ได้รับการเริ่มต้นศึกษาโดยศาสตราจารย์โธมัส ฮาร์ทุง (Thomas Hartung) จากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปส์กินในช่วงต้นปี 2023 จึงยังมีข้อจำกัดในหลายด้าน ปัจจุบันเรายังไม่สามารถจำลองสมองของมนุษย์ได้ออกมาสมบูรณ์แบบ การศึกษาที่ผ่านมาเป็นเพียงการทดลองของเซลล์สมองในจานทดลองเท่านั้น แน่นอนว่าในการติดตั้งระบบประมวลผลจากเนื้อเยื่อสมองจำเป็นต้องใช้สมองที่มีความสมบูรณ์อย่างมาก

นอกจากนี้ เทคโนโลยี อินเตอร์เฟซ และอัลกอริทึมที่จะมาเชื่อมต่อกับสมองก็ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกมากเพื่อการนำข้อมูลเข้า ประมวลผล และนำออกจากสมองจำลอง ที่สำคัญคือผลลัพธ์จาก OI ที่แม้ว่าจะออกมาจากสมองจำลองของมนุษย์ก็จำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนนำมาใช้ เพราะใน AI มีสิ่งที่เรียกว่าหลอน (AI Hallucination) และให้ข้อมูลที่ผิดพลาด

ข้อมูลบางรูปแบบอาจเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่เคยรู้มาก่อน อย่างกลไกการเกิดโรคสมอง ซึ่งต้องมีการศึกษาเพื่อยืนยันข้อมูลเพิ่มเติมว่าสิ่งที่ OI ประมวลผลออกมานั้นถูกต้อง ไม่ใช่การสร้างข้อมูลขึ้นมาเองเหมือนที่เกิดขึ้นกับ AI

ถัดมาเป็นประเด็นด้านจริยธรรมในการทดลอง เพราะแม้ว่าจะเป็นเซลล์สมองจำลอง แต่ก็ถูกเพาะเลี้ยงจากเซลล์สมองที่มาจากมนุษย์ เซลล์เหล่านั้นเต็มไปด้วยเส้นประสาท และการรับรู้ของมนุษย์

ในอีกแง่มุมหนึ่ง OI อาจถูกกังขาในแง่ของความปลอดภัยต่อมวลมนุษยชาติไม่ต่างจาก AI ที่กลัวว่า AI จะยึดครองโลก แล้วถ้ายิ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความนึกคิด และอารมณ์ความรู้สึกเหมือนมนุษย์แล้ว อาจยิ่งทำให้หลายคนกลัว และตั้งคำถามกับความก้าวหน้านี้มากเป็นเท่าทวีคูณ

ประเด็นสุดท้ายคงเป็นเรื่องงบในการศึกษาวิจัยที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล เพราะนอกจากจะเป็นแนวคิดใหม่แล้ว ยังเป็นการผสมผสานวิทยาศาสตร์หลายแขนงเข้าด้วยกัน และต้องใช้เวลาศึกษาเป็นเวลานานเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนี้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยกับมนุษย์

แม้จะมีข้อจำกัด แต่ Organoid Intelligence กำลังสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับโลก ไม่เพียงแต่ในด้านวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ แต่ยังรวมถึงวิถีชีวิตของมนุษย์ในทุกมิติ แล้วคุณคิดว่าการเกิดขึ้นของสิ่งประดิษฐ์มีชีวิต ที่มีปัญญาในตัวเองสิ่งนี้จะนำพาอะไรมาสู่โลกของเรา