ใช้งานไม่ได้เลยจริงหรือ?
ผู้ใช้ Windows 10 จะไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Microsoft 365 แบบ Desktop ได้ หลังจาก Microsoft จะยุติการสนับสนุนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ซึ่งอ้างอิงกับวันยุติการสนับสนุนของ Windows 10 ที่สิ้นสุดลงในเดือนตุลาคม 2025 เป็นการอ้างอิงคำพูดจากเอกสารของทาง Microsoft แต่ความจริงแล้วการสิ้นสุดการสนับสนุน Microsoft 365 แบบ Desktop สำหรับ Windows 10 หมายความว่าหากติดตั้งไปก่อนหน้านี้จะได้รับการอัปเดตใหม่ถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2025 เท่านั้น และยังไม่มีข้อมูลว่ามีแนวทางติดตั้งใหม่บน Windows 10 หลังจากนี้หรือไม่ (อย่างเช่นกรณีของ Windows 7, 8, 8.1 ต้องไปหาไฟล์ Installer แบบ Offline ตัวเก่ามาติดตั้ง)
ส่วนแอป Microsoft Office แบบซื้อขาด จะสามารถใช้งานได้ถึงแค่ Microsoft Office LTSC 2024 เท่านั้น และยังไม่มีข้อมูลว่ามีแนวทางติดตั้งใหม่บน Windows 10 หลังจากนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้อัปเกรดเป็น Windows 11 ก่อนวันดังกล่าว เพื่อไม่ให้เจอปัญหาประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ รวมถึงความปลอดภัยในอนาคต โดยตอนนี้ผู้ที่มี License Windows 10 แบบ OEM และ FPP รวมถึง Windows 7, 8, 8.1 ที่อัปเกรดเป็น Windows 10 ก่อนกันยายน 2023 ยังคงสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ฟรี หากเครื่องของท่านสเปกไม่ถึง สามารถติดตั้งแบบ Bypass ได้ตามปกติ ทั้ง 5 แนวทาง
- ลงใหม่แบบล้างเครื่องโดยใช้ Rufus
- ลงใหม่แบบล้างเครื่องโดยใช้ Ventoy
- ลงแบบลงทับ Windows 10 เดิม หรือลงใหม่แบบล้างเครื่อง โดยใช้วิธีแก้ไข Registry
- ลงแบบลงทับ Windows 10 เดิม โดยใช้ mediacreationtool.bat
- ลงแบบลงทับ Windows 10 เดิม โดยใช้คำสั่ง cmd
- ดาวน์โหลดไฟล์ ISO Windows 11
- คลิกขวาที่ไฟล์ ISO แล้วคลิก “Mount” หากไม่มี ทำตามภาพที่ 2
หากขึ้นดังภาพให้คลิก “Open”
จากนั้นให้ดูใน This PC หรือ File Explorer ว่ามี Drive ไหนขึ้นมาเพิ่ม นั่นคือชื่อ Drive ที่เกิดจากการ Mount ISO
3. กด Start พิมพ์ cmd จากนั้นเปิด “Command Prompt” แบบ “Run as administrator”
4. พิมพ์ ชื่อ drive ที่ Windows ทำการ Mount ISO เช่นถ้าขึ้นเป็น Drive D ก็พิมพ์ d: แล้วกด Enter จากนั้นพิมพ์คำตามด้านล่างแล้วกด Enter
setup.exe /product server
ข้อควรทราบเพิ่มเติมเรื่องผลกระทบ Windows 10 กับแอปอื่นๆ
ไม่ใช่แค่แอป Microsoft 365 เท่านั้น แอปอื่นๆ จะทยอยยุติการสนับสนุน Windows 10 ในที่สุด นี่จะรวมถึงเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งมีโอกาสที่ Microsoft Edge และ Google Chrome จะประกาศยุติสนับสนุนในไม่ช้าเหมือนกรณี Windows 7, 8, 8.1 ทำให้ต้องย้ายไปใช้ Supermium แทนเพื่อได้รับอัปเดตความปลอดภัยต่อไป หรือกรณีของ Firefox ที่ต้องเปลี่ยนไปใช้รุ่น ESR หรือไปใช้ r3dfox, Plasmafox แทน เพื่อให้ได้รับการอัปเดตต่อไปเช่นเดียวกัน หรือ LINE ที่อาจจะรองรับการใช้งานแค่ผ่าน Supermium Extension เท่านั้น ไม่สามารถใช้งานผ่าน Desktop App ได้แบบที่พบใน Windows 7, 8, 8.1
หากไม่อยากเจอความเสี่ยงแบบนี้ ต้องใช้ Windows 11 หรือใช้ระบบปฏิบัติการอื่น เช่น Linux หรือ ChromeOS Flex/FydeOS ที่ยังได้รับการสนับสนุนต่อไปแทน โดยควรติดตั้งก่อนวันที่ 14 ตุลาคม 2025