เมื่อพูดถึงปี 2000 หลายคนอาจนึกถึงช่วงเปลี่ยนผ่านของโลกในหลายด้าน ทั้งการเมือง วงการบันเทิง หรือจุดแรกเริ่มของยุคไอที ซึ่งนอกจากความหอมหวานที่แสนนอสตาเจียของชาว Y2K แล้ว ในปีเดียวนี้ก็มีเรื่องราวดาร์กไซด์จากฝั่งไอที กับไวรัสที่ชื่อ ILOVEYOU หนึ่งในไวรัสที่โด่งดังและสร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ต้นยุค 2000

หายนะไวรัส ILOVEYOU สุดโรแมนติก

ถ้าจู่ ๆ ในเช้าวันหนึ่งคุณได้รับอีเมลที่มีชื่อหัวข้อว่า ILOVEYOU จากเพื่อนร่วมงาน คุณอาจจะคิดว่าเขาสารภาพรัก หรือไม่ก็คิดว่าตัวคุณกำลังถูกอำอยู่แน่ ๆ โดยเนื้อหาในอีเมลฉบับนั้นระบุว่า “kindly check the attacted LOVELETTER coming from me” หรือ “ได้โปรดช่วยเปิดจดหมายรักที่ฉันแนบมาด้วย” พร้อมกับไฟล์แนบที่มีชื่อว่า “LOVE-LETTER-FOR-YOU.txt.vbs” หรือจดหมายรักถึงคุณ ซึ่งการคลิกเข้าไปอ่านเมลนั้น คุณจะไม่ได้เจอข้อความสารภาพรัก แต่กลับเจอกับผลลัพธ์ที่คุณไม่คาดคิด…

– VBS หรือ Visual Basic Script คือ ไฟล์สคริปต์ที่พัฒนาโดย Microsoft ที่ใช้เขียนสคริปต์อัตโนมัติบนระบบปฏิบัติการ Windows อย่างการจัดการไฟล์ ควบคุมโปรแกรม และระบบ –

เมื่อคลิกเปิดไฟล์แนบนั้น ไวรัสที่แฝงมาในจดหมายรัก จะก็อปปี้ตัวเอง และฝังเข้าไปในคอมพิวเตอร์ พร้อมกับทำลายหรือสร้างความเสียหายให้กับข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ ที่อันตรายกว่านั้น ไวรัส ILOVEYOU สามารถเข้าถึงรายชื่ออีเมล และส่งตัวมันเองไปยังคนอื่นในลิสต์ ทำให้ไวรัสนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่นาน

แม้ว่าจะเป็นยุคแรกเริ่มของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนทั่วไป แต่ในยุคนั้นก็มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่หลายร้อยล้านคนในระดับ ในระยะเวลา 10 วัน ไวรัสตัวนี้เข้าถึงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก

ส่งผลให้หลายบริษัททั่วโลกได้รับผลกระทบ ต้องปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย อย่างสถานีโทรทัศน์ในสหรัฐฯ ที่ต้องหยุดออกอากาศชั่วคราว เพราะไฟล์ภาพโดนไวรัสนี้ทำลาย สถาบันวิจัยที่ข้อมูลงานวิจัยที่ทำมาต้องเสียหายไปอย่างประเมินค่าไม่ได้ หรือหน่วยงานรัฐ อย่างกระทรวงการทหารผ่านศึกสหรัฐรายงานว่าได้รับอีเมลที่มีไวรัส ILOVEYOU ถึง 7 ล้านฉบับ

ไฟล์บางส่วนเสียหาย ถูกเขียนทับ ถูกซ่อน บ้างกู้คืนมาได้ ซ่อมแซมได้ แต่ก็ใช้เวลานาน จนทำให้บริษัท และกิจการมากมายต้องหยุดชะงัก โดยตลอดการแพร่ระบาดของไวรัส ILOVEYOU จนถึงกระบวนการกู้คืนและซ่อมแซมระบบ มีการคาดการณ์ว่าสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 10,000–15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

จุดกำเนิดไวรัส ILOVEYOU ผลงานจากวิทยานิพนธ์ที่ล้มเหลว

ไวรัส ILOVEYOU ถือกำเนิดบนดินแดนพันเกาะ หรือประเทศฟิลิปปินส์ ในกรุงมนิลา โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยด้านคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง ที่ชื่อ โอเนล เดอ กุชมาน (Onel de Guzman) ซึ่งเขาเชื่อเคยได้เสนอหัวข้อวิทยานิพนธ์ ขณะเข้าเรียนอยู่ปริญญาตรีในการสร้างไวรัสโทรจัน (Trojan Virus) เพื่อการล้วงข้อมูลในการล็อกอินในคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยให้คนที่ไม่มีเงินสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างเท่าเทียม

หากใครที่เกิดไม่ทันยุคนั้นต้องอธิบายกันหน่อยว่า อินเทอร์เน็ตยุคนั้นต้องใช้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์บ้าน และใช้รหัสเพื่อล็อกอินเพื่อเข้าใช้งาน ซึ่งด้วยความที่ว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ทำให้อินเทอร์เน็ตมีค่าใช้จ่ายที่แพง ณ เวลานั้น

แน่นอนว่าการหัวข้อวิทยานิพนธ์นี้ถูกตีตก และถูกตอบกลับจากอาจารย์ที่ปรึกษาว่า การกระทำนี้ละเมิดข้อกฎหมาย และสถาบันแห่งนี้ไม่ได้ผลิตโจร กุชมานออกจากมหาวิทยาลัยในเวลาต่อมา พร้อมกับพัฒนาไวรัส ILOVEYOU ขึ้น ก่อนจะปล่อยออกไปในวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2000 โดยเริ่มจากมนิลา ก่อนจะลุกลามไปยังฮ่องกง ยุโรป สหรัฐฯ และประเทศอื่นทั่วโลก

เพียง 1 วันผ่านไป ท่ามกลางโลกอินเทอร์เน็ตกำลังโกลาหลจากผลงานของเขา ในวันที่ 5 พฤษภาคม ปีเดียวกัน กุชมาน และเรโอเนล ราโมเนส (Reonel Ramones) โปรแกรมเมอร์ชาวฟิลิปปินส์อีกคนหนึ่งถูกต้องข้อหา และถูกสืบสวนโดยสำนักงานสอบสวนแห่งชาติของฟิลิปปินส์ หลังหน่วยงานด้านอินเทอร์เน็ตของฟิลิปปินส์ได้รับรายงานหลายฉบับถึงการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้

กุชมานถูกตั้งข้อหาทำลายทรัพย์สิน และการฉ้อโกงบัตรเครดิต จากข้อมูลการสอบสวน กุชมานบอกว่า เขาไม่ได้ตั้งใจปล่อยไวรัสตัวนี้ออกมา ในขณะจับกุม เขาพยายามทำลายหลักฐานต่าง ๆ แต่ก็ทำลายได้ไม่หมด

แต่หลังจากการสอบสวน และจับกุมตัวไม่นาน กุชมาน และราโมเนสก็ถูกปล่อยตัว และถูกยกฟ้องในภายหลัง เพราะในยุคนั้น โลกของเรายังไม่ได้คุ้นเคยกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ ประเทศส่วนใหญ่จึงไม่มีกฎหมายเพื่อเอาผิดกับเรื่องนี้โดยตรง ก่อนที่รัฐบาลฟิลิปปินส์จะออกกฎหมายการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นในอีกหลายเดือนต่อมา

บทเรียนจากไวรัส ILOVEYOU

ณ เวลานั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นเทคโนโลยีใหม่มาก การที่โลกได้เผชิญกับไวรัส ILOVEYOU ทำให้หลายคนเกิดความหวาดกลัวต่อเทคโนโลยี ซึ่งหลังสถานการณ์นี้ผ่านพ้นไป บริษัทเทคโนโลยีตระหนักรู้และให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น อย่างการพัฒนา Antivirus และ Firewall ส่วนผู้ใช้งานเองก็มีความระมัดระวังในการเปิดอีเมลปริศนามากขึ้น หรือแม้แต่อีเมลจากคนคุ้นเคยก็ตาม

แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 20 ปี แต่เรื่องราวของ “ILOVEYOU” ยังคงเป็นตำนานบทแรก ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ตที่โลกของเราได้เรียนรู้ว่าอาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ที่แม้จับต้องไม่ได้ในทางกายภาพสามารถสร้างความเสียหายและบาดแผลบนโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างแสนสาหัส ต่อไปนี้หลายคนอาจมองข้อความ I Love You ไม่เหมือนอีกต่อไป เพราะข้อความที่เหมือนจะเต็มไปด้วยความรักนี้อาจมาพร้อมกับเจตนาแอบแฝงบางอย่างที่เราไม่คาดคิด