TSMC บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมลงทุน 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตชิปในสหรัฐฯ โดยเพิ่มโรงงานอีก 2 แห่ง ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นการต่อยอดจากแผนเดิมที่ลงทุน 65,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท และได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมาย CHIPS Act (Creating Helpful Incentives to Produce Semiconductors for America Act) อีก 6,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.3 แสนล้านบาท 

โรงงาน TSMC ในแอริโซนาเริ่มผลิตชิปขนาด 4 นาโนเมตร ตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่วนโรงงานใหม่ที่กำลังสร้าง มีกำลังผลิตชิป 2 นาโนเมตร หรือเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่านั้นภายในสิ้นทศวรรษนี้ เดิมทีแล้วแผนเปิดโรงงานแห่งที่สองถูกเลื่อนจากปี 2026 เป็น 2027-2028

ซี ซี เหว่ย (C.C. Wei) ซีอีโอของ TSMC ระบุว่า “โรงงานใหม่นี้จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตชิป AI และสร้างงานที่มีค่าตอบแทนสูงหลายพันตำแหน่ง” นอกจากนี้ รายงานจาก The New York Times ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เคยผลักดันให้ TSMC ซื้อโรงงานผลิตชิปของ Intel

Apple ก็ร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐฯ โดยประกาศแผนลงทุน 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 16.9 ล้านล้านบาท ใน 4 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการจ้างพนักงานเพิ่ม 20,000 คน และสร้างโรงงานเซิร์ฟเวอร์ในเท็กซัส

การลงทุนครั้งใหญ่ของ TSMC และ Apple เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าชิปและสินค้าเทคโนโลยี รวมถึงเรียกเก็บภาษี 25% กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา และเพิ่มภาษี 10% กับสินค้าจากจีนในสัปดาห์นี้

การลงทุนมหาศาลในอุตสาหกรรมชิปครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของสหรัฐฯ ในการลดการพึ่งพาการผลิตชิปจากเอเชีย และเสริมสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ