รัฐออนแทรีโอตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท กับ Starlink ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้สงครามการค้ากับสหรัฐฯ โดยนายกรัฐมนตรีดัก ฟอร์ด (Doug Ford) แม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลจะให้คำมั่นว่า “อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์จะเข้าถึงทุกคนในออนแทรีโอ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”
ซอล มามาควา (Sol Mamakwa) สมาชิกสภาจากพรรค NDP แสดงความกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในพื้นที่ชนบทและชุมชนพื้นเมืองซึ่งจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังขาดสัญญาณโทรศัพท์
สัญญานี้เซ็นไว้ตั้งแต่ปี 2024 มีเป้าหมายเพื่อนำอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของ Starlink ไปให้บริการแก่ 15,000 ครัวเรือนและธุรกิจในพื้นที่ห่างไกลของออนแทรีโอ แต่รัฐบาลของฟอร์ดตัดสินใจยกเลิกเพื่อตอบโต้มาตรการทางการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่ส่งผลกระทบต่อแคนาดา
มามาควากล่าวว่า “อินเทอร์เน็ตเป็นบริการที่จำเป็น เราต้องมีการเชื่อมต่อเพื่อดำเนินธุรกิจ ทำธุรกรรมทางธนาคาร และส่งเอกสารออนไลน์” โดยชี้ว่าพื้นที่ในเขตของเขายังมีปัญหาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยิ่งสำคัญขึ้นไปอีก
นายกรัฐมนตรีฟอร์ด ประกาศว่า ออนแทรีโอจะเดินหน้ามาตรการเศรษฐกิจเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ รวมถึงแบนบริษัทสหรัฐฯ จากการประมูลสัญญาของรัฐ โดยกล่าวว่า “เราต้องพร้อมที่จะยกระดับมาตรการ และจะใช้ทุกเครื่องมือที่มี”
แม้ว่าการยกเลิกข้อตกลงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Starlink รายบุคคลที่สมัครใช้บริการแล้ว แต่ทำให้ชุมชนพื้นเมืองในพื้นที่ห่างไกลมีทางเลือกในการเชื่อมต่อน้อยลง
มามาควา เสริมว่า “ถ้าคิดเป็นตัวเลขจะตกประมาณ 7,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อจุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำไมเรายังไม่มีสัญญาณมือถือที่ดีขึ้น ? เพราะประชากรน้อยและไม่มีผลกำไรสำหรับเอกชน”
ซึ่งมามาควาสนับสนุนแนวทางการพัฒนาอินเทอร์เน็ตผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกในประเทศ แทนที่จะพึ่งพาบริษัทต่างชาติ ยกตัวอย่างเครือข่าย K-Net ที่ให้บริการในออนแทรีโอตะวันตกเฉียงเหนือ และสามารถให้ความเร็วสูงกว่า Starlink
ขณะนี้รัฐบาลออนแทรีโอกำลังมองหาผู้ให้บริการภายในประเทศ ซึ่งมามาควาเรียกร้องว่า “เราต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนระยะยาวมากกว่าตัดสินใจตามเกมการเมือง เพื่อให้คำมั่นของรัฐบาลที่ว่าอินเทอร์เน็ตจะเข้าถึงทุกคนเป็นจริง”