การยืนยันตัวตนในการใช้บริการต่าง ๆ นั้นถือเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการสมัคร หรือทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ เพื่อความอุ่นใจหายห่วงว่าบัญชีของเราจะไม่โดนแอบอ้างโดยเหล่ามิจฉาชีพ ซึ่งในบทความนี้ BT beartai จะมาแนะนำวิธีการยืนยันตัวตนของแต่ละค่ายเครือข่ายในไทยกัน ว่าแต่ละค่าย แต่ละแบรนด์ นั้นมีวิธีการหรือโปรโมชันอะไรที่จะดึงดูดลูกค้าให้มายืนยันตัวตนกับพวกเขาบ้าง
AIS
AIS Check ID อัปเดตก่อนใคร อุ่นใจยิ่งกว่า โปรโมชันใหม่ที่เรียกลูกค้าให้มายืนยันตัวเองมากขึ้น โดยให้ลูกค้าที่ไปอัปเดตในวันที่กำหนด มีสิทธิ์ลุ้นทองคำหนัก 1 สลึง และครึ่งสลึง มูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาทไปเลย

วิธีการยืนยันตัวตนของ AIS นั้น เพียงลูกค้าต้องนำมือถือที่ใช้บริการเครือข่าย AIS ทั้งแบบเติมเงิน (Prepaid) หรือแบบรายเดือน (Postpaid) และบัตรประชาชนไปที่จุดให้บริการหรือตัวแทนจัดจำหน่ายของ AIS ไม่ว่าจะเป็น AIS Shop, AIS Shop by Partner, Telewiz และ AIS Buddy Exclusive ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 เพื่อรับสิทธิ์ในการจับรางวัล โดยจำกัด 1 หมายเลขโทรศัพท์ ต่อ 1 สิทธิ์ ตลอดโครงการ (1 รายชื่อต่อ 1 สิทธิ์)
dtac
วิธีการยืนยันตัวตนของ dtac นั้น ถึงจะไม่มีโปรโมชันจูงใจแบบค่ายเขียว แต่สิ่งที่แตกต่างจริง ๆ ของพวกเขาคือลูกค้าไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านเพียงอย่างเดียว แต่มีอีกหลากหลายทางที่จะยืนยันตัวตนได้ ทั้งสแกน QR Code หน้าเว็บไซต์ของ dtac (จำเป็นต้องใช้มือถือกับแท็บเล็ตเท่านั้น), กด *555*16*เลขบัตรประชาชน# โทรออก, กดเข้าไปในแอปพลิเคชัน ดีแทคแอป (dtac App) เลือกไปที่เมนู และติดต่อ dtac Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ

ซึ่งการยืนยันตัวตนครั้งนี้จำเป็นต้องทำผ่านโทรศัพท์ โดยลูกค้าที่มีซิมไม่ถึง 6 อันขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องมายืนยันตัวตน โดยวิธีการนี้ทาง dtac ได้เปิดให้ยืนยันกันตั้งแต่กลางปี 2567 ซึ่งถ้าใครมีซิมมากกว่าหรือเท่ากับ 6 อัน ก็คงถูกระงับไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากกลับมาใช้ได้อีกครั้งก็ต้องโทรไปติดต่อคอลเซนเตอร์ ของ dtac ที่เบอร์ 1678 ได้เลย
True
วิธียืนยันตัวตนของ True นั้น ถือว่าจำเป็นอย่างมาก เพราะถ้าไม่ยืนยันตัวตนว่าเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ TrueMove H ไม่ว่าจะเป็นแบบเติมเงินหรือรายเดือน จะทำให้พลาดสิทธิพิเศษต่าง ๆ ในฐานะเจ้าของเบอร์ รวมทั้งแคมเปญรับทรูพอยท์อีกด้วย

ซึ่งสำหรับแบบรายเดือน จะมีการยืนยันตัวตนเมื่อทำการลงทะเบียนที่ True Shop อยู่แล้ว ในส่วนของลูกค้าแบบเติมเงินนั้นสามารถยืนยันตัวตนด้วยตัวเอง โดยสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในการยืนยันตัวตนของค่ายนี้คือ ซิมเบอร์ True, มือถือ, บัตรประชาชนเจ้าของเบอร์และอินเทอร์เน็ต ใช้ในการลงทะเบียนผ่าน True iService ในช่องลงทะเบียนซิม เพื่อเข้ายืนยันตัวตนด้วยการสแกนบัตรประชาชนและใบหน้าตามลำดับ
โดยถ้าหากยืนยันตัวตนผ่านแล้ว ลูกค้าสามารถสมัครใช้บริการทรูไอดีได้ในทันที ทั้งทางแอปพลิเคชันทรูไอดี และทางเว็บไซต์ทรูไอดี และหากยืนยันตัวตนไม่ผ่าน ระบบจะทำการแจ้งให้รอ SMS ยืนยันภายใน 24 ชั่วโมง