ในปี 2024 ที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ได้ปล่อยก๊าซมลพิษจากภาวะโลกร้อนลดลงไปถึง 800,000 เมตริกตัน (เมตริกตัน = กิโลกรัม X 1,000) ซึ่งลดลงประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์จากปี 2023 ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ Apple สามารถลดการปล่อยเหล่าคาร์บอนฟุตพรินต์ (ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ) ได้อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ
เพราะนับตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งมักถูกใช้เป็นปีพื้นฐานในการวัดความคืบหน้าของการลดคาร์บอนฟุตพรินต์นั้น ในปีดังกล่าว Apple ได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 38.4 ล้านเมตริกตัน ซึ่งหากเทียบยอดในปี 2013 กับในปี 2024 นั้น เรียกได้ว่าลดลงไปอย่างมาก โดยยอดการปล่อยก๊าซในปี 2024 นั้นอยู่ที่ 15.3 ล้านเมตริกตัน ซึ่งค่านี้เทียบเท่ากับมลพิษของโรงงานไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติถึง 40 แห่งในเวลาหนึ่งปีเลยทีเดียว
โดย Apple ยังได้ระบุรายละเอียดอีกว่าในปี 2024 นั้น พวกเขาได้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการใช้วิธีผลักดันให้ซัปพลายเออร์ของพวกเขาที่รับผลิตเซมิคอนดักเตอร์และอื่น ๆ หลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซดังกล่าว ด้วยการไปซื้อพลังงานทดแทนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งวิธีนี้ทำให้บริษัทซัปพลายเออร์เหล่านี้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 24 ล้านเมตริกตันในปีที่ผ่านมา
ท้ายที่สุด เราก็ต้องเฝ้าติดตามกันต่อไปว่าแผนที่ Apple วางไว้ในปี 2030 เรื่องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ไปถึง 75 เปอร์เซ็นต์ นับจากยอดรวมในปี 2013 จะสำเร็จหรือไม่