นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เผยให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดำเนินมาตรการ “ยกระดับความปลอดภัยในการใช้โมบายแบงกิง (Mobile Banking)” จึงมีนโยบายให้ชื่อบัญชีโมบายแบงกิงตรงกับชื่อของซิมมือถือ เพื่อสกัดกั้นอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซนเตอร์ และบัญชีม้า
จากการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์แบ่งผู้ใช้งานเป็น 3 กลุ่ม
- กลุ่ม Y ชื่อเจ้าของซิมและชื่อบัญชีโมบายแบงกิงตรงกัน
- กลุ่ม N ชื่อเจ้าของซิมและชื่อบัญชีโมบายแบงกิงไม่ตรงกัน
- กลุ่ม P ไม่พบชื่อเจ้าของซิม หรือไม่มีข้อมูล
ทางธนาคารจะแจ้งผู้ใช้กลุ่ม N และกลุ่ม P ผ่านทางโมบายแบงกิง เพื่อให้อัปเดตหรือแก้ไขข้อมูลให้ตรงกัน ภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 ไม่เช่นนั้น อาจถูกระงับการใช้งานชั่วคราว
วิธีตรวจสอบความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ด้วยตนเอง
กด *179*หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก# แล้วกดโทรออก
ถ้าหากชื่อเจ้าของเบอร์ไม่ตรงกับชื่อบัญชีโมบายแบงกิง ให้ดำเนินการดังนี้
ทางเลือกที่ 1 ติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของท่าน เพื่อขอเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือให้ตรงกับชื่อบัญชีธนาคาร
ทางเลือกที่ 2 ติดต่อสาขาของธนาคารเพื่อเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับโมบายแบงกิง ให้ตรงกับชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มือถือ
ทางเลือกที่ 3 กรณีต้องการขอยกเว้นมาตรการนี้ ท่านสามารถติดต่อสาขาของธนาคาร เพื่อยื่นคำขอเข้ากลุ่มยกเว้น เช่น บุคคลในครอบครัว ผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิการ และกลุ่มนิติบุคคล โดยท่านจะต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตนและเอกสารพิสูจน์ความสัมพันธ์ ภายใน 30 เมษายน 2568
มาตรการหลัง 30 เมษายน 2568
- ธนาคารจะส่งข้อมูลผู้ใช้โมบายแบงกิงที่เป็นปัจจุบันถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 ไปให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (โอเปอเรเตอร์)
- โอเปอเรเตอร์จะนำข้อมูลดังกล่าวที่ภาคธนาคารส่งผ่านระบบของ ปปง. ไปตรวจสอบกับข้อมูลลูกค้าของตนเองว่าเป็นกลุ่มใดแล้วส่งกลับให้ธนาคาร