เอ็กซ์เซกคิวทีฟ ซีนิม่า ผนึกกำลัง เอไอเอส
มอบสุดยอดประสบการณ์ความบันเทิงกับโรงภาพยนตร์ที่หรูที่สุดในโลก ระดับ 6 ดาว
ครั้งแรกในประเทศไทย กับ ‘เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน โดย เอไอเอส’
6 มิถุนายน 2557 : เอ็กซ์เซกคิวทีฟ ซีนิม่า จับมือ เอไอเอส มอบประสบการณ์ความบันเทิงจากโลกภาพยนตร์ต่อเนื่องให้แก่คนไทย ล่าสุดร่วมมอบปรากฏการณ์ความบันเทิงซึ่งหรูหราที่สุด ครั้งแรกในประเทศไทยกับโรงภาพยนตร์ระดับ 6 ดาว ‘เอ็มบาสซี่ดิโพลแมทสกรีน โดย เอไอเอส’ พร้อมสิทธิพิเศษหลากหลายเพื่อลูกค้าเอไอเอสและพันธมิตร
นายไบรอัน ฮอลล์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็กซ์เซกคิวทีฟ ซีนิม่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Mr. Brian Hall CEO Executive Cinema Corporation Co.ltd.) เปิดเผยว่า “บริษัทได้ลงทุนไปกว่า 120 ล้านบาท ในการสร้าง “เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน โดย เอไอเอส” ซึ่งเป็นครั้งแรก กับ โรงภาพยนตร์หรูระดับ 6 ดาว ทั้ง 5 โรงภาพยนตร์ แห่งใหม่ล่าสุดในเมืองไทย ที่จะเปิดให้บริการบนชั้น 6 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนเพลินจิต ติดกับห้างเซ็นทรัล ชิดลม ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนเป็นต้นไป
“ด้วยเงินลงทุนที่มากกว่า 120 ล้านบาท ส่งผลให้ต้นทุนการลงทุนใช้เม็ดเงิน ต่อที่นั่งสูงที่สุดในประเทศไทย หรืออาจจะสูงที่สุดในโลก โดยตั๋วชมภาพยนตร์เป็นราคาเหมาะสม โดย ราคาปกติเริ่มต้นที่เพียง 900 บาทต่อที่นั่งและราคาโปรโมชั่นเพียง 720 บาทต่อที่นั่ง”
สำหรับเอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน โดย เอไอเอส ถือเป็นสุดยอดโรงภาพยนตร์ที่ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างคลับเอ็กซ์คลูซีฟ และโรงภาพยนตร์ส่วนตัวที่มีบริการส่วนตัวระดับ 6 ดาว ที่คุณจะสามารถดื่มดำประสบการณ์ภาพยนตร์ร่วมกับคนรู้ใจอย่างเป็นส่วนตัว
ด้านนางวิลาสินี พุทธิการันต์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านงานบริการและบริหารลูกค้า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “นอกเหนือจากนวัตกรรมแห่งโลกการสื่อสารที่เรามุ่งเน้นพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมที่นำมาซึ่งสุดยอดประสบการณ์เหนือระดับมามอบให้ลูกค้า และคนไทยได้สัมผัสก่อนใครเสมอเช่นกัน ดังเช่น โรงภาพยนตร์ 4 มิติ AIS 4DX ในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดจึงร่วมมือกับผู้นำแห่งโลกภาพยนตร์ เอ็กซ์เซกคิวทีฟ ซีนิม่า เปิดตัว โรงภาพยนตร์ที่หรูที่สุดในโลก ระดับ 6 ดาว ครั้งแรกในประเทศไทย กับ ‘เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน โดย เอไอเอส’ ที่นอกจากจะเป็นการนำประสบการณ์ของสุดยอดการรับชมภาพยนตร์ ที่ทั้งสะดวกสบาย Exclusive และหรูหราแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแล้ว ยังมอบสิทธิพิเศษ ส่วนลด สูงสุดถึง 25% พร้อมการอำนวยความสะดวก ณ AIS Lounge ให้แก่ลูกค้า AIS 3G อีกด้วย”
โดยรายละเอียดของสุดยอดประสบการณ์จาก ‘เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน โดย เอไอเอส’ ประกอบด้วย
สถานที่ตั้งโดดเด่น
เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมือง จึงเดินทางได้สะดวกสบาย โดยมีสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นทางเชื่อมทางเดินทั้ง 2 สถานี คือ สถานีชิดลม และสถานีเพลินจิต ยิ่งไปกว่านั้น โรงภาพยนตร์แห่งแรกและแห่งเดียวนี้ จะให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่เหนือระดับ ทั้งความหรูหราและสะดวกสบาย ด้วยบริการด้านการชมภาพยนตร์ที่ครบวงจร
ดีไซน์ที่เป็นเลิศ
สำหรับการออกแบบของโรงภาพยนตร์โดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่ได้รับรางวัลมากที่สุด คือ กลุ่มร๊อกเวลล์กรุ๊ป ยุโรป โดยบริเวณโถงด้านหน้าโรงภาพยนตร์ออกแบบด้วยเหล็กสีทองที่ห่อหุ้มด้วยสีทอง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการขดตัวของขดฟิลม์ 35 มม. ซึ่งเป็นที่มาของโลกเซลลูลอยด์ที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์ โถงสีทองอร่ามจะเป็นการออกแบบ แบบไร้รอยต่อพาดยาวจากโถงทางเข้าด้านหน้า บ๊อกซ์ออฟฟิศ กรูเมต์บาร์ และทางเข้าเลานจ์ ซึ่งเป็นห้องรับรองก่อนเข้าชมในทั้ง 5 โรงภาพยนตร์ โดยภาพสีทองอร่ามแสดงความหรูหรา สไตล์ฮอลลีวูด เสมือนต้อนรับท่านสู่เรดคาร์เพทเข้าโรงภาพยนตร์ในงานออสการ์
เลานจ์รับรองได้รับการออกแบบให้ดูสง่างาม ด้วยรูปทรงไข่ที่คล้ายคลึงกับห้องนั่งเล่นของบ้านอัครมหาเศรษฐี ส่วนกลางออกแบบทรงออตโตมันบวกกับบาร์กลมที่ฉาบด้วยหินอ่อนสีเทา ในห้องยังประกอบไปด้วยเตาผิง และตกแต่งด้วยเลเจนด์ของฮอลลีวู้ด เฟอร์นิเจอร์ได้รับการคัดสรรมาในแบบอารท์เดโกบวกกับเก้าอี้หนังถักมือสไตล์เชสเตอร์ฟิลด์ ในขณะที่พรมผืนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจจากลายเสื้อสูทสไตล์อังกฤษ
ที่สุดของความเอ็กซ์คลูซีฟ
โรงภาพยนตร์ที่ 1 จะเป็นคอนเซปต์ที่สุดของความเอ็กซ์คลูซีฟและโดดเด่นและแตกต่างที่สุดใน 5 โรงภาพยนตร์ ซึ่งโรงที่ 1 จะมี เลานจ์พิเศษส่วนตัว บาร์ส่วนตัว พื้นที่รับรองพิเศษที่มีเวทีพร้อมรับการจัดงานแบบไพรเวทฟังก์ชั่น สำหรับบริเวณโถงโรงภาพยนตร์ ทางสถาปนิกได้ทะลายกรอบของนิยามโรงภาพยนตร์ออกไป ซึ่งปกติทุกท่านจะชมภาพยนตร์เรียงยาวเป็นแถวๆ แต่ในโรงพิเศษนี้ เป็นการจัดวางชุดโซฟา และเคานช์ยาวที่ไม่เหมือนกันทุกที่นั่ง แตกต่างกันไป เปรียบเสมือนหยิบยืมเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นมาวางไว้ในโรงภาพยนตร์ โดยลูกค้าจะสามารถเลือกที่นั่งให้เหมาะสมกับผู้ที่มาด้วย
โรงภาพยนตร์สามารถจุได้ 33 ที่นั่ง ได้แบ่งประเภทเก้าอี้หลากหลาย ประเภทที่แตกต่าง และโดดเด่น ในแต่ละรูปแบบ โดย คอมบิเนชั่นการนั่งจะจัดวางที่ต่างจากโรงภาพยนตร์อื่นๆ ตามกลุ่ม เป็นมาเดี่ยว คู่รัก หรือสามีภรรยา และ กลุ่มเพื่อน 3 คน และครอบครัวแบบ 4 คน หรือเพื่อนร่วมงาน โดยทุกที่นั่งจะออกแบบให้แต่ละพื้นที่ประสบการณ์ส่วนตัวแตกต่างกันไป โดยเฟอร์นิเจอร์และบิลท์อินได้สร้างประสบการณ์การชมภาพยนตร์ในแต่ละชุดที่แตกต่างกันไป ประกอบด้วยโซฟาขนาดใหญ่ หมอน ผ้าห่ม และโซฟาเอนนอนแบบยาวเหยีดขา เลานจ์สลีกแชร์ แอซเซซอรี่พิเศษประกอบไปด้วย ไฟส่องสว่างแบบปรับได้เหมือนในชั้นธุรกิจสายการบิน เพื่อความสะดวกในเวลาสั่งอาหาร หรือเครื่องดื่มภายในโรงภาพยนตร์ โต๊ะด้านข้างและ บิลท์อิน ออลยูแคนดริงค์มินิบาร์ ด้านหลังโรงภาพยนตร์ เป็นไพรเวทไวน์คลับที่เก็บเสียง ซึ่งผู้ชมภาพยนตร์สามารถเข้าไปสังสรรค์อย่างเป็นกันเองระหว่างชมภาพยนตร์ โดยพูดคุยและชมภาพยนตร์ได้ในคราวเดียวกันผ่านกระจกใสเก็บเสียงบานใหญ่ โดยไม่รบกวนผู้ชมภาพยนตร์ในโรง
โรงภาพยนตร์ที่ 2 -5 ยังคงรูปแบบสุดยอดโรงภาพยนตร์อัลติเมทวีไอพีด้วยการตกแต่งที่หรูหราและแตกต่างกัน ด้วยริบบ้อนแพดเดิล และเพดานทาสี ทอง บรอนซ์ เงิน ทุกที่นั่งเป็นไพรเวทโคคูนซีทที่ให้ความเป็นส่วนตัวที่ห่อหุ้มด้วยหนังแท้ และพื้นที่กลางสำหรับวางโคมไฟดิมแสงและโต๊ะวางอาหารสแน๊กเครื่องดื่มและป๊อปคอรน์ โดยทุกที่นั่งจะมีปุ่มที่สามารถเรียกมูฟวี่คองเซียสที่เสิรฟ์ให้บริการผู้ชมถึงที่นั่ง โดยทุกโรงรวมกันมีทั้งสิ้น 203 ที่นั่ง
บริการคืออันดับหนึ่งในใจเรา
ทางโรงภาพยนตร์จะมีเจ้าหน้าที่ มูฟวี่ คอนเซียส ที่จะให้บริการมาตรฐานเดียวกับโรงแรม 6 ดาว เป็นที่ปรึกษาแนะนำภาพยนตร์ และอำนวยความสะดวกดูแลบริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด ที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ทั้งก่อนชมภาพยนตร์ และตลอดการชมภาพยนตร์ รวมถึงการแจ้งรายละเอียดของภาพยนตร์ รอบฉาย และกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นบริการพิเศษในการจองตั๋วภาพยนตร์ที่สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงความสะดวกสบายในการจองตั๋วผ่านระบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น และยังง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบวีไอพี ฮอทไลน์ ซึ่งสามารถให้คุณจองตั๋วชมภาพยนตร์ได้โดยตรงผ่านมูฟวี่คอนเซียส ซึ่งเป็นบริการส่วนตัวของคุณเอง
ประสบการณ์ระดับโลก
ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมีระบบฉายที่ดีที่สุด เรียล ดี เอ็กซ์แอล ระบบฉายใหม่ล่าสุด คมชัดสมจริงและสว่างเป็นสองเท่าของทุกระบบสามมิติระบบเสียงที่ล้ำสมัยที่สุด ทางโรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน ยังบริการผู้ชมภาพยนตร์ ด้วยเก้าอี้โซฟาขนาดใหญ่ที่สามารถเอนนอนได้ 180 องศา เสมือนเป็นแฟลทเบด ใช้ในชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบินชั้นนำ ซึ่งมีความพิเศษคือ เป็นเก้าอี้โซฟาขนาดใหญ่ มีสายยูเอสบี เพื่อชาร์จสมาร์ทโฟนได้
มูฟวี่ คิวเรเตอร์ ของโรงภาพยนตร์ จะทำการคัดสรรภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับฮอลลีวู้ด และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลต่างๆ ทั้งรางวัลออสการ์ รางวัลคานส์ และจากกเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลก รวมถึงรางวัลลูกโลกทองคำ ที่คุณจะต้องไม่พลาด
รูปแบบการบริการที่แตกต่าง
ตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเข้าสู่โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน แห่งนี้ มีความพิเศษกว่าโรงภาพยนตร์อื่นๆ ด้วยการให้บริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟ มีพื้นที่เลานจ์ขนาดใหญ่ ที่ตกแต่งอย่างหรูหราในรูปแบบเรสซิเดนท์ส่วนตัวของซุปเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด และมีเลานจ์ ซึ่งจะทำให้คุณได้รู้สึกถึงความอบอุ่น สะดวกสบาย รวมไปถึงการบริการแบบพิเศษนั้น มาพร้อมกับสิทธิพิเศษของเวลคัม เซท ซึ่งเป็นอาหารซิกเนเจอร์ดิชที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี พร้อมเครื่องดื่มที่หลากหลายให้คุณได้เลือกสรร โดยทำเป็นซิกเนเจอร์ดิช ที่ออกแบบโดย ดีน แอนด์ เดลูก้า และดิโอเรียนเต็ลช๊อป
สิทธิประโยชน์ที่เหนือยิ่งกว่า
สำหรับโรงภาพยนตร์ เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการจากเอไอเอส, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, โนเบิล, เมอร์เซเดซ เบนซ์, ธนาคารกรุงเทพ, ไฮเนเก้น,เป็ปซี่
ทั้งนี้ ลูกค้าพาร์ทเนอร์จะได้รับสิทธิส่วนลด 20% ทุกที่นั่ง ทุกรอบภาพยนตร์ สำหรับลูกค้า AIS และลูกค้า เซเรเนด, ผู้ถือบัตรเดบิต บัตรเครดิตในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ลูกบ้านโนเบิลทุกโครงการ, ผู้ถือบัตร เมอร์เซเดซการ์ด, ผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ โดยลูกค้าพาร์ทเนอร์จะได้รับสิทธิในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ในราคาเริ่มต้นเพียง 720 บาทต่อท่านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี ก็จะสามารถคืนทุนให้กับบริษัทได้ เนื่องจากผลตอบรับที่ดีเกินคาดจากทางพาร์ทเนอร์ โดยปัจจุบัน ถือว่าเป็นโรงภาพยนตร์แห่งเดียวในประเทศไทย ที่มี แคเทกอรี เอ็กซ์คลูซีฟ พาร์ทเนอร์ มากที่สุดถึง 8 แบรนด์ ใน 5 โรงภาพยนตร์ และทางพารท์เนอร์จะมีกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้สิทธิประโยชน์ร่วมกันกับทางโรงภาพยนตร์ตลอดทั้งปี และเป็นยุทธศาสตร์การขยายตลาดกับฐานลูกค้าของ แคเทกอรี เอ็กซ์คลูซีฟ พาร์ทเนอร์ร่วมกับทางโรงภาพยนตร์
จำนวนลูกค้าที่คาดว่าจะมีจำนวนมากโดยตั้งเป้า ยอดผู้ชมในปีแรกที่ 130,000 คนและมีอัตราการเติบโตของผู้เข้าชม 10% ทุกปี โดยอัตราการใช้โรงภาพยนตร์ (Occupancy) ที่ 35% ในขณะที่ (Average Occupancy) อัตราเฉลี่ยในประเทศไทยอยู่ที่ เพียง 20% โดยคาดว่ารายได้ในปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 140 ล้านบาท ซึ่งรายได้จะมาจากยอดขายตั๋วภาพยนตร์ 100 ล้านบาท ยอดขายที่คอนเซสชั่น 10 ล้านบาท และยอดขายโฆษณา 30 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทางผู้บริหาร ยังไม่มีแผนจะขยายสาขาโรงภาพยนตร์เพิ่ม เนื่องจากโรงภาพยนตร์ เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน เป็นโปรเจคที่หรูหรา มีระดับ ไม่เหมือนใคร ซึ่งอาจจะพูดได้ว่าเป็นเพียงหนึ่งเดียว ดีที่สุด ทั้งในประเทศไทย และในโลก เป็นเวิลด์คลาส เดสทิเนชั่น