วันที่ 3 กรกฎาคม LINE ประเทศไทยได้เชิญนักออกแบบชาวไทยมาร่วมให้ความรู้และแชร์ประสบการณ์การทำงานและออกแบบสติกเกอร์ของ LINE ทั้งที่ผ่านทาง Official Store และทาง Creators Market ที่ตอนนี้พึ่งเปิดให้นักออกแบบทั่วไปสามารถส่งผลงานขึ้นไปขายได้ 

งานวันนี้จัดขึ้นที่ TCDC (ชั้น 6 เอ็มโพรเรี่ยม) ซึ่งมีห้องส่วนหนึ่งจัดเป็นนิทรรศการภาพวาดศิลปะของคาแรคเตอร์ LINE’s Friends ในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมมีวิดีโออธิบายถึงกระบวนการทำสติกเกอร์ขึ้นขาย และเนื้อหาจากนักออกแบบที่จะบอกถึงแรงบันดาลใจและการทำสติกเกอร์ของ LINE

LCM-003

LCM-002

LCM-004

LCM-001

ปัจจุบัน LINE พึ่งจะครบรอบ 3 ขวบไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดผู้ใช้ดาวน์โหลดไปแล้วทั่วโลกถึง 470 ล้านคน และคาดว่าภายในปีนี้จะเกิน 500 ล้านคนอย่างแน่นอน ในแต่ละวันมีการส่งข้อความผ่าน LINE ถึง 10,000 ล้านข้อความ/วัน

สำหรับ Sticker Shop เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2554 ซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนวิถีการสื่อสารผ่านแอพแชทที่ไม่เคยมีมาก่อน จากที่พิมพ์เป็นข้อความคุยหรือว่าใส่ Emoticon เป็นการส่งภาพคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนที่แสดงออกถึงความรู้สึกได้หลากหลายและสนุกมายิ่งขึ้น ในทุกวันนี้จะมีการส่งสติกเกอร์หากันในระบบสูงถึง 1,800 ล้านครั้งต่อวันเลยทีเดียว

ส่วนสติกเกอร์ LINE แบบ Local ของไทยได้มีการทดสอบเริ่มทำเมื่อเดือนตุลาคม 2556 โดยมีคาแรคเตอร์จากการ์ตูนขายหัวเราะ, ดีสนีย์, LINE’s Friend ฯลฯ มาในรูปแบบของการใช้ภาษาไทยประกอบในสติกเกอร์และขายในราคาที่ถูกกว่าปกติ ($0.99) ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี ล่าสุดกับโครงการ LINE Creators Market ก็ได้เริ่มประกาศตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 และให้นักออกแบบเข้าลงทะเบียนส่งผลงานช่วงเดือนเมษายน และเริ่มมีการเปิดขายใน 4 ประเทศแรก (ญี่ปุ่น, ไทย, ไต้หวัน และ อินโดนีเซีย) ในเดือนพฤษภาคม

LINE Creators Market เป็นรูปแบบของพื้นที่ซื้อขายสติกเกอร์ของ LINE ที่ผู้ใช้สามารถออกแบบขึ้นมาเอง จากนั้นส่งชุดของสติกเกอร์ตามข้อกำหนดต่างๆ (มีแสดงแจ้งไว้ที่ creator.line.me) เมื่อสติกเกอร์ผ่านการพิจารณาจากทีมงานของ LINE แล้วก็จะถูกนำขึ้นมาขายบน LINE Store (Store.line.me) และผ่านทาง Sticker Shop ภายในแอพของ LINE เอง โดยที่รายได้ทาง LINE จะแบ่งให้กับทางเจ้าของผู้ออกแบบประมาณ 50%

หลังจากเปิด LINE Creator Market มาได้ประมาณ 1 เดือน (นับถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2557 มีนักออกแบบลงทะเบียนเข้ามามากว่า 100,000 คน และมีผลงานสติกเกอร์ส่งเข้ามาพิจารณามากกว่า 14,000 เซ็ต และมีสติกเกอร์ขึ้นขายถึง 1,200 เซ็ต ถ้านับจนถึงวันที่ 23 มิถุนายน ตอนนี้นี้สติกเกอร์ขึ้นขายแล้วมากกว่า 3,000 เซ็ต โดยเป็นสติกเกอร์ของคนไทยที่ขึ้นขายแล้ว 62 เซ็ต และยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาอีก 614 เซ็ต โดยเฉพาะใน LINE Creators Market มีผู้ใช้ซื้อและส่งของขวัญให้กันสูงถึงกว่า 81 ล้านครั้ง

ในงานได้เชิญนักออกแบบชั้นนำได้แก่ ม.ล. จิราธร จิรประวัติ นักวาดภาพชื่อดังในประเทศไทยและครูสอนศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว น้องตรัย นักออกแบบรุ่นใหม่เจ้าของคาแรคเตอร์ “บ่นบ่นมอนจา” ที่ปัจจุบันมีสติกเกอร์ขึ้นไปแล้วทั้งใน Sticker Shop และทาง Creators Market ซันเต๋อ ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล ศิลปินลายเส้นการ์ตูนชื่อดัง ที่มีผลงานโชว์ให้เห็นทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานสติกเกอร์ LINE ให้กับแบรนด์ต่างๆ และพี่โอ สัญญา เลิศประเสริฐปกรณ์ จาก Zylo Studio เจ้าของผลงาน “ติดลม” ควายบินได้ที่เป็นสติกเกอร์ยอดฮิตครองสถิติขายดีที่สุดใน Creators Market ของไทยอยู่ในขณะนี้

IMG_4890

(ในภาพจากทางซ้าย) คุณวารดี วสวานนท์ [หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ LINE Thailand], คุณเอก อัครประเสริฐกุล [ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายออกแบบ LINE Thailand], ซันเต๋อ-คุณยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล, น้องตรัย วาสิกา อุดมธนสกุล [บ่นบ่นมอนจา], หม่อมหลวงจิราธร จิรประวัติ, พี่โอ-คุณสัญญา เลิศประเสริฐภากร, Naotomo Watanabe [Sticker Team Creative Manager] และ Daeseok Kim [LINE Creative Center Executive Officer]

ทางทีมงานแบไต๋ได้รวบรวมข้อมูลที่น่ารู้และควรรู้สำหรับคนที่อยากจะทำสติกเกอร์ขึ้นไปขายบน LINE Creators Market นั้น จะต้องเตรียมตัวหรือปรับแนวความคิดอะไร เพื่อให้สติกเกอร์นั้นผ่านการพิจารณา และสามารถเป็นสติกเกอร์ที่ได้รับความนิยมได้

img_htu_08

1.สถิติยอดขายของ LINE Creators Market กับรายได้ที่นักออกแบบทุกคนต้องตาลุกวาว!

  • ตัวเลขต่อจากนี้คือข้อมูลสถิติเกี่ยวกับยอดขายใน LINE Creators Market เดือนแรก (พ.ค.-มิ.ย.) มียอดขายสูงกว่า 47 ล้านบาท (หรือประมาณ 150 ล้านเยน)
  • โดยยอดขายเฉลี่ยของสติกเกอร์ขายดีติด Top 10 จะอยู่ที่ประมาณ 1.47 ล้านบาท (หรือ 4.7 ล้านเยน)
  • สติกเกอร์ที่ติดอันดับ Top 30 จะมียอดขายที่ประมาณ 820,000 บาท (หรือ 2.6 ล้านเยน)
  • สติกเกอร์ที่ติดอันดับ Top 100 จะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 320,000 บาท (หรือ 1.2 ล้านเยน)
  • สติกเกออร์ที่ติดอันดับ Top 200 จะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 220,000 บาท (หรือ 700,000 เยน)
  • อัตราการขายต่อเซ็ต สติกเกอร์ที่สามารถทำยอดซื้อได้สูงกว่า 10,000 เยน มีถึง 61.7%
  • ยอดขายเฉพาะในประเทศไทยอยู่ที่ 3.9 ล้านบาท (12 ล้านเยน)
  • ปัจจุบันยอดขายในไทยต่อวันเติบโตขึ้นสูงกว่า 200,000 บาท

ต้องบอกว่านี่คือสถิติยอดขายเฉพาะแค่ 1 เดือนแรกเท่านั้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อไปอีก

2.ญี่ปุ่นมีส่งสติกเกอร์เข้ามามากที่สุด ไทยเป็นอันดับ 2

ต้องยอมรับว่าประเทศที่ออกแบบคาแรคเตอร์ที่เก่งชั้นนำของโลกยังไงก็ไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น และด้วยความเป็นเจ้าบ้านของ LINE จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงจะมีนักแบบชาวญี่ปุ่นส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่รองลงมานั้นก็เป็นจากประเทศไทยของเรา ซึ่งอันดับ 3 ที่ตามมาอย่างคู่คี่ก็คือไต้หวัน และสุดท้ายก็คือ อินโดนีเซีย

Screen Shot 2557-07-04 at 12.12.41

3.สติกเกอร์ถูกขายไปทั่วโลก แต่จัดอันดับแยกตามประเทศ

จากตัวเลขขั้นต้นตอนนี้ที่มีสติกเกอร์ขึ้นขายแล้วมากกว่า 3,000 เซต ผู้ใช้ LINE จากทั่วโลกจะสามารถเข้าถึงและซื้อได้ทั้งหมด ไม่มีการแบ่งโซนประเทศหรือ VPN แต่อย่างใด แต่ว่าในหน้าของ Popular ที่จัดอันดับสติกเกอร์ยอดนิยมนั้น จะเป็นการเรียงลำดับแยกกันไปในแต่ละประเทศ

4.วันนี้ LINE Creators Sticker เปิดขายแล้วทั่วโลก

หลังจากที่ LINE ได้เปิดนำร่องโครงการนี้ใน 4 ประเทศแรกไปแล้ว วันนี้ LINE ได้เปิดให้ผู้ใช้จากทั่วโลกที่มีกว่า 470 ล้านคน สามารถออกแบบและซื้อขาย LINE Creators Sticker ได้แล้ว นั่นแปลว่าตลาดนี้กำลังจะเติบโตขึ้นอีกหลายเท่า ทั้งจำนวนผู้ใช้ผู้ซื้อที่มากขึ้น รวมถึงนักออกแบบก็จะมีจำนวนมาขึ้นด้วยเช่นกัน

5. เอกสารในส่วนของ TAX เป็นเรื่องสำคัญ

กระบวนการออกแบบและส่งสติกเกอร์เพื่อพิจารณานั้นสามารถทำได้ผ่านทางหน้าเว็บของ LINE แต่ว่ายังมีเรื่องของการทำเอกสารด้านภาษี (TAX) กับทางประเทศญี่ปุ่น ที่ยังต้องเป็นการกรอกเอกสารและส่งไปรษณีย์ไปที่ญี่ปุ่น เป็นอีกสิ่งที่สำคัญมากและใช้เวลานานพอสมควร (ประมาณ 1 เดือน) ดังนั้นอย่าได้ใจเย็นหรือละเลยเรื่องนี้ เพราะถ้ากระบวนการนี้ยังไม่เรียบร้อย สติกเกอร์ของคุณก็ไม่สามารถขึ้นขายได้ รวมถึงเรื่องการลงทะเบียน PayPal แบบ Business ก็เป็นอีกสิ่งที่ห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด

6. อย่าอารมณ์เสียเพราะรอ Review นาน

มีหลายคนหัวฟัดหัวเหวี่ยง หรือคิดมากว่าทำไมสติกเกอร์ของตนเองเมื่อส่งไปแล้วต่อคิวรอรีวิวนานเหลือเกิน ต้องบอกว่าเพราะทาง LINE จะต้องทำการพิจารณาโดยใช้เจ้าหน้าที่เปิดดูและตรวจเช็คสติกเกอร์แต่ละชุดอย่างละเอียดว่าถูกต้องตามข้อกำหนดที่แจ้งไว้หรือไม่ โดยที่ปัจจุบัน LINE มีพนักงานที่ดูแลส่วนนี้อยู่เพียง 20 กว่าคนเท่านั้น (ในการสัมภาษณ์ คนของ LINE จากญี่ปุ่นพูดแบบติดตลกว่าทุกวันนี้พนักงานตรวจสอบได้นอนกันแค่วันละ 3 ชม.เอง)

สำหรับบางคนสงสัยว่าแล้วพวกสติกเกอร์ที่มีข้อความเป็นภาษาท้องถิ่นอย่างภาษาไทยจะมีการตรวจสอบอย่างไร ทาง LINE ได้บอกว่าเบื้องต้น LINE ที่ญี่ปุ่นจะดูเรื่องข้อกำหนดต่างๆ ทั้งหมดว่าถูกต้องเรียบร้อยหรือไม่ ถ้ามีเรื่องของภาษาก็จะส่งข้อมูลสติกเกอร์นั้นให้ LINE สาขาประเทศนั้นๆ ตรวจสอบ

อาจจะดูเหมือนว่าเป็นการทำงานแบบส่งไปส่งมาจะวุ่นวายหรือทำให้ล่าช้าได้หรือไม่ ทาง LINE บอกว่าในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่การตรวจสอบสติกเกอร์ของ LINE Creators Market จะเป็นการตรวจสอบจากสาขาในแต่ละประเทศโดยตรงเลย

Screen Shot 2557-07-04 at 12.11.18

7.สติกเกอร์ที่ดีต้องใช้แสดงอารมณ์ในแต่ละวันได้อย่างครบถ้วน

เป็นสิ่งสำคัญที่ทาง LINE กำชับและต้องการให้นักออกแบบทุกคนสนใจในเรื่องนี้ เพราะมันคือสิ่งสำคัญว่าสติกเกอร์ของเราจะได้รับความนิยมหรือจะมีคนซื้อใช้หรือไม่ เพราะภาพวาดมาสวยแต่ไม่สามารถสื่ออารมณ์หรือใช้แทนการสื่อสารได้อย่างสนุกสนานและชัดเจน ก็ยากที่จะมีคนให้ความสนใจและควักเงินซื้อมัน ดังนั้นนักออกแบบจะต้องศึกษาและดูว่ามีความรู้สึกหรืออารมณ์ใดบ้างในแต่ละวันที่น่าจะขึ้นไปเป็นสติกเกอร์ LINE ทั้งที่มีมีอยู่แล้ว หรือว่าที่ยังไม่มี ศึกษาดูให้ดีแล้วคุณจะสามารถสำเร็จกับการออกแบบสติกเกอร์

8. ถ้าสติกเกอร์ส่งไปแล้วไม่ผ่าน ส่งใหม่ได้ แต่ไปต่อคิวใหม่

กรณีที่ส่งผลงานขึ้นไปพิจารณาแล้วทาง LINE แจ้งกลับมาว่าไม่ผ่านการตรวจสอบ LINE จะมีการระบุถึงสติกเกอร์ภาพที่มีปัญหาว่าผิดจากข้อบังคับหรือกฎอันใดบ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้นักออกแบบได้แก้ไขและส่งเข้าไปรีวิวใหม่ บางคนคิดว่าส่งขึ้นไปใหม่จะเร็วกว่าส่งครั้งแรก ขอบอกว่าคิดผิด การส่งเข้าไปพิจารณาอีกรอบก็เหมือนเดินกลับมากดบัตรคิวใหม่ และตั้งต้นรอคิวใหม่อีกครั้ง ดังนั้นก่อนที่จะส่งสติกเกอร์ไป ตรวจสอบทุกอย่างให้ถี่ถ้วนเรียบร้อย ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเสียเวลารอใหม่อีกเป็นเดือนกันเลย

9.ต้องใช้คาแรคเตอร์ของตนเองเท่านั้น หยิบยืมหรือล้อเลียนไม่ได้ มีโฆษณาตราสินค้าไม่ได้

เป็นข้อกำหนดที่มีคนทำผิดกันมาก ทั้งที่แบบไม่คิดว่าจะผิด อย่างเช่นการเขียนภาพล้อเลียนคาแรคเตอร์คนดัง (นักฟุตบอล, ดารา ฯลฯ) หรือออกแบบหน้าตาไปคล้ายคลึงกับคาแรคเตอร์อื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว รวมถึงมีโลโก้ยี่ห้อสินค้าหรือกิจการต่างๆ ทั้งที่ใส่เข้าไปอย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ สติกเกอร์เหล่านี้จะถูกดีดกลับมาทันที เป็นเรื่องที่นักออกแบบต้องเข้าใจและปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ดังนั้นดีที่สุดคือการสร้างคาแรคเตอร์และเรื่องราวของตัวละครของตัวเองทั้งหมดดีที่สุด และแสดงความชัดเจนและเป็น Original ของตัวละครต่างๆ ให้ชัดเจน

10.เน้นมออกแบบให้สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย หลีกเลี่ยงภาพที่แสดงถึงความรุนแรงและเพศและสิ่งที่ไม่เหมาะสม

เป็นอีกสาเหตุที่มีคนโดน Reject ผลงานกลับมาเพราะภาพมีการสื่อถึงความรุนแรงและเพศ เพราะคุณต้องรู้ว่าใน 470 ล้านคนที่ใช้ LINE นั้นมีอายุตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่ การแสดงออกในสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบได้ ดังนั้นให้พยายามออกแบบให้ทุกคนสามารถใช้ได้ และไม่ให้มีสิ่งที่ไม่เหมาะสมเข้ามาอยู่ในสติกเกอร์

หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วแบบไหนที่เรียกว่ารุนแรง แบบไม่ไหนไม่รุนแรง เพราะถ้าดูจากสติกเกอร์ที่มีออกมาก็มีหลายตัวที่ท่าทางโหดๆ แอบโรคจิตไปจนถึงการแสดงออกที่เป็นการทำร้ายกัน ให้คิดง่ายๆ คือหลีกเลี่ยงสิ่งต่อไปนี้

  • เลือดและอาวุธ สติกเกอร์เป็นภาพต่อสู้กัน แต่อย่าให้แสดงถึงขั้นที่เลือดตกยางออกหรือถึงกับเสียชีวิต (เอาง่ายๆ ห้ามเห็นเลือดเด็ดขาด) รวมถึงอาวุธประเภทของมีคม, ปืน ฯลฯ ที่ส่อให้เห็นถึงการนำไปใช้ให้ถึงกับชีวิตได้
  • การแสดงออกด้านเพศ หลีกเลี่ยงคาแรคเตอร์ที่ดูเซ็กซี่ หรือออกไปทางยั่วยวน (ถ้าจะมีให้เป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่ใช่คน)
  • เรื่องของศาสนา ความรุนแรง ความขัดแย้ง เชิงสัญลักษณ์ต่างๆ ฯลฯ อย่าได้ยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด
  • เรื่องของบุหรี่ ที่ญี่ปุ่นไม่ได้เป็นข้อห้าม แต่อย่างที่บอกมีเด็กใช้ LINE ด้วย บุหรี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมี และแน่นอนสิ่งเสพติดและเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ ก็ห้ามมีปรากฎในสติกเกอร์ด้วยเช่นกัน

11.พื้นใสของ PNG อย่าได้พลาด!!!

มีสติกเกอร์ของหลายคนตกม้าตายมาพลาดเรื่องของเทคนิคการเตรียมไฟล์ภาพ เพราะว่าสติกเกอร์ LINE ในส่วนรอบตัวคาแรคเตอร์จะต้องเป็นพื้นใส เป็นทึบปูเป็นกรอบไม่ได้ โดยไฟล์ภาพที่ใช้จะต้องเป็นสกุล .png ท่านั้น ตรวจเช็คให้เรียบร้อยก่อนส่งให้ดี

12.ความสวยงามของภาพมีผลต่อการถูก Reject หรือไม่?

สำหรับคนที่คิดว่าลายเส้นตัวเองห่วยหรือว่าวาดรูปไม่สวย ทาง LINE บอกว่าไม่สำคัญ เพราะถ้าวาดมาสวยแต่ว่าไม่สามารถสื่อความหมายหรืออารมณ์แทนคำพูดได้ก็ไมสามารถผ่านการพิจารณาได้ ส่วนเรื่องของลายเส้นและการวาดภาพถือเป็นเทคนิคของแต่ละบุคคล เรื่องของความสวยงามจึงไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่สุดท้ายความสวยหรือไม่สวยนั้นจะได้รับการคัดกรองจากผู้ใช้เองอีกทีว่าจะรับได้กับลายเส้นนั้นได้หรือเปล่า (ว่าง่ายๆ วาดห่วยเกินบางทีไม่โดนใจคนก็มีสิทธิ์ที่จะไร้คนโหลดได้เช่นกัน)

13.สติกเกอร์ดุ้กดิ้กจะมีใน LINE Creator Market หรือไม่?

ล่าสุด LINE พึ่งปล่อยสติกเกอร์ใน Sticker Shop ที่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ จึงมีคำถามว่าแล้วใน Creator Market จะมีให้นักออกแบบทำสติกเกอร์แบบขยับได้หรือไม่ คำตอบคือปัจจุบันยังไม่มีความคิดเรื่องนี้ เพราะว่าการเป็นอนิเมชั่นก็ยิ่งมีขั้นตอนในการตรวจสอบมากขึ้น ซึ่งจะต้องใช้เวลานาน (ที่ลำพังตอนนี้ก็ยังทำกันแทบไม่ทัน) ต้องเป็นเรื่องของอนาคตอีกทีเมื่อระบบทุกอย่างพร้อมก็มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้นักออกแบบทั่วไปทำสติกเกอร์เคลื่อนไหวได้

14.รายได้จากการขายสติกเกอร์แบ่งส่วนแบ่งที่ประมาณ 50% ไม่ว่าจะขายผ่าน Store ไหนก็ตาม

เป็นอีกคำถามคาใจนักออกแบบเรื่องของการแบ่งรายได้ ที่ทาง LINE แจ้งว่าอยู่ที่ 50% ซึ่งตอนแรกประกาศว่าจะเปิดขายผ่านทาง store.line.me แต่ปัจจุบันผู้ใช้ก็สามารถซื้อผ่านทางแอพได้เลยทั้งใน iOS และ Android จึงมีข้อสงสัยว่า แล้วแบบนี้รายได้จะแบ่งเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะการขายผ่าน iOS และ Android นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าจะต้องมีการจ่ายเงินส่วนแบ่งให้กับ Apple และ Google ด้วย

เรื่องนี้ทาง LINE ได้บอกเลยว่านักออกแบบจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่ประมาณ 50% ไม่ว่าการซื้อสติกเกอร์นั้นจะผ่านช่องทางใดก็ตาม นั่นคือบรรดาค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทาง LINE จะเป็นคนจัดการให้ LINE บอกว่าเป้าหมายในการทำ Creator Market ขึ้นมาไม่ได้อยู่ที่การหารายได้จากการขายเป็นหลัก แต่ต้องการให้เป็นพื้นที่ที่นักออกแบบสามารถนำผลงานขึ้นมาเผยแพร่และสร้างรายได้

15.LINE ประเทศไทยเตรียมเปิด Workshop และ Community สำหรับนักออกแบบชาวไทย

เป็นสิ่งที่ทาง LINE ขอดูกระแสตอบรับหลังจากการแถลงข่าวเรื่องนี้ไปว่ามีผู้ที่สนใจออกแบบสติกเกอร์ส่งเข้าไปในระบบเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดย LINE เตรียมที่จะทำ Workshop เรื่องการออกแบบสติกเกอร์ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ (อนุญาตให้บุคคลทั่วไปรับฟังได้ด้วย) รวมถึงอาจจะมีการสร้าง Facebook Group สำหรับ Line Creator Sticker แบบ Official เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสานงานต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

open

Line Creator Sticker ถือเป็นอีกแพลตฟอร์มที่น่าจะประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น และเป็นรูปแบบการทำงานที่ให้ผู้ใช้มาเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานและมอบประสบการณ์ใช้งานแอพพลิเคชั่นให้สนุกมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับใครที่ด้อมๆ มองๆ ลังเลว่าจะทำสติกเกอร์ไปขายกับเค้าบ้างดีมั้ย หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น และใช้จินตนาการรวมถึงฝีมือ สร้างสรรค์คาแรคเตอร์ของตัวคุณเองไปเผยแพร่ให้คนทั้งโลกได้รู้จักกัน

หมายเหตุ: เตรียมพบกับบทสัมภาษณ์ พี่โอ จาก ZyloStudio ผู้ออกแบบสติกเกอร์ควายทะยานฟ้า “ติดลม” ที่เป็นสติกเกอร์ใน LINE Creator Market ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เร็วๆ นี้

LCM-000