สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อไม่นานมานี้พวกเราทีมงาน Beartai.com ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยสัมภาษณ์กับ Ubisoft โดยตรงที่งาน Taipei Game Show 2019 ณ ประเทศไต้หวัน ร่วมกับสื่อไทยอื่นๆอีก 2 เจ้าด้วยกัน (GamingDose, Thaigamewiki) อย่างที่หลายๆคนรู้กันว่า Ubisoft ในระยะหลังๆนี้เริ่มจะสนใจตลาดไทยมากกว่าเดิม

“ซ้าย Steve Miller ขวา Julius Witz”

เราได้พูดคุยกับคุณ Julius Witz (General Manager) และคุณ Steve Miller (Managing Director) จาก Ubisoft ที่ให้เกียรติสละเวลามาร่วมพูดคุยกับพวกเรา วันนี้เราจึงนำข้อมูลใหม่ๆ ที่หลายๆคนอยากทราบมาฝากกันครับ


ตลาดเกมใน Asia เป็นอย่างไรบ้าง ??


Ubisoft นั้นเริ่มจะสนใจตลาดใน Asia มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงตลาดในไทยด้วย เราจะเห็นได้จากการที่ Ubisoft พยายามจะตีตลาดจีน โดยการส่ง Rainbow Six Siege ไปและหวังว่าจะวางจำหน่ายที่นั่น โดยทำการเซ็นเซอร์ตัวเกม ลดความรุนแรงภายในเกมลง แน่นอนว่ามันทำให้เกมเมอร์ทั่วโลกไม่พอใจ จนเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิมในภายหลัง แต่นั่นก็แสดงให้เห็นแล้ว ว่า Ubisoft สนใจตลาดใน Asia มากๆ

“ตลาดเกมในเอเชียกำลังเติบโตและเป็นตลาดที่มองข้ามไม่ได้ อุตสาหกรรมเกม และการบันเทิง ไม่สามารถมองข้ามทวีปเอเซียได้ Ubisoft จะต้องเติบโตให้ใหญ่กว่านี้ในตลาดเอเชีย และเราจะต้องลงทุนกับตลาดแห่งนี้มากกว่าเดิม” Steve Miller

และเมื่อไม่นานมานี้ Tournament Six Invitational ของ Rainbow Six Siege ได้มีการจัดแข่งรอบคัดเลือก โดยมีทวีป Asia แยกออกมาเป็นทวีปที่ 4 เลยทีเดียว ประเทศที่เข้าร่วมก็มีญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ SEA โดยมีทีมไทยอย่าง Xavier Esports ได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปต่อ กลายเป็นทีม mantis FPS จากเกาหลี ที่ถูกเชิญไปแข่งใน Main Event ใน Montreal ครับ

“เรามีกลุ่มผู้เล่น Rainbow Six Siege อย่างมากในญี่ปุ่นและไทย เราหวังว่าจะทำให้มันเติบโตได้มากยิ่งขึ้น” Steve Miller

อย่างที่ทราบกันได้ว่า ในสังคมบ้านเรานั้นยังมีการพูดคุยถกเถียงกันเรื่อง E-SPORT มันถูกยอมรับให้เป็นกีฬาหรือไม่ ตรงนี้เราได้ถาม Ubisoft ไปว่าแล้วทางฝั่งตะวันตกล่ะ เขามีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

คุณ Julius Witz ได้บอกว่า เรื่องนี้ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ในตะวันตก และตัวเขาเองก็คิดว่าทุกๆประเทศน่าจะมีวิธีจัดการกับเรื่องพวกนี้ให้เหมาะสมที่สุด ส่วนตัวเขาเองคิดว่าเราต้องมอง E-SPORT ให้แตกต่างจากกีฬาทั่วไป แน่นอนว่าหลักการมันก็ต่างกัน ไม่ว่าจะเรื่องการแข่งขัน การฝึกฝน และรวมไปถึงการที่ E-SPORT จะเข้าไปอยู่ในการแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิค ซึ่งตัวคุณ Julius เองนั้นมองว่ามันอาจจะเร็วเกินไปซักนิด และเขายังได้บอกอีกว่าอีกไม่นานปัญหานี้มันก็จะหมดไปแล้ว เพราะช่วงหลังๆมามีสปอนเซอร์รายใหญ่หลายเจ้าได้มาเข้าร่วมวงการนี้ และมั่นใจว่ามันจะเติบโตไปได้อีกแน่นอน

ถ้าพูดถึงเกมที่โดดเด่นในเรื่อง E-SPORT ที่สุดของ Ubisoft แน่นอนว่าหนีไม่พ้นเกมอย่าง Rainbow Six Siege แน่นอน และอย่างที่ทราบกันดีว่าเกมส่วนใหญ่ที่โลดแล่นในวงการ E-SPORT ส่วนมากเป็นเกม Free 2 Play ทั้งนั้น แล้ว Ubisoft เคยมีความคิดที่จะนำเอา Rainbow Six Siege เปลี่ยนไปให้กลายเป็นเกม Free 2 Play เพื่อที่จะดึงดูดผู้เล่นเข้ามาบ้างไหม ??

ตรงนี้คุณ Julius Witz ได้บอกว่า พวกเขาเคยมีการพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว ด้วยการที่ตัวเกมมันประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงมากๆ ไม่ว่าจะเรื่องของทั้ง E-SPORT เอง หรือเรื่องของกลุ่มผู้เล่นเอง และมันเป็นเกมแรกของ Ubisoft ที่มีส่วนร่วมกับ E-SPORT พวกเขาจึงต้องคิดอย่างระมัดระวังก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรกับเกมนี้ (เช่นการเอาท่าน Lord ไป Rework) ทุกๆเรื่องมันส่งผลต่อผู้เล่นเกม ณ เวลานั้นทั่วโลก

“จะเกิดอะไรขึ้นกับ Rainbow Six Siege ถ้าเราทำให้มันกลายเป็น Free 2 Play โดยเฉพาะในประเทศไทย …” Steve Miller


สาเหตุที่ทำให้ Ubisoft นั้นเริ่มจะหันมาสนใจตลาดในไทยมากขึ้นคืออะไร ??


เอาเข้าจริง นับตั้งแต่ช่วงปี 2015 เป็นต้นมา Ubisoft เริ่มจะสนใจตลาดในไทยมากๆ นับตั้งแต่เรื่องการโฆษณา Watch_Dog 2 บนสถานีรถไฟฟ้าในกรุงเทพ เรื่องการเปิด Facebook Fanpage แบบภาษาไทย และแน่นอนการจัด Event เกมภายในไทย ร่วมไปถึงการเชิญสื่อจากไทยไปเข้าร่วมงานเกมต่างประเทศ

“ผมได้เห็นจำนวนผู้เล่นเกมของเราใน Playstation และ PC เยอะขึ้นมากๆ มันจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่เราจะหันมาสนใจตลาดไทยนี้ครับ” Julius Witz

คุณ Julius Witz ได้บอกว่า พวกเขาได้มีประสบการณ์ทำตลาดเกมใหญ่ๆอย่างในยุโรป หรือ ไต้หวันมาแล้ว การพัฒนาเกมของที่นี่เหมือนเป็น Life Style ของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงอยากจะมอบประสบการณ์เหล่านั้นให้ผู้เล่นชาวไทยบ้าง เพื่อที่จะให้วงการเกมในไทยเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น โดยใช้ความช่วยเหลือจากสื่อ หรือจากกลุ่มผู้เล่นภายในไทยเองเป็นตัวช่วยให้วงการเกมในไทยก้าวหน้าต่อไป

เราได้ถามไปอีกว่า แล้วเป็นไปได้ไหมที่จะมีการจัด Event งานเกมใหญ่ๆในประเทศไทย อย่างเช่นงาน Playstation Experience SEA 2018 ที่จัดขึ้นในไทย หรืออาจจะมีการมาตั้งบูธเข้าร่วมงานเกมโชว์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่าง Thailand Game Show

จะมีโอกาสได้เห็นบูธแบบนี้ที่ Thailand Game Show บ้างไหมนะ ??

คุณ Steve Miller ได้บอกว่างาน PSX นั้นมันใหญ่มากๆ ถ้าเราจะมีงานแบบนั้นบ้าง ก็คงไม่ใหญ่ขนาดนั้น ส่วนสำหรับงาน Thailand Game Show นั้น คุณ Steve ได้ให้ความคิดเห็นที่น่าสนใจมากครับ

เราเคยได้พูดคุยกันกับทีมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราสนใจงาน Thailand Game Show เป็นอย่างมาก เราดูว่าใครไปที่งานนั้นบ้าง และมันเป็นงานเกมที่เน้นไปทาง PC Console หรือ Mobile มากกว่า แต่จากที่ผมจำได้ คืองานมันค่อนข้างจะเน้นเกมมือถือเสียมากกว่า เราจึงคิดว่ามันคงไม่ใช่ที่ๆเหมาะสมสำหรับเรามากนัก

แต่อย่างไรก็ตาม เราได้พูดคุยกับทีม และมองหาไอเดียใหม่ๆอยู่เสมอ และยืนยันได้เลยว่าภายในปีหน้าเราอาจจะประกาศสำคัญอะไรบางอย่าง ” Steve Miller

พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่าพวกเขาจับตาดูงาน Thailand Game Show อยู่ มันมีอะไรน่าสนใจเยอะมาก ขอให้ติดตามกันต่อไปครับ


การแปลเกมเป็นภาษาไทย คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว


คิดว่านี่น่าจะเป็นเรื่องที่หลายๆคนอยากจะรู้มากที่สุด ตัวผมเองก็เช่นกันครับ ในช่วงหลังๆที่ผ่านมาต้องบอกเลยว่ามีเกมจากหลายๆเจ้าที่เริ่มแปลไทยออกมาขาย และมีหลายๆเกมเลยทีเดียวที่วางขายไปเป็นภาษาไทยไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่น Marvel vs. Capcom Infinite, Gran Turismo Sport, Shadow of the Colossus และอื่นๆอีกมากมาย แถมยังมีเกมอย่าง Jump Force และ Sekiro ที่ยืนยันแล้วว่ามีภาษาไทยแน่นอน เราจึงอยากรู้ว่า Ubisoft มีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง

คุณ Steve Miller ได้บอกว่าตัวเขาเองก็ต้องการอยากจะทำภาษาไทยใส่ลงไปในเกมเช่นกัน แต่การแปลภาษาไทยนั้นมัน “ยากเป็นพิเศษ” Ubisoft เป็นบริษัทจากยุโรป เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายโดยการแปลภาษาโรมันลาตินที่เรามีรากฐานมาอยู่แล้ว ก้าวต่อไปของเราคือการเข้าถึงตลาดใหญ่ อย่างญี่ปุ่นที่มีการใช้ตัวอักษรที่มีอักขระมากมาย แต่เราก็ผ่านมันมาได้ และมีการพากย์เสียงอีกด้วย มาถึงตอนนี้เราก็มีการแปลภาษาจีนในรูปแบบต่างๆกันอยู่

ตอนนี้พวกเราก็มีเป้าหมายในการแปลภาษามีความซับซ้อนอื่น ๆ และภาษาไทยเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน

จากนั้นสื่อไทยก็ได้ยิงคำถามไปเลยว่า แสดงว่าปัญหาทั้งหมดก็คือความซับซ้อนของภาษา ไม่เกี่ยวกับขนาดของตลาดใช่หรือไม่

ตรงนี้คุณ Steve Miller ได้ให้ความคิดเห็นที่น่าสนใจมากๆ เขาบอกว่านานมาแล้ว ทวีป South East Asia ประสบปัญหาทางการเงินหนักมาก และคิดว่าจนบริษัทใหญ่ๆอย่าง Ubisoft คงไม่สามารถทำเงินที่นั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย มาเลเซีย เราถือว่าตลาด SEA ทั้งหมดเป็นตลาดส่งออกสินค้าที่แปลภาษาอังกฤษมาก็เท่านั้น หรือที่เข้าใจง่ายๆ ก็คือเกมที่เป็นภาษาอังกฤษดั้งเดิมอยู่แล้ว ก็จะถูกส่งมาขายที่ SEA แต่ไม่ได้มีแผนว่าจะแปลภาษาให้ แต่เวลามันผ่านไปนานมาก จนอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนไป เราจึงเริ่มที่จะลงทุนที่ SEA มากยิ่งขึ้น

“ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญของ Ubisoft มากๆ เราเริ่มเติบโตมากยิ่งขึ้นที่นี่ การลงทุนในตลาดไทยก็สมเหตุสมผล และการแปลเกมเป็นภาษาไทยก็เป็นเรื่องที่อยู่ในแผนงานอยู่แล้วครับ” Steve Miller 

คุณ Julius Witz ได้พูดเสริมอีกว่า พวกเขาได้จับตาดูคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา เกี่ยวกับผลงานที่แปลเป็นไทย และกำลังจะวางขาย (Jump Force, Sekiro) ตัวเขาเองต้องการจะรู้ว่าเกมแบบไหนที่คนไทยสนใจมากๆ และต้องการให้ถูกแปลไทยมากที่สุด แน่นอนว่าเกมๆนั้นจะต้องเหมาะสมต่อการแปล เพราะมันคงไม่ใช่แค่การแปลคำจาก ENG มา THA แต่มันเป็นเรื่องของ “Localization” ที่จะต้องทำให้เข้ากับคนไทยมากที่สุด

จากที่เราเห็นๆกันครับว่าช่วงหลังๆมานี่ Ubisoft ได้มีการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook Fanpage ที่มีการแปลซับไทยจากตัวอย่างเกมต่างๆ หรือปกหลังเกมในภาษาไทย

คุณ Steve Miller ได้บอกเลยว่า การที่จะขยายตลาดเกมในไทยให้ใหญ่ขึ้นจริงๆ มันไม่ใช่แค่การแปลภาษาไทย แต่มันจะต้องมีการจัด Event ภายในประเทศ มีการใช้โซเซียลมีเดียในภาษานั้นๆ มีการจัดการระบบการช่วยเหลือหรือ Support ในภาษาไทย เราจะต้องมีการใช้บุคลากรเพิ่มมากขึ้นสมัยก่อนเราอาจจะแปลภาษามาใส่ในเกมดื้อๆ แต่สมัยนี้ต่างกัน ทุกอย่างจะต้องลงทุนใช้เงินสูงมากๆ และเราคิดว่าประเทศไทยนั้นสมควรได้รับมัน

Rainbow Six Siege เกมที่ประสบความสำเร็จ และเดินหน้าต่อไม่หยุดตั้งแต่ปี 2015

นอกจากนี้เองสื่อไทยยังได้ถามไปอีกว่า การที่ Ubisoft จะหยิบเกมมาแปลเป็นภาษาไทยเนี่ย จะเป็นเกมเก่าๆที่วางขายไปนานแล้ว หรือจะเป็นเกมใหม่ที่ยังไม่ได้วางขายไปเลย

คุณ Steve Miller ได้บอกว่า เขาคงไม่นำเอาเกมเก่าๆอย่าง Far Cry 3 มาแปลไทยแน่นอน และรวมไปถึง Far Cry New Dawn ที่กำลังทำกันอยู่ ก็คงไม่ได้เห็นภาษาไทยกันแน่ๆ อีกทั้งยังเป็นเรื่องของทีมงาน ที่คงไม่มีคนจำนวนมากขนาดที่จะไปทำภาษาไทยลงให้กับเกมเก่าๆได้ แต่ในขณะเดียวกัน เกมที่แนวโน้มว่าจะเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ อย่างเช่น Rainbow Six Siege , The Crew 2 เกมเหล่านี้ก็ไม่แน่ว่าอนาคตอาจจะมีการแปลภาษาไทยออกมา และเขาคิดว่าเกมพวกนี้มันไม่ใช่เกมเก่าเลยสักนิด เพราะมันมีการ Update อยู่ตลอดเวลา และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้เล่นใหม่ๆเข้ามาเยอะมากขึ้นกว่าเดิม


เป็นไปได้ไหมที่จะมีการเปิดร้านขาย Merchandise จาก Ubisoft ในไทย


น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายๆคนอยากได้คำตอบ เพราะน่าจะมีไม่น้อยเลยที่อยากจะชื้อสินค้าจากเกมของ Ubisoft อย่างน้อยๆก็ผมคนนึงที่ไปไล่กวาด Rainbow Six Chibi Figure จากไต้หวันมาเยอะมากๆ รวมไปถึงเสื้อยึด Rainbow Six Siege ที่บอกเลยว่าหาที่ไหนก็คงไม่ได้

หนึ่งในไอเท็มขายดีของ Ubisoft ที่ออกมาหลายตัวเหลือเกิน

เราได้ถามทาง Ubisoft ไปว่า จะเป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะเปิดหน้าร้านขายของพวกนี้ภายในไทย ??

คุณ Julius Witz ได้บอกไว้ว่า พวกเขาได้เรียนรู้เรื่องนี้ประมาณช่วง 6-9 เดือนก่อน เขาได้รู้ว่าการจำหน่ายสินค้าในไทยนั้น มันกว้างมากๆ และไม่ได้จำหน่ายเพียงแค่ในกรุงเทพ แต่มันรวมไปถึงเมืองใหญ่ที่อื่นๆอีกด้วย เพราะฉะนั้นเขาจึงโฟกัสไปที่ซื้อของออนไลน์ผ่านหน้าร้านค้าอย่าง Shopee หรือ Lazada เสียมากกว่า แน่นอนว่าเขาก็รู้ว่า 2 ร้านนี้มันได้รับความนิยมสูงมากในไทย เขายังได้บอกอีกว่าสินค้าจำพวกฟิกเกอร์ โมเดล ที่มีราคาสูง ของพวกนี้จะต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี หากมีหน้าร้านสั่งไป Stock สินค้าไว้เยอะๆ มันก็อาจจะเสี่ยงที่จะเสียหาย หรือถูกขโมยได้ เพราะฉะนั้นการชื้อของออนไลน์ หรือ E-Commerce จึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด


กลับมาที่เรื่องภาษาไทยกันก่อนครับ 


ก่อนหน้านี้ได้มีเกมเมอร์คนนึง(ผมเอง) ได้ไปพบเจอ “ภาษาไทย” อยู่ใน Setting ของ Rainbow Six Siege โดยโผล่มาให้เลือกกันเห็นๆเลยในเมนูเปลี่ยนภาษาของเกม และก็พบว่าตัวเกมมันแปลออกมาดีมากๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนก่อนเข้าช่วง Update Year 3 Season 4 Operation Wind Bastion ซึ่งตอนนั้นผมได้ไปพบเจอในเซิฟเวอร์ทดสอบ หรือ TTS ของตัวเกมในขณะที่ยังเป็นเวอร์ชั่น Grim Sky อยู่ ต้นเรื่องคลิก

ภาพจาก Server ทดสอบของ R6 Siege ในวันแรกที่มีการ Update

และหลังจากนั้น ตัวเกมได้มีการ Update Operation Wind Bastion เข้าไปในเซิฟเวอร์ทดสอบ TTS และผมก็ได้พบเจอกับ Setting ภาษาไทยของจริง แถมยังพบอีกว่า 2 ตัวละครใหม่ Nomad และ Kaid ก็ถูกแปลบทพูด และ Lore ต่างๆมาเป็นภาษาไทยแล้วเรียบร้อย สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเลยก็คือใน Patch Notes ครั้งนั้นไม่มีการพูดถึงการเพิ่มภาษาไทยเข้าไปเลย แต่มันเป็น Update แบบ Official ตัวผมเองก็ได้เข้าไปลองและพบว่า Font มันใหญ่ไปเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งเรื่องผ่าน Forum ของ Ubisoft ไป และดูเหมือนว่าจะมีพนักงานของ Ubisoft คนนึงได้บอกว่า “จะส่งเรื่องนี้ต่อไปให้กับ Rainbow Six Siege Team” รายละเอียดคลิก โดยจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า และตัวเกมหลักก็ยังไม่ได้รับการ Update ภาษาไทยเข้าไปในเกมสักที และ Setting ภาษาไทยในเกมเซิฟเวอร์ทดสอบก็หายไปแล้วด้วยครับ

แน่นอนว่าเราได้เราเรื่องนี้ไปพูดในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ว่าพวกเขารู้เรื่องนี้หรือไม่

คำตอบที่ได้จากทั้งคุณ Julius Witz และ Steve Miller ก็ต่างตอบว่าไม่ แถมยังบอกว่าเราจะไม่ออกความเห็นกับข่าวหลุดหรือข่าวลือทั้งหลาย และมีการยิ้มหัวเราะเหมือนรู้อะไรบางอย่าง ก่อนที่หลังการสัมภาษณ์จบ คุณ Julius Witz ได้เข้ามาพูดคุยกับผมโดยตรงว่า ผมเป็นคนเจอจริงๆหรือ เขายังคงไม่เชื่อ จนผมต้องเปิดรูปชุดนี้ให้เขาดู คลิก แต่เขาก็ยังยืนยันว่าไม่น่าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เป็นรูปปลอมบ้าง พร้อมกับเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาไปเลย


ก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์ เราได้ถามทั้งคุณ Julius Witz และคุณ Steve Miller ว่ามีอะไรจะฝากให้กับเกมเมอร์ชาวไทยไหม

“เรารู้สึกยินดีมากที่ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆชาวไทยทุกคน เราได้เห็นการเติบโตของที่นี่ เรารู้สึกถึงความรักของทุกคนที่มีให้ต่อเกมของพวกเรา พวกเราได้นำเอาความรู้สึกดีๆที่มี และความมุ่งมั่นในการสร้างเกมที่ยอดเยี่ยมออกมามอบให้กับพวกคุณ และขอบคุณสำหรับเสียงตอบรับมากๆครับ” Julius Witz


“เกมเมอร์ชาวไทยทั้งหลาย จับตาดู Ubisoft เอาไว้ให้ดี พวกเราจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน มีข่าวลือกันเยอะมากจริงๆ (หัวเราะ)” Steve Miller