ซีเอส ล็อกซอินโฟ ทุ่ม 350 ล้าน เปิด ดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งใหม่
เดอะ คลาวด์ ดาต้า เซ็นเตอร์ (THE CLOUD DATA CENTER)
รับเทรนด์ BIG DATA บูม
กรุงเทพฯ — 26 สิงหาคม 2557 — บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายธุรกิจรองรับเทรนด์ BIG DATA ที่กำลังมาแรง ทุ่ม 350 ล้านบาท เปิด ดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งใหม่ เดอะ คลาวด์ ดาต้า เซ็นเตอร์ (THE CLOUD DATA CENTER)ศูนย์รับฝากคอมพิวเตอร์มาตรฐานสากลที่ใหม่ ทันสมัย และมีระบบความปลอดภัยสูงสุด บนถนนรัชดาภิเษก-รามอินทรา บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ เจาะกลุ่มลูกค้าภาครัฐ ธนาคาร ผู้ให้บริการคอนเทนต์ เกมออนไลน์ สื่อ โทรคมนาคม และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมให้บริการลูกค้าทุกระดับด้วย 5 มาตรฐานที่ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญ ได้แก่ 1. มีเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือสูง (High Availability Architecture) 2. เครือข่ายสื่อสารข้อมูลคุณภาพเยี่ยม (Direct Global Connectivity) 3. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly) 4. ตั้งอยู่บนทำเลที่สะดวกและปลอดภัย (Safe & Convenient Location) และ 5. มีบริการเสริมที่ยืดหยุ่นและครบครัน (Flexible Service & Wide Range of Value-added service)
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กระแส “BIG DATA” หรือ “อภิมหาข้อมูล” กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน หลังจากเริ่มต้นเว็บยุค 2.0 หรือ “User Generated Content / Consumer Generated Media” ซึ่งเป็นยุคที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตร่วมกันสร้างและแลกเปลี่ยนเนื้อหาซึ่งกันและกัน ผ่านบริการต่างๆ เช่น Facebook Twitter Instagram YouTube รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทำให้เกิดข้อมูล ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ ขึ้นมากมายมหาศาล ทั้งนี้ งานวิจัยโดยไอดีซีระบุว่าปริมาณข้อมูลในโลกดิจิทัลจะพุ่งขึ้นสูงถึง 40 เซตตะไบต์ (4 หมื่นล้านล้านล้านไบต์) ภายในปี 2563 โดยกว่า 90% จะเป็นข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างชัดเจน เช่น ภาพหรือวิดีโอ จึงทำให้องค์กรในทุกภาคส่วนต้องเร่งหาวิธีในการรับมือกับข้อมูลเหล่านี้ เพื่อนำมาสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจต่อไป
ล่าสุด มีการคาดการณ์ว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะกลายเป็นศูนย์กลาง การเติบโตของตลาด DATA CENTER ของโลก มีมูลค่าตลาดรวม 152 พันล้านเหรียญ หรือ 5 ล้าน ล้านบาท ซึ่ง DATA CENTER ทำหน้าที่เป็นหัวรถจักรขับเคลื่อนให้ระบบไอซีทีทั้งโลกเติบโต ไม่ว่าจะเป็น Cloud Computing, Hardware, Software หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกัน ในปัจจุบันตลาด DATA CENTER ในประเทศไทยยังถือว่ามีขนาดเล็ก แต่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง DATA CENTER ที่ขายและให้บริการอยู่มีทั้งสิ้น 4,000 – 5,000 Rack หรือเทียบเท่า 1 หมื่นตารางเมตร โดยที่ทาง THE CLOUD DATA CENTER ของซีเอส ล็อกซอินโฟ มีพื้นที่รองรับถึง 650 Rack หรือ 20% ของตลาดโดยรวม และมีอัตราการเติบโตปีละ 20% ซึ่งเกิดจากความต้องการขององค์กรขนาดใหญ่และขนาดกลางในการทำระบบสำรองข้อมูล (Data Backup) เพื่อให้ธุรกิจดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในกรณีเกิดภัยพิบัติ นอกจากนี้ การนำระบบ Cloud Computing มาใช้เริ่มมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ Content โดยเฉพาะ Digital TV หรือผู้ให้บริการ Content ผ่านสมาร์ทโฟน
“เพื่อรองรับกระแสดังกล่าว ซีเอส ล็อกซอินโฟ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 350 ล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์แห่งใหม่ โดยให้ชื่อว่า THE CLOUD DATA CENTER ซึ่งเป็นศูนย์รับฝากคอมพิวเตอร์มาตรฐานสากลที่มีโครงข่ายการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ก่อสร้างตามมาตรฐานสากล บนถนนรัชดาภิเษก-รามอินทรา ในพื้นที่กว่า 3 ไร่ มีพื้นที่ให้บริการประมาณ 6,500 ตร.ม. (รองรับได้ถึง 650 Rack) พร้อมมีทีมวิศวกร และ DCOC (Data Center Operations Center) ระบบเฝ้าตรวจการทำงานของอุปกรณ์ ตลอด 24 ชม. พร้อมให้บริการทุกภาคธุรกิจ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกธุรกิจได้อย่าง มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆด้าน” นายอนันต์ กล่าว
สำหรับจุดเด่นของศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ THE CLOUD DATA CENTER มี 5 ประการ ได้แก่
- เสถียรภาพและความน่าเชื่อถือสูง (High Availability Architecture) โดยได้รับการออกแบบและสร้างด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สอดคล้องกับมาตรฐาน Uptime Institute มีระบบสำรองทดแทนอัตโนมัติแบบ N+1 ได้รับมาตรฐานการจัดการความปลอดภัย ISO 27001 มีการควบคุมการ เข้าออกพื้นที่ด้วยระบบ Access Card และ CCTV ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับ พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
- เครือข่ายสื่อสารข้อมูล (Direct Global Connectivity) โดยอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ ในประเทศและต่างประเทศของ ซีเอส ล็อกซอินโฟ จะเชื่อมต่อกับระบบใยแก้วนำแสง ที่เชื่อมระหว่างอาคารไซเบอร์เวิลด์ อาคาร กสท. โทรคมนาคม บางรัก และอาคารเดอะ คลาวด์ ซึ่งระบบใยแก้วดังกล่าว หากเกิดปัญหาสามารถใช้เส้นทางอื่นได้ เนื่องจากมีหลายเส้นทาง
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly) ถูกออกแบบให้เป็นผนังสองชั้น เพื่อช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคาร และลดภาระการทำงานของระบบทำความเย็น รวมถึงช่วยบริหารจัดการพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- ทำเลที่ตั้ง (Safe & Convenient Location) อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 3.65 เมตร สูงจากระดับถนน 1.5 เมตร และ สูงกว่าระดับน้ำท่วม ปี 2554 ถึง 2.1 เมตร เพื่อลดโอกาส การเกิดปัญหาน้ำท่วม โดยถนนด้านหน้าอาคารมีขนาด 8 เลน เดินทางสะดวกสบายอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 25 กม. และห่างจากสถานที่สำคัญที่อาจเกิดการชุมนุมต่างๆ ได้
- บริการเสริมครบครัน (Flexible Service & Wide Range of Value-added service) โดยเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ AaaS, Cloud, ERP ฯลฯ หลายราย ซึ่งให้บริการครบวงจร ทั้ง Managed Services, Internet และโซลูชั่นด้านไอที นอกจากนี้ ยังมีบริการพื้นที่ที่หลากหลาย ปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นได้ตามความต้องการ ทั้งแบ่งกั้นกรงไปจนถึงพื้นที่เปล่า รวมทั้งบริการสร้างสำนักงานสำรอง (Disaster Recovery) และพื้นที่ปฏิบัติงานสำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน (Disaster Recovery Center)