รู้หรือไม่ว่า ต้นทุนของ iPhone 6 ที่เพิ่งวางขายนั้น มีต้นทุนเริ่มต้นไม่ตำ่กว่า 200 ดอลล่าร์
เป็นข่าวไม่ได้ว่างเว้นแต่ละวันเลย สำหรับ smartphone รุ่นใหม่ล่าสุดของค่าย Apple อย่าง iPhone 6 โดยล่าสุดนั้น มีแหล่งข่าวไปสืบทราบมาว่า Apple นั้นจ่ายเงินไปประมาณ 200 – 247 ดอลล่าร์ (ประมาณ 6,500 – 8,000 บาท) เป็นค่าส่วนประกอบ และ ค่าแรงในการผลิต iPhone 6
ส่วน smartphone รุ่นใหม่หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วอย่าง iPhone 6 Plus นั้นมีต้นทุนเริ่มต้นที่ 216 ดอลล่าร์ (ประมาณ 7,000 บาท) และมีต้นทุนที่สูงขึ้นไปถึง 263 ดอลล่าร์ (8,500 บาท) สำหรับ iPhone 6 Plus ความจุ 128 GB
ต้นทุนการประกอบนั้น ตกที่เครื่องละประมาณ 4 – 4.50 ดอลล่าร์ (ประมาณ 130 – 145 บาท)
โดยข้อมูลต้นทุนที่ว่านี้ เป็นการประเมินจากบริษัททำวิจัยอย่าง IHS และได้แชร์ข้อมูลนี้ไปให้แหล่งข่าวต่างๆ อย่าง Re/code และ CNBC เป็นต้น
ราคาขาย iPhone 6 สำหรับเครื่องที่ไม่ติดสัญญานั้นเริ่มต้นที่ 649 – 849 ดอลล่าร์ (ประมาณ 21,000 – 27,500 บาท) ส่วนราคาขาย iPhone 6 Plus สำหรับเครื่องที่ไม่ติดสัญญานั้นเริ่มต้นที่ 749 – 949 ดอลล่าร์ (ประมาณ 24,200 – 30,700 บาท)
Apple คิดเงินเพิ่มที่ 100 – 200 ดอลล่าร์ สำหรับ iPhone รุ่นที่มีความจุมากๆ แต่ต้นทุนการผลิตสำหรับการเพิ่มความจุนั้นอยู่ที่ 47 ดอลล่าร์ สำหรับความจุที่ 128 GB
และจากการเทียบราคาขาย กับ ราคาต้นทุน จะพบว่ากำไรขั้นต้นต่อเครื่องนั้นค่อนข้างสูงมากทีเดียว (70 % สำหรับรุ่นที่มีความจุ 128 GB และ 69 % สำหรับรุ่นที่มีความจุ 16 GB)
Andrew Rassweiler นักวิเคราะห์ของ IHS เพิ่มเติมอีกว่า ด้วยราคาที่เห็นแบบนี้ มันบ่งบอกว่า Apple กระตุ้นให้ผู้ซื้อ ซื้อ iPhone ตัวที่มีความจุมากๆ ซึ่ง Apple จ่ายเงินที่ 42 เซนต์ทุกๆความจุ 1 GB โดยสั่งซื้อจากหลายเจ้า เช่น Micron และ SK Synix เป็นต้น
กำไรขั้นต้นของ iPhone รุ่นที่ออกใหม่นั้นสูงกว่ารุ่นที่ออกก่อนหน้านี้อีก โดยกำไรขั้นของ iPhone 5 และ iPhone 5s นั้นอยู่ที่ 69 % , iPhone 5c นั้นมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 68 % และ iPhone รุ่นแรกนั้นมีกำไรอยู่ที่ 55 %
ส่วนเรื่องหน้าจอแสดงผลนั้น Apple ก็สั่งมาจากหลายเจ้า เช่น LG และจากแหล่งในญี่ปุ่น โดยหน้าจอแสดงผลของ iPhone 6 นั้นต้นทุนอยู่ที่ 45 ดอลล่าร์ (แพงกว่าหน้าจอของ iPhone 5s เพียง 4 ดอลล่าร์) ส่วนหน้าจอแสดงผลของ iPhone 6 Plus มีต้นทุนอยู่ที่ 52.5 ดอลล่าร์
มาดูกันที่เรื่องหน่วยประมวลผล ซึ่ง Apple ใช้ chipset ตัว A8 ที่สั่งผลิตจากโรงงานในไต้หวัน ซึ่งทาง IHS ได้ประเมินว่าต้นทุนของมันตกที่ราคาชุดละ 20 ดอลล่าร์ (แพงกว่า A7 อยู่ประมาณ 3 ดอลล่าร์) ส่วนวงจรของเทคโนโลยี NFC นั้น ทาง IHS คิดรวมๆไปที่ชุดละ 22 ดอลล่าร์ ทั้งของ iphone 6 และ iPhone 6 Plus
ข้อมูลเหล่านี้ เป็นเพียงข้อมูลต้นทุนคร่าวๆ เพราะ จริงแล้ว ก็ยังมีต้นทุนอีกหลายส่วนที่ยังไม่ถูกประเมินหรือเปิดเผย เช่น ต้นทุนด้านการตลาด ค่าสิทธิบัตร ค่าวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ & ฮาร์ดแวร์ และ ค่าขนส่ง เป็นต้น
ที่มา : Re/code
รูปจาก : media.bkainteractive.com