ช่วงไม่กี่วันมานี้เรียกได้ว่ากระแส iPhone 6 Plus ถูกบิดงอได้ง่ายนั้น ทำให้ความเชื่อมั่นต่อผู้ที่ซื้อ iPhone 6 นั้นสั่นคลอนเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็น 1 ในปัญหาใหญ่ของทาง Apple ที่จะต้องชี้แจงให้เหล่าสาวกได้ทราบว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
ซึ่งแน่นอนว่าทาง Apple ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการเปิดแล็บทดลองสุดลับที่ใช้สำหรับรทดลองการบิดงอของ iPhone 6 Plus โดยเฉพาะให้เหล่านักข่าวได้เข้ามาร่วมทดสอบและดูกันแบบจะ ๆ ว่าความจริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ ??
ซึ่งแน่นอนว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Apple ได้เปิดห้องแล็บทดลองให้เหล่านักข่าวได้เข้ามารับชม เพราะเมื่อปี 2010 ก็เคยมีปัญหาเรื่องเสาการรับสัญญาณโทรศัพท์อ่อนเมื่อผู้ใช้งานสัมผัสจุด ๆ หนึ่งของ iPhone 4 มาแล้ว
ซึ่งในเคสนี้ทาง Phil Schiller รองประธานฝ่ายการตลาดแอปเปิ้ล ก็ได้เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องเครื่องบิดงอที่เห็นใน Internet นั้นเรียกได้ว่ามีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับจำนวนเครื่องที่ขายได้
ภาพการทดสอบการนั่งทับ
ซึ่งข้อมูลที่ทาง Apple ไม่เคยเผยออกมาว่าก่อนหน้าที่จะวางจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus นั้น ทาง Apple ได้มีการเปิดแล็บเพื่อทดสอบการกดทับในอริยาบทต่าง ๆ โดยใช้มือถือทั้งสิ้นกว่า 15,000 เครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ได้ถูกทดสอบในประเทศจีน และก็ยังมีอีกหลาย เครื่องได้ถูกส่งมาทดสอบที่ Cupertino, California อีกด้วย
เหล่าวิศวกรหลาย 10 ชีวิตก็ได้มีการทดสอบเครื่องเหล่านี้หลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการกับทับแบบทั้งเครื่อง การกดตามจุดต่าง ๆ ของเครื่อง นั่งทับ หรือแม้แต่การบิดงอก็ตามกว่า 1,000 รอบ !! ซึ่งเหล่าผู้สื่อข่าวก็ได้เข้าไปเก็บภาพออกมาให้ท่านได้รับชมกันที่นี่
เครื่องทดสอบการนั่งทับบนพื้นแข็งแบบเรียบ , พื้นนิ่ม และพื้นแข็งแบบเอียงเฉพาะจุด โดยมีการทดสอบมากกว่า 1,000 ครั้ง เปรียบเสมือนผู้ใช้งานได้ใส่กระเป๋าหลังและได้นั่งทับลงไปที่ตัวเครื่อง
ทดสอบการงอเครื่องตามจุดต่าง ๆ โดยใช้แรงกด 25 กิโลกรัม ผ่านจุดกึ่งกลางของเครื่อง ซึ่งเมื่อปล่อยให้คลายตัวแล้ว ตัวเครื่องก็จะมีการคืนรูปกลับมา
ทดสอบการกดทับแบบจุดด้วยน้ำหนัก 10 กิโลกรัมลงบนกลางเครื่อง
สุดท้ายนี้คือการทดสอบการบิดงอของเครื่อง ซึ่งได้มีการทดสอบทั้ง iPhone 6, iPhone 6 Plus และเครื่อง Macbook Pro โดยการบิดเครื่องตามมุมต่าง ๆ (ใครจะเบี้ยวก่อนกันล่ะนี่ !? )
ทั้งหมดนี้คือการทดสอบของทาง Apple ที่แสดงให้เหล่าผู้เดินทางไปรับชมในงานนี้ได้เห็นกัน ซึ่งก็ได้มีผู้ถ่ายคลิปมาให้เรารับชมกันแบบสด ๆ ที่นี่ !!
ที่มา: recode