เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา Mseed ได้เปิดรายชื่อ 5 ทีมสุดท้าย นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการในงาน Demo Day เปิดโอกาสนักพัฒนาพบนักลงทุนครั้งแรกในไทย ปูทางลุยตลาดโลก พร้อมตั้งเป้าต่อยอดโครงการปี 58 ดัน MSeed เป็นศูนย์กลางพัฒนาอุตสาหกรรมเกมไทย หนุนนักพัฒนารุ่นใหม่ไฟแรงสร้างผลงานคุณภาพ แนะภาครัฐร่วมลงทุน ให้สิทธิประโยชน์กระตุ้นอุตสาหกรรมเกมไทยโดยรวมเติบโต
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มลิ้งค์ เอเชียคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MLINK เปิดเผยว่า MSeed Asia ในนามบริษัทลูกของ เอ็มลิ้งค์ ได้จัดโครงการ MSeed Accelerator เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาเกมไทยรุ่นใหม่ที่มีไฟแรงและมีความคิดสร้างสรรค์ของประเทศไทย ให้สามารถพัฒนาเกมออกให้บริการ สร้างรายได้ทั้งในไทยและในต่าง ประเทศ ถือเป็นการลงทุนในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมูลค่าตลาดอุตสาหกรรมเกมระดับโลกแตะ 1แสนล้านดอลลาร์เป็นมูลค่ามหาศาล และเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศอีกทางหนึ่ง
อีกทั้ง ยังมั่นใจว่าโครงการนี้ จะมีส่วนช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเกมในประเทศไทย โดยภาพรวมอุตสาหกรรมเกมไทย อยู่ในช่วงปรับตัวไปสู่ยุคเกมบนสมาร์ทโฟนที่มีจำนวนผู้เล่นเพิ่มมากขึ้น แทนการเล่นเกมบนคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ ทำให้เกิดนักพัฒนาเกมบนสมาร์ทโฟน โดยคาดว่ามูลค่าตลาดเกมในไทยปีนี้จะแตะ 5,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาทในปี 58 โดยมีปัจจัยคือ จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น และจำนวนผู้เล่นเกมที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย
นายสกลกรย์ สระกวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท MSeed Asia ในเครือเอ็มลิ้งค์ เปิดเผยว่า ตลาดเกมทั้งในไทยและทั่วโลกกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โครงการ MSeed Accelerator จะมาช่วยให้นักพัฒนาเกมไทยที่มีความสามารถ ได้รับการสนับสนุนทางด้านเงินทุน คำปรึกษาด้านธุรกิจและการตลาด ซึ่งที่ผ่านมากว่า 50 ทีมที่ร่วมโครงการได้ผ่านการพัฒนา และมีทีมที่ผ่านเข้ารอบ 10 ทีม จนกระทั่งคัดเลือกให้เหลือ 5 ทีมระดับหัวกะทิจริงๆ เพื่อเข้าร่วมงาน Demo Day นำเสนอผลงานต่อหน้าตัวแทนนักลงทุนและผู้ให้บริการเกม
น.ส.สายใย สระกวี ผู้อำนวยการโครงการ MSeed Accelerator และ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัท เอ็มซีด เอเชีย กล่าวว่า MSeed Asia ให้เงินทุนสำหรับ 10 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก คำปรึกษาด้านการวางแผนธุรกิจและทำตลาด รวมถึงการหาพันธมิตรมาช่วยเหลือ ก่อนจะคัดเลือกเหลือ 5 ทีมสุดท้ายเพื่อมางาน Demo Day นี่คือสะพานที่จะนำนักพัฒนาเกมรุ่นใหม่ไฟแรงไปสู่ตลาดของจริง นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นครั้งแรกที่มีโครงการสนับสนุนนักพัฒนาเกมในประเทศไทย และเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมเกมในไทยอีกด้วย
ทั้งนี้ ทุกทีมที่ผ่านเข้าโครงการ ได้ผ่านการฝึกอบรมเป็นเวลากว่า 3 เดือน เพื่อพัฒนาเกมให้มีคุณภาพ และเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาด จนถึงปัจจุบัน 5 ทีมที่ผ่านเข้าถึงรอบสุดท้ายจะต้องมีเกมที่ผ่านการพัฒนาและปรับปรุงจนพร้อมให้บริการจริงในตลาด
ขณะที่ ทั้ง 5 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อนำเสนอผลงานใน Demo Day ประกอบด้วย

ทีม Infinito ผลงาน Little Guardians

ทีม Lunarcraft ผลงาน Veggie Dog Story

ทีม Snoozefox ผลงาน Chaos Sphere

ทีม Three Stand ผลงาน Han Gusso

ทีม Zaferlab ผลงาน Color Ninja
ด้านคณะกรรมการที่จะเข้ามาร่วมให้คะแนนและตัดสินการแข่งขันในงาน Demo Day ประกอบด้วย
- Masahiko Honmaจาก Incubate Fund ตำเเหน่ง Co-Founder และ General Partner ที่ Incubate Fund นักลงทุนด้านพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือ
- JakobLykkegaard Pedersen จาก Pocket Playlabตำเเหน่ง Co-Founder & CEO ที่ Pocket PlayLab เป็นผู้พัฒนาเกม Juice Cubes ออกสู่ตลาดไทย โดยได้เงินลงทุนจาก Rovio
- กระทิง พูนผล จาก Telenor Asia ตำแหน่ง Commercial Director ที่ Telenor Group ผู้ก่อตั้งโครงการสนับสนุนนักพัฒนาหน้าใหม่หลายต่อหลายโครงการ
- Terry Zhao จาก Garena Thailand ตำเเหน่งCEO ที่ Garena Thailand ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Garena มาโดยตลอด
- ณภพ ธนาธัชรัตน์ หัวหน้าฝ่ายเกมไลน์ประเทศไทย จาก LINE Thailand ผู้ดูเเลเกมของ Line ทั้งหมด เช่น เกมเศรษฐี
สำหรับทั้ง 5 ทีมที่ผ่านมาการคัดเลือก จะได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มอีก 400,000 บาท จากที่ได้รับไปแล้วทีมละ 100,000 บาท รวมเป็นทีมละ 500,000 บาท และจะมีทีมที่โดดเด่นที่สุด เพียงทีมเดียวเท่านั้นที่ได้รับรางวัล เข้าร่วมงาน Game Developer Conference 2015 (GDC2015) ที่เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสได้พบกับนักพัฒนาเกมจากทั่วโลก นักลงทุน และโอกาสในการจับคู่ธุรกิจ
และทีมที่ชนะในการนำเสนอผลงานในวัน Demo Day คว้าชัยไปร่วมงาน GDC 2015 ที่สหรัฐอเมริกานั่นก็คือทีม Snoozefox ผู้พัฒนาเกม Chaos Sphere ที่มีความโดดเด่น อีกทั้งมีแผนธุรกิจและการตลาดที่น่าสนใจที่สุด
สำหรับการสานต่อโครงการ MSeed Accelerator ในปีต่อไป ได้เตรียมประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐเข้ามาร่วมสนับสนุนให้โครงการยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มีเงินทุนช่วยเหลือนักพัฒนามากกว่าเดิม โดยมุ่งหวังให้เป็นงานที่จัดเป็นประจำทุกปี จนกลายเป็นเวทีแสดงความสามารถ เพื่อปั้นนักพัฒนาเกมไทยไปสู่ระดับโลกอย่างยั่งยืน และที่สำคัญยกระดับให้ MSeed Asia เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเกมของไทย ดึงดูดให้นักลงทุนต่างประเทศ เข้ามาลงทุนกับกลุ่มนักพัฒนาเกมของไทย
น.ส.สายใย กล่าวว่า โครงการ MSeed Accelerator ของ MSeed Asia ต้องการสนับสนุนนักพัฒนารุ่นใหม่ แต่เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่สุด ภาครัฐต้องเข้ามามีบทบาท เช่นการเข้ามาร่วมลงทุน หรือมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ การจัดหาแหล่งเงินทุนของรัฐ รวมถึงมีกฎหมายคุ้มครองเกมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยนักพัฒนาไทย เป็นต้น