เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ทาง Oppo ได้จัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ก่อนหน้านี้ได้เผยมาแล้วว่ามันคือ Oppo N3 มือถือตระกูลกล้องหมุนหน้าหลังได้ ซึ่งครั้งนี้มีการปรับปรุงและเพิ่มลูกเล่นใหม่ให้น่าใช้ยิ่งกว่าเดิม
กล้องหมุนได้ 206º แบบอัตโนมัติ
ในรุ่นก่อนๆ ในตระกูล N ของ Oppo การหมุนกล้องจะทำได้ด้วยการจับบิดหมุนเอง แต่ใน N3 จะเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าหมุนให้อัตโนมัติ แถมยังมีดีไซน์แบบหนังหุ้มดูหรูหรา ตัวกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้ชุดเล่นของ Schneider Electric รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K (24fps) และถ่ายภาพรองรับไฟล์สกุล RAW แบบเดียวกันกับในกล้องมืออาชีพ
และด้วยความที่กล้องหมุนได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้สามารถใช้ถ่ายภาพมุมกว้างแบบพาโนราม่าได้อย่างง่ายดาย โดยจะได้ภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีรีโมท Bluetooth O-Click เวอร์ชั่นใหม่ที่พัฒนาด้านการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
หน้าจอใหญ่กำลังดี
Oppo N3 ปรับขนาดหน้าจอลงมาเป็น 5.5 นิ้วที่จับได้ถนัดมือมากกว่าเดิม หน้าจอจะเป็นความละเอียด full HD (1080 x 1920) คมชัดระดับ 403 ppi และกระจกหน้าเป็น Gorilla Glass 3
สเปคภายในแรงเหลือเฟือ
ชิปเซทภายใน Oppo N3 ใช้เป็น Snapdragon 801 MSM8974AA quad-core Krait 400 ความเร็ว 2.3 GHz หน่วยประมวลผลกราฟฟิคเป้น Adreno 330
หน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 32GB เพิ่ม microSD รองรับได้สูงสุด 128GB ส่วน RAM มีมาให้ 2GB
OS ที่สวยงามตามสไตล์ของ Oppo
สำหรับผู้ที่ใช้ Oppo จะรู้ดีเลยว่าระบบปฎิบัติการนั้นทำออกมาได้สวยขนาดไหน สำหรับ Oppo N3 จะใช้เป็น ColorOS 2.0 พัฒนามาจากตัว Android Kitkat 4.4
แบตฯ อย่างอึดพร้อมชาร์จไวทันใจ
เรื่องของแบตเตอรี่นั้น Oppo N3 จัดมาให้แบบเต็มเหนี่ยว 3,000 mAh พร้อมเทคโนโลยี VOOC ที่ช่วยให้ชาร์จไฟเต็มได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว สามารถชาร์จไฟเต็ม 75% ได้ภายในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น
เพิ่มเทคโนโลยีใหม่กับการสแกนนิ้วมือ
หลายเจ้าในตลาดตอนนี้มาเรื่องสแกนลายนิ้วกันหลายเจ้า Oppo ก็ขอด้วยคนโดยที่จะมีตัวเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ที่นอกจากจะเอาไว้ใช้ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยแล้ว ยังเอาไว้ใช้เป็น back trackpad สำหรับเลื่อนบังคับหน้าจอได้อีกด้วย
Oppo N3 ถือว่าเป็นการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ชูจุดเด่นเรื่องของการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งด้านประสิทธิภาพของการถ่ายภาพ และความสะดวกในการใช้งาน ในการเปิดตัวที่สิงคโปร์ยังได้ประกาศราคาขายที่ $649 (ประมาณ 21,000 บาท) แต่ยังไม่ประกาศเรื่องของเวลาออกวางจำหน่าย