Uber เป็นแพลตฟอร์มให้บริการเรียกรถโดยสาร ซึ่งได้ถูกฟ้องร้องเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง ล่าสุดได้แสดงความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหานี้โดยได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยที่เกิดขึ้นครั้งแรกของธุรกิจบริการเรียกรถโดยสาร ซึ่งไม่มีบริษัทใดกล้าทำเช่นนี้ เพราะมีความเสี่ยงทำให้เกิดภาพลบและถูกวิจารณ์ให้เสียหายได้

Uber ได้รายงานเป็นเอกสารจำนวน 84 หน้าโดยเป็นการตรวจสอบข้อมูลที่เกิดขึ้น 2 ปีตั้งแต่ปี 2017 และ 2018 สรุปเป็นหัวข้อหลัก ๆ คือ

  • การเดินทางเฉลี่ยแต่ละวันในสหรัฐอเมริกามีมากกว่า 3.1 ล้านเที่ยว ซึ่งการเดินทางส่วนใหญ่ 99.9% สิ้นสุดลงโดยไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัย
  • 1.4% ของการเดินทาง มีการร้องเรียนหลายรูปแบบที่พบบ่อยที่สุด เช่น ของหาย การคืนเงิน และเสนอแนะเรื่องเส้นทาง
  • 0.1% ของการเดินทาง มีการร้องเรียนด้านความปลอดภัยที่รุนแรงน้อย เช่น การเบรกที่รุนแรงหรือการโต้เถียงกัน
  • 0.0003% ของการเดินทาง เกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญ 8 เหตุการณ์

เหตุการณ์ที่สำคัญในปี 2017 และ 2018 คือ การล่วงละเมิดทางเพศที่ Uber ได้สรุปเป็นตารางมีดังนี้

ตารางการล่วงละเมิดทางเพศของ Uber ในปี 2017 และ 2018

ตารางการล่วงละเมิดทางเพศของ Uber ในปี 2017 และ 2018

การล่วงละเมิดทางเพศตลอดทั้งสองปีเกิดขึ้น 5,981 ครั้ง ปี 2017 เกิดเหตุ 2,936 ครั้ง ส่วนปี 2018 เกิดเหตุ 3,045 ครั้ง โดยมีตั้งแต่จูบ พยายามข่มขืน สัมผัสร่างกาย จูบส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และข่มขืน (ทั้งหมดเกิดจากความไม่ยินยอมทั้งสิ้น) ได้แก่

  • จูบที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ ปี 2017 เกิด 570 ครั้ง ส่วนปี 2018 เกิด 594 ครั้ง
  • พยายามข่มขืน (พยายามสอดใส่ทางเพศ) ปี 2017 เกิด 307 ครั้ง ส่วนปี 2018 เกิด 280 ครั้ง
  • การสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ปี 2017 เกิด 1,440 ครั้ง ส่วนปี 2018 เกิด 1,560 ครั้ง
  • จูบส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ปี 2017 เกิด 390 ครั้ง ส่วนปี 2018 เกิด 376 ครั้ง
  • ข่มขืน (สอดใส่ทางเพศ) ปี 2017 เกิด 229 ครั้ง ส่วนปี 2018 เกิด 235 ครั้ง

Karen Baker หัวหน้าศูนย์ทรัพยากรความรุนแรงทางเพศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกากล่าวด้วยความยินดีกับรายงานฉบับนี้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยทำให้การทำงานปลอดภัยยิ่งขึ้นในอนาคต

การรายงานข้อมูลด้านความปลอดภัยใน 2 ปีที่ผ่านมาของ Uber แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่ลดปัญหาด้านความปลอดภัย แม้ว่าเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านกรมขนส่งของลอนดอนได้ปฏิเสธ Uber ต่อใบอนุญาตเพราะมีปัญหาด้านความปลอดภัย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างอุทธรณ์แต่ยังให้เปิดบริการในช่วงนี้ได้ ดังนั้นเพื่อเสถียรภาพในการให้บริการในอนาคต Uber จึงตั้งใจออกมาเปิดเผยถึงปัญหาและนำเสนอวิธีแก้ไขอย่างจริงจัง เชื่อว่านอกจาก Uber แล้วผู้ให้บริการรายอื่นอย่าง Lyft ของสหรัฐ และ Didi ของจีนจะออกมาร่วมเสนอวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ไปด้วยกัน

ที่มา : bbc และ uber-assets

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส