เหตุการณ์นี้กลายเป็นไวรัลที่แชร์ต่อกันบนโลกออนไลน์อย่างมากในช่วงสองวันนี้ เป็นหัวข้อโต้แย้งกันในวงกว้างว่ากรณีนี้ใครผิดใครถูก เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากหญิงอเมริกันชื่อว่า เวนดิ วิลเลียมส์ เธอโดยสารสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ ขึ้นจากเมืองนิว ออร์ลีน ปลายทางที่เมืองชาร์ล็อตต์, นอร์ธ แคโรไลนา เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2020 เวนดิได้ที่นั่งก่อนหลังสุด ระหว่างทางเธอก็เอนเบาะนั่งไปด้านหลัง แต่ชายในเบาะด้านหลังเธอเป็นที่นั่งหลังสุดชิดผนังไม่สามารถเอนเบาะได้ เมื่อเวนดิเอนเบาะลงมา ทำให้เขาเหลือที่คับแคบ เบาะของเวนดิเกือบถึงหน้าของเขาแล้ว สร้างความฉุนเฉียวให้กับชายผู้นั้น เขาจึงระบายออกด้วยการชกไปที่เบาะของเวนดิซ้ำ ๆ ด้วยอารมณ์หงุดหงิด
สิ่งที่เวนดิทำเพื่อโต้ตอบสถานการณ์นี้ก็คือยกไอโฟนมาอัดคลิปที่ชายผู้นั้นกำลังตั้งหน้าตั้งตาต่อยที่นั่งของเธอ พอเขาเห็นเธอบันทึกวิดีโอ เขาก็ยิ่งต่อยเบาะของเวนดิรุนแรงขึ้น เวนดิจึงแจ้งเหตุกับแอร์โฮสเตส แต่การตอบรับจากแอร์โฮสเตสนั้น เวนดิบอกว่าผิดคาด เพราะแอร์โฮสเตสกลับเข้าข้างชายเบาะหลัง ว่าเขาถูกริดรอนพื้นที่จนเหลือนิดเดียว แถมยังขอเอาเครื่องดื่มมาขอโทษเขาอีกด้วย แอร์โฮสเตสยังขอร้องให้เธอลบคลิปวิดีโอที่เธอบันทึกทันที เมื่อเวนดิปฏิเสธ ก็ได้รับจดหมายแจ้งเตือนจากสายการบิน ‘Passenger Disturbance Notice’ ระบุว่าพฤติกรรมเธอนั้นเข้าข่ายฝ่าฝืนกฏหมายของสหรัฐฯ เวนดิจะต้องลบคลิปวิดีโอนั้นเดี๋ยวนี้ ไม่เช่่นนั้นจะถูกเชิญให้ลงจากเครื่อง ทำให้เวนดิยินยอมลบคลิปวิดีโอนั้น
พฤติกรรมที่เข้าข่ายการฝ่าฝืนนี้รวมไปถึง การข่มขู่, กรรโชก, ก้าวก่ายการทำงานของลูกเรือ, สูบบุหรี่, ดื่มแอลกอฮอล์ที่นำมาเอง หรือรบกวนผู้อื่นอันมีเหตุมาจากความมึนเมา ซึ่งเวนดิบอกว่าทุกข้อที่กล่าวมาไม่ตรงกับสถานการณ์ของเธอเลย
เวนดิยังอ้างอึกว่า เหตุที่เธอต้องเอนเบาะไปด้านหลังนั้น เพราะเธอมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เธอได้รับการผ่าตัดช่วงหลังมาแล้วหลายครั้ง แม้ขณะนี้กระดูกสันหลังเธอยังมีไททาเนียมดามอยู่เลย การที่ถูกต่อยเบาะซ้ำ ๆ แบบนี้ อาจจะกระทบกระเทือนหลังเธอ อาการบาดเจ็บอาจจะกลับมารุนแรงอีกก็เป็นได้ จนถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้ไป MRI สแกนเลย เพราะว่าค่าใช้จ่ายมันแพงมาก ตอนนี้เธอต้องการให้สายการบินแสดงความรับผิดชอบในค่ารักษาพยาบาลตัวเธอด้วย
ไม่พอแค่นั้นเวนดิ ยังเรียกร้องให้สายการบินเปิดเผยตัวตนของชายที่ต่อยเบาะเธอ เพื่อเธอจะได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับเขา แล้วสายการบินจะต้องไล่แอร์โฮสเตสคนที่มายื่นจดหมายเตือนเธอออกจากงานอีกด้วย เพราะเธอมีวิธีการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างไม่ถูกไม่ควร
This video has the internet legitimately divided .
Dude is in the last seat on the plane. Seat doesn’t recline.
Hers does. And she reclines.
He’s upset, and is punching her seat incessantly— so she records.
Who is right?!
Who is wrong?!See you at 7p on #FOX5LION@fox5dc pic.twitter.com/jjjTLLwvEc
— Marina Marraco (@MarinaMarraco) February 12, 2020
หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่าเหตุเกิดตั้งแต่ 31 ม.ค. 2020 แล้วทำไมถึงเรื่องราวถึงเพิ่งมาถูกเปิดเผย จนกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างในวันนี้ ประเด็นมันเกิดจากเวนดิ ไปเจอว่าไฟล์วิดีโอที่เธอถูกแอร์โฮสเตสขอให้ลบไปแล้วนั้น ยังไม่ได้ ถูกลบโดยถาวร แต่ย้ายไปอยู่ในโฟลเดอร์ “Recently Deleted” พอเวนดิเจอว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวยังอยู่ เธอจึงโพสต์วิดีโอนี้ผ่านทางทวิตเตอร์ของเธอ ทำให้คลิปกลายเป็นไวรัลที่สร้างข้อโต้แย้งในวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ในคลิปของเวนดิถูกหยิบมาพูดถึงในหลาย ๆ สื่อ ทั้งหลาย ๆ รายการทางโทรทัศน์ที่เชิญผู้เชี่ยวชาญ สันทัดกรณีในหลาย ๆ วงการมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ส่วนชาวเน็ตก็ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็มองว่าเวนดิทำถูกต้องแล้ว เธอใช้สิทธิของเธอ อีกส่วนหนึ่งก็อยู่ฝ่ายชายเบาะหลังว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำต่างหาก
มีการสอบถามความเห็นนี้ไปกับ เอ็ด บาสเทน CEO ของเดลตา แอร์ไลน์ สายการบินใหญ่ ซึ่งเอ็ดก็ให้ความเห็นสั้น ๆ เพียงว่า กรณีน่าจะไม่กลายเป็นปัญหา ถ้าเพียงแค่ผู้โดยสารต่างมีมารยาทเคารพซึ่งกันและกัน
“ผมว่าถ้าเรารู้ว่าคนที่นั่งอยู่เบาะข้างหลังเรา เขาเป็นคนตัวสูงนะ แล้วเราอาจจะอยากเอนหลังเบาะลงไปสักหน่อย ผมว่าการมีมารยาททางสังคมต่อกัน ทุกอย่างก็น่าจะโอเค”
ส่วนตัวแทนสายการบิน อเมริกัน แอร์ไลน์ ได้ออกมาให้ข้อมูลจากทางฝั่งของเขาว่า ทางแอร์โฮสเตสพยายามคลี่คลายสถานการณ์ด้วยการขอร้องให้เวนดิหยุดบันทึกวิดีโอเสียก่อน ปัญหามันเริ่มจากเวนดิที่เอนเบาะลงไปโดนแก้วน้ำของผู้โดยสารเบาะหลัง กรณีเช่นนี้มันจะไม่เป็นปัญหาเลย ทางเพียงผู้โดยสารมีความเคารพซึ่งกันและกัน
ส่วนคุณผู้อ่านละครับ มีความเห็นเช่นไร มองว่าใครถูกใครผิดในเหตุการณ์นี้?