มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้ประกาศยกเลิกการเรียนในห้องเรียนตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมเป็นต้นไป หลังจากมีเจ้าหน้าที่ในคลินิกของมหาวิทยาลัยท่านหนึ่งติดเชื้อ COVID-19 ส่วนนักศึกษาระดับปริญญาตรีสองคนที่มหาวิทลาลัยได้ทำการกักตัวหลังจากสงสัยว่าติดเชื้อได้ทำการทดสอบแล้วไม่ติดไวรัส
ศุกร์ที่ 6 มีนาคม Persis Drell ผู้บริหารโปรแกรมวิชาการ (provost) ของสแตนฟอร์ดกล่าวว่ามหาวิทยาลัยจะทำการย้ายการเรียนไปอยู่บนออนไลน์ตามความเป็นไปได้ ส่วนการสอบไตรมาสฤดูหนาวของสแตนฟอร์ดจะอยู่ในสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้ โดยจะใช้รูปแบบนั่งทำข้อสอบที่บ้านหรือเรียกว่า Take-Home Examination
Take-Home Examination System เป็นระบบที่กฎหมายอนุญาตให้โรงเรียนทำการทดสอบนักเรียนจากที่บ้านผ่านอินเทอร์เน็ตได้ โดยการดาวน์โหลดคำถามในรูปแบบเอกสาร PDF จากนั้นให้นักเรียนตอบคำถามลงในไฟล์เอกสาร .docx, .docm, .doc, .wpd, .rtf หรือ .txt อยู่ในไฟล์เดียว (ห้ามแยกไฟล์) แล้วอัปโหลดคำตอบภายในเวลาที่กำหนด คือ เวลาที่กำหนดจากเซิร์ฟเวอร์เท่านั้นไม่ใช่เวลาที่คอมพิวเตอร์ที่บ้าน
มหาวิทยาลัยจะยังคงเปิดดำเนินงานปกติ แต่จะยกเลิกงาน Admit Weekend ของปีนี้ระหว่างวันที่ 23 – 25 เมษายน ซึ่งเป็นงานต้อนรับนักศึกษาใหม่เข้ามาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยและยังยกเลิกการทัวร์ในมหาวิทยาลัยทั้งหมด รวมทั้งก่อนหน้านี้ได้ระงับการเรียนหลักสูตรนานาชาติในต่างประเทศด้วย
อัปเดตสถานการณ์ COVID-19 ในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคมของเมือง Santa Clara County ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดตั้งอยู่นั้น มีรายงานจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 จำนวนมากที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนียโดยเพิ่มขึ้นเป็น 24 ราย สแตนฟอร์ดเป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่แห่งที่สองที่ได้ยกเลิกการเรียนในห้องเรียนเนื่องจาก COVID-19
ส่วนมหาวิทยาลัยวอชิงตันจะย้ายการเรียนไปอยู่บนออนไลน์โดยเริ่มตั้งแต่ 9 มีนาคมไปจนสิ้นสุดฤดูหนาว ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของสหรัฐฯ ที่ระงับการเรียนในห้องเรียนเนื่องจาก COVID-19 และโชคดีอย่างมากที่ประกาศระงับการเรียนในห้องเรียนก่อนที่ได้ตรวจพบว่ามีพนักงานคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยติดเชื้อ COVID-19
ที่มา : theverge
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส