หลังจากเมื่อวานนี้ (19 มีนาคม) มีรายงานจากประเทศจีนว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 ในประเทศจีนรายใหม่แล้ว ซึ่งนับเป็นข่าวที่น่ายินดีที่มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในจีนเริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้น และด้วยเหตุนี้ทำให้โรงภาพยนตร์กว่า 70,000 โรง (ทำให้จีนครองสถิติประเทศที่มีโรงภาพยนตร์มากที่สุดในโลก) เริ่มวางแผนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง แต่ก็จะยังไม่นำหนังชนโรงหรือหนังที่เข้าฉายในช่วงก่อนเกิดวิกฤติมาฉาย โดยจะนำหนังดังในอดีตมาใช้เรียกความเชื่อมั่นจากคนดูในเบื้องต้นก่อน

ประชาชนชาวจีนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติมากขึ้น (Miguel Candela/SOPA Images/Shutterstock)

ประชาชนชาวจีนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติมากขึ้น (Miguel Candela/SOPA Images/Shutterstock)

มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เริ่มผ่อนปรนและอนุญาตให้ชาวจีนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้ซบเซาไปมากกว่านี้ ในส่วนของโรงภาพยนตร์นั้น เมื่อวันพุธที่ผ่านมาโรงภาพยนตร์เล็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลจากเมืองที่มีการระบาดหนักในมณฑลซินเจียง ชิงไห่ และฝูเจี้ยน จำนวน 17 โรงได้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว ส่วนในมณฑลใหญ่ ๆ ที่มีประชาชนจำนวนมากอย่างชิงเต่าและเสฉวน ยังอยู่ระหว่างภาครัฐตัดสินใจและวางนโยบายรวมถึงมาตรการต่าง ๆ ในการเปิดให้บริการของโรงภาพยนตร์

Wanda Cinema เครือโรงหนังที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศจีน

Wanda Cinema เครือโรงหนังที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม ค่ายหนังต่าง ๆ ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนักที่จะนำโปรแกรมทองประจำปีช่วงตรุษจีนหรือเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมากลับมาฉายในช่วงนี้ เนื่องจากไม่แน่ใจว่าประชาชนจะกล้ากลับมาชมหนังในสภาวะแบบนี้มากน้อยแค่ไหน สมาคมผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ของจีนจึงได้มีการตกลงร่วมกันกับค่ายหนังเพื่อหาทางออกร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ตั้งแต่การตกลงให้รายได้จากการฉายหนัง 43% จะเป็นของค่ายหนังที่นำหนังเข้าฉาย อีก 51% เป็นของโรงภาพยนตร์ (ส่วนที่เหลือเป็นภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายให้กับภาครัฐ)

นอกจากนี้ก็ยังมีแผนจะนำภาพยนตร์ดังที่เป็นหนังจีนทำเงินสูงสุดของแต่ละปีในอดีต ทั้ง Wolf Warrior 2 (2017) หรือกองพันธุ์หมาป่า, The Wandering Earth หรือปฏิบัติการฝ่าสุริยะ (2019) ที่บ้านเราดูได้ทาง Netflix, Wolf Totem (2015), ผลงานการสร้างของเฉินหลงเรื่อง American Dreams in China (2013) หรือสามซ่ากล้าท้าฝัน และ Capernaum (2018) ที่กลายเป็นหนังฮิตเซอร์ไพรส์ในเมืองจีนเมืองปีที่แล้ว กวาดรายได้ไป 54 ล้านเหรียญสหรัฐ กลับมาฉายเพื่อเรียกคนดูกลับเข้าโรงก่อน

Wolf Warrior 2 (2017)

Wolf Warrior 2 (2017)

The Wandering Earth (2019)

The Wandering Earth (2019)

American Dreams In China

American Dreams In China (2013)

ส่วนฟากฝั่งหนังต่างประเทศที่เป็นฝั่งตะวันตก ก็มีรายงานว่า ค่าย Warner Brothers ก็เตรียมจะส่ง Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (2001) หรือหนังพ่อมดน้อยภาคแรกที่ไปทำให้ความละเอียดสูงระดับ 4K เข้าฉาย ส่วนหนังต่างประเทศเรื่องอื่น ๆ นั้นอยู่ระหว่างตัวแทนผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ในจีนจะต้องกลับไปพูดคุยกับตัวแทนจัดจำหน่ายหนังต่างประเทศต่อไป ซึ่งคาดว่าโปรแกรมชุดแรกที่จะเข้าฉายช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมเป็นต้นไป จะเป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่พลาดการเข้าฉายตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมไปถึงหนังคุณภาพรางวัลออสการ์ทั้งหลายด้วย

โปสเตอร์ Harry Potter ภาคแรกที่จะกลับมาเข้าฉายในจีนแบบความคมชัด 4K

โปสเตอร์ Harry Potter ภาคแรกที่จะกลับมาเข้าฉายในจีนแบบความคมชัด 4K

อ้างอิง

อ้างอิง

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส